หนุ่ม 28 ไลฟ์สดคิดสั้น ขับรถพุ่งลงแม่น้ำพร้อมลูกสาววัยขวบเศษ ล่าสุดเจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว ส่วนลูกน้อยอาการโคม่า-โอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อดีตภรรยาเผยผู้ตายป่วยจิตเป็นไบโพลาร์-เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง
จากกรณีมีชายรายหนึ่งไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “ขุนแผน แดนใต้” ขณะขับรถเก๋งพร้อมลูกสาววัย 1 ขวบ พุ่งลงไปในแม่น้ำตรัง บริเวณใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (สะพานย่านซื่อ) ตรงข้ามกับวัดย่านซื่อ หมู่ที่ 3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ช่วยกันลงไปลากรถเก๋งคันดังกล่าวขึ้นมาบนฝั่ง ซึ่งอยู่ในสภาพจมน้ำเกือบมิดหลังคา ลอยไปติดตอม่อสะพานห่างจากฝั่งประมาณ 6 เมตร จากนั้นช่วยกันนำตัวคนขับและลูกน้อยออกมาจากรถ ซึ่งอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัวทั้งคู่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งปั๊มหัวใจช่วยเหลือ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมาคือ นายกวีวัฒน์ ตั้นเจว หรือโกแบงค์ ควนธานี อายุ 28 ปี ส่วนลูกน้อยเพศหญิง เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ
ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.ตรัง เพื่อติดตามอาการทั้งคู่ โดยได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยฯว่า นายกวีวัฒน์ เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนอาการของเด็กหญิงวัย 1 ขวบ ล่าสุดอาการยังโคม่า ซึ่งทีมแพทย์ยืนยันว่าจะพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ
ขณะที่ น.ส.ลภัสรดา เครือสุวรรณ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงวัย 1 ขวบ และเป็นอดีตภรรยาของ นายกวีวัฒน์ ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตานองหน้าว่า หมอแจ้งอาการล่าสุดของลูกสาวว่า มีโอกาสรอดชีวิตเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะสมองตายไปแล้ว หากต้องยื้อชีวิตก็มีเพียงแค่หัวใจที่ยังเต้น ซึ่งหมอก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ตลอด โดยตอนแรกที่รับน้องขึ้นมาจากน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลาปั๊มหัวใจน้องกว่า 30 นาที ซึ่งโอกาสรอดก็ยากอยู่แล้ว หลังจากส่งตัวน้องจาก รพ.กันตัง มารักษาต่อที่ รพ.ตรัง อาการน้องก็ไม่ตอบสนองแล้ว ซึ่งหลังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแจ้งเมื่อเช้านี้ว่า โอกาสรอแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารอดก็เป็นเจ้าหญิงนิทรา
น.ส.ลภัสรดา เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนพยายามจะไปเอาลูกมาเลี้ยงเอง เพราะอดีตสามีพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง เราเห็นจากการโพสต์บนโซเชียลมีเดียมาตลอด เราก็พยายามแคปหน้าจอไว้ทุกช่องทาง และไปแจ้งตำรวจไว้ เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานในการไปขอลูกคืน แต่อดีตสามีก็บอกให้ไปฟ้องศาล เพราะที่ผ่านมาเราพยายามเจรจาแต่ไม่ลงตัว เราก็ทราบว่าเขาป่วยจิตเวช มีอาการไบโพลาร์ อารมณ์ 2 ขั้ว สุดท้ายก็มีการเจรจาขอเจอลูกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งตนก็จะซื้อของใช้ให้ลูก ขอแค่ได้เจอหน้าลูก ส่วนสาเหตุของการตัดสินใจจบชีวิตในหลายครั้งของอดีตสามี ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเงิน เห็นได้จากการตัดพ้อผ่านโซเชียลมีเดียบ่อยๆ เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง และชอบโพสต์หาค่านมลูกผ่านทางโซเชียลมีเดียบ่อยๆ
ด้าน นางอารี สุดทเมือง อายุ 57 ปี ยายของเด็กหญิงวัย 1 ขวบ เล่าว่า ปกติหลานเป็นเด็กร่าเริงอารมณ์ดี ตอนนี้ตนหัวใจสลายเมื่อทราบข่าวว่าหลานมีโอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ หมอให้ดูอาการคืนนี้อีก 1 คืน และการที่พ่อเขาตัดสินใจทำแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนเขาก็ไลฟ์สดและพยายามฆ่าตัวตายพร้อมลูกที่สะพานแก้มดำ แต่ทางเราก็พยายามเอาหลานกลับคืนมา แต่เขาไม่ให้แค่จะไปเยี่ยมก็ยังไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าทางญาติเขารักหรือห่วงแบบไหน ถึงไม่ให้เราพบหน้าเลย สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรเราก็ไม่รู้เลย เพราะหลานอยู่กับเราสภาพจิตใจเขาดี
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/