สึกแล้ว-ทั้งน้ำตา เจ้าอาวาสในคลิปออรัลเซ็กซ์ดูดดื่ม ขอความเป็นธรรม ยันไม่ใช่ตัวเอง ถูกกลั่นแกล้ง ด้าน ผู้ใหญ่บ้าน บอกไม่ขอพูดจริงไม่จริง แต่ปฏิเสธเรื่องอมเงินวัด เตรียมแจ้งความพลเมืองดีใส่ร้าย
จากกรณีที่มีพลเมืองดี ร้องเรียน กรณี พระสงฆ์ ทำออรัลเซ็กซ์ ให้กับชายรายหนึ่งในห้องนอน ภายในวัดบริบูรณ์วราราม ม.2 บ้านเสี้ยว ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยพลเมืองดีให้ข้อมูลมาว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าว คือ พระประสิทธิ์ ธรรมะกาโม อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พบพระประสิทธิ์ ธรรมะกาโม อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสวัด นั่งพักอยู่หน้ากุฏิ จึงได้สอบถามถึงคลิปพระสงฆ์ที่ทำออรัลเซ็กซ์ ให้กับชายรายหนึ่ง ในห้องนอน ภายในวัดบริบูรณ์วราราม ซึ่งเจ้าอาวาสยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวเอง และไม่ทราบว่าคนส่งคลิปต้องการอะไร เพราะบวชมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 มีพระครูเขมะ วุฒิการ เจ้าคณะอำเภอภูเวียง เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นในปี 2564 ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบริบูรณ์วราราม
“อาตมาไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยมีปัญหากับชาวบ้านแต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าคนทำคลิป หรือส่งคลิปให้นักข่าวนั้นต้องการอะไร ขอยืนยันว่าดูคลิปแล้วไม่ใช่ตัวเอง และไม่เคยอมของลับให้ผู้ชายรายใด เนื่องจากพระสงฆ์ไม่สามารถประพฤติตนผิดวินัยได้”
พระประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า กรณีคลิปนั้น หากเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เห็นคลิปแล้ว ลงความเห็นว่าเป็นตนแล้ว ให้สึกจากพระ ก็ยินดีรับฟังมติ และยินดีสึก แต่ก็ยังยืนยันว่าในคลิปไม่ใช่ตัวเอง และถ้าสึกจากพระแล้ว ก็จะกลับไปอยู่ที่บ้านกับญาติพี่น้องที่อำเภอหนองเรือ จ.ขอนแก่น
ต่อมาเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน พระอธิการปรีดี ผลญาโน ที่ปรึกษาคณะสงฆ์วัดป่ากิตติญาณ และเป็นเจ้าคณะตำบลสงเปือย ฝ่ายธรรมยุติ พร้อมด้วย พระนาวิน อนาลโย พระเลขานุการเจเคณะอำเภอ ลงพื้นที่มายังวัดบริบูรณ์วราราม เพื่อตรวจสอบและสอบสวนเจ้าอาวาสวัด ถึงคลิปที่มีการอมของลับของผู้ชายจากเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งพระประสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดปฏิเสธว่าในคลิปไม่ใช่ตนเอง แต่ทางคณะสงฆ์ลงความเห็นว่าเป็นพระประสิทธิ์ และให้สึกจากการเป็นพระสงฆ์ ซึ่งพระประสิทธิ์ก็ทำการสึกทันทีทั้งน้ำตา
พระอธิการปรีดี ผลญาโน ที่ปรึกษาคณะสงฆ์วัดป่ากิตติญาณ และเป็นเจ้าคณะตำบลสงเปือย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ไม่ต้องตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม เพราะในคลิปดังกล่าว ปรากฏภาพพระประสิทธิ์ ชัดเจน และเป็นความผิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับพระสงฆ์ พระสงฆ์ไม่ควรประพฤติตนเช่นนี้ คณะสงฆ์จึงลงความเห็นว่า พระประสิทธิ์ ต้องสึกจากพระทันที และก็สึกเรียบร้อยแล้ว
หลังการสึกจากพระ และพ้นจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดแล้วนั้น นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ในคลิปนั้นยังยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน แต่ห้องนอน คือห้องนอนที่ตัวเองนอน ที่นอนก็ใช่ ผ้าม่านก็ใช่ สถานที่ก็ใช่ แต่ตัวคนไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งคนที่ทำเรื่องนี้ต้องการจะทำลายตัวเอง และเชื่อว่าเป็นการกระทำของผู้ชายที่ชื่อโก้ เป็นคนทางภาคใต้ ที่เคยมาอาศัยอยู่ด้วยนานเป็นเดือน
“นายโก้มาอยู่วัด มาช่วยเหลือต่างๆ นานา จึงไว้ใจเอากุญแจกุฏิให้หนึ่งดอก และนายโก้เคยชวนตัวเองไปอยู่วัดที่นครศรีธรรมราช แต่ตัวเองไม่ไป และไล่ให้นายโก้ออกจากวัด น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายโก้เกิดความไม่พอใจ หาเรื่องกลั่นแกล้งทำลายตน จึงขอความเป็นธรรมให้ตนด้วย และขอยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน”
ในขณะที่ นายอานนท์ ขุนสะท้าน อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่าเสี้ยว ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น กล่าวถึงคลิปพระสงฆ์ หรือเจ้าอาวาสวัด ทำออรัลเซ็กซ์ให้ชายหนุ่มภายในห้องนอนของเจ้าอาวาสภายในวัดว่า เห็นคลิปดังกล่าวมาประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยมีชายหนุ่มอายุประมาณ 40 ปี ทราบเพียงชื่อเล่นว่านายโก้ ชาว อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ส่งมาให้ เนื่องจากนายโก้มาอยู่ที่วัดกับเจ้าอาวาสประมาณ 2 เดือน ในช่วงเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีการซื้อสิ่งของเครื่องใช้เข้ามาให้เจ้าอาวาส ติดแอร์นอนในกุฏิเจ้าอาวาส ทำให้ค่าไฟฟ้าในวัดแพงขึ้น จึงมาตรวจสอบ จนพบนายโก้นอนอยู่ในวัด ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน จึงขอตรวจสอบรายละเอียด ชื่อที่อยู่ของคนแปลกหน้าที่เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่นายโก้ไม่ยอมให้ตรวจสอบ จนมีเรื่องกับลูกบ้าน จึงได้เชิญนายโก้ออกจากหมู่บ้าน โดยนายโก้ได้รื้อเอาสิ่งของและเครื่องใช้ที่ซื้อมาให้วัดออกไปด้วย
เมื่อนายโก้ออกไปได้ประมาณ 1 เดือน ก็ส่งคลิป มาให้ โดยบอกว่าเป็นคลิปเจ้าอาวาสกับชายหนุ่มคู่ขา จึงได้บอกกับนายโก้ว่า ให้มารับรองเรื่องคลิปให้ด้วย เพราะถ้ามีคลิป ต้องมีที่มาของคลิป ถ้าไม่รับรองก็เท่ากับว่าใส่ร้ายเจ้าอาวาส แต่นายโก้ไม่มารับรองให้ และหายออกจากหมู่บ้านไป กระทั่งคลิปไปโผล่กับสื่อมวลชนดังกล่าว
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอีกว่า ในเรื่องของเจ้าอาวาสวัดทำออรัลเซ็กซ์ ให้กับชายรายหนึ่ง ในห้องนอน ภายในวัดนั้น จริงไม่จริงไม่ขอพูด แต่เมื่อคณะสงฆ์ลงความเห็นว่าใช่และให้สึกไปแล้วก็จบกันไป แต่จะเอาเรื่องนายโก้ กรณีที่นายโก้ ใส่ร้ายว่า อมเงินวัด เอาเงินวัดไปใช้ส่วนตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเป็นผู้ใหญ่บ้านมาหลายปี ไม่เคยสร้างความเสื่อมเสียให้หมู่บ้าน ส่วนเงินวัด ก็นำมาสร้างวัด และทำนุบำรุงพระศาสนา ซ่อมแซมที่พักสงฆ์ พระและชาวบ้านก็ทราบรายละเอียด
นายโก้เป็นคนนอกพื้นที่ มาอาศัยอยู่วัดไม่นานก็มาใส่ร้าย จึงรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
