“เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำแตะ 1,500 ลบ.ม. ต่อเนื่องวันที่ 2 รอรับ “ฝนตกหนัก”

“เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำแตะ 1,500 ลบ.ม. ต่อเนื่องวันที่ 2 รอรับ “ฝนตกหนัก”

“เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำแตะ 1,500 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องวันที่ 2 รอรับ “ฝนตกหนัก” จนถึงวันที่ 9 ก.ย. 2567 พร้อมเตือนประชาชน 11 จังหวัด เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

วันที่ 4 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อน เพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสมทบ อีกทั้งยังมีการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบของพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ปราการด่านสุดท้ายที่เป็นกุญแจสำคัญก่อนน้ำเข้าสู่กรุงเทพฯ

ตอนนี้แม้ว่าจะปรับเร่งระบายมวลน้ำก้อนมหึมาที่มาจากอุทกภัยทางภาคเหนือ จะเป็นการระบายแบบขั้นบันได แต่ยังมีฝนที่ตกอยู่อย่างต่อเนื่องคอยเพิ่มระดับน้ำให้สูงขึ้นตามฤดูกาล ตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ฝนจะตกหนักจนถึงวันที่ 9 ก.ย. 2567 นี้

สำหรับปัจจุบัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,525 ลบ.ม./วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.74 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.82 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 3.52 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,498 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จึงส่งผลทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก 18 ซม. แจ้งเตือนให้ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ จ.อยุธยา รีบขนของขึ้นที่สูง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ กรมชลประทานก็ยังขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ในพื้นที่ 11 จังหวัดของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จ.อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร ยังคงต้องเฝ้าติดตามและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ทางนายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่และทางช่างทำการซ่อมบำรุงตัวควบคุมประตูระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน ตามคำสั่งของกรมชลประทานต่อไป

ทางด้านคณะสงฆ์ของวัดหลวงปู่สี ฉันทสิริ หรือ วัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์ ได้เดินทางมาดูน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้เห็นกับตาถึงสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ เนื่องจากทางวัดก็เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำท่วมทุกครั้งเช่นกัน น้ำท่วมแต่ละครั้งก็สงสารชาวบ้าน ต้องทนทุกข์ทั้งเรื่องอาหาร ยารักษาโรค ต้องอยู่อย่างลำบาก.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,484 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed