สาวกำแพงเพชร โดนไป 10 ล้านบาท ลงทุน “ดิไอคอน” ยอมรับเครียดเคยจะคิดสั้น

สาวกำแพงเพชร โดนไป 10 ล้านบาท ลงทุน “ดิไอคอน” ยอมรับเครียดเคยจะคิดสั้น

ผู้เสียหายลงทุนธุรกิจ “ดิไอคอน” โผล่ต่อเนื่อง รายล่าสุดเป็นหญิงสาวชาวกำแพงเพชร สูญเงิน 10 ล้านบาท เกิดความเครียดจนเคยจะคิดสั้น ต้องขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา หลังผ่อนคลายสภาพจิตใจดีขึ้น เดินทางร้อง “ไผ่ ลิกค์” ช่วยเหลือ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ พาผู้เสียหายเข้าให้ปากคำ

ความคืบหน้าคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่จังหวัดกำแพงเพชร มีตัวแทนครอบครัวผู้เสียหายที่ไปลงทุนธุรกิจ ดิ ไอคอน เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท เข้าพบกับนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมขอให้ประสานงานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร

ซึ่งหลังจากการพูดคุย ผู้เสียหายได้นำเอกสาร ข้อความหลักฐานต่างๆ และรูปถ่ายกับบรรดาเหล่าบอสดารา พร้อมกับเล่ารายละเอียดความเสียหายทั้งหมดให้ฟัง ซึ่งเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

โดยผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เงินที่นำไปร่วมลงทุนนั้น เป็นเงินที่ได้มาจากการค้าขาย สะสมเก็บไว้เป็นกองทุนเลี้ยงบุตรและครอบครัว อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินในเครือญาติ ซึ่งเริ่มแรกตนได้เข้าไปเรียนและซื้อของในระบบ เริ่มจาก 2,500 บาท จากนั้นซื้อของเพิ่มอีกเป็น 25,000 บาท ต่อมาญาติได้เดินทางมาที่บ้าน ได้พูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจดิไอคอน จึงเป็นที่น่าสนใจ จึงได้ชวนกันไปเปิดบิลเป็นดีลเลอร์ จึงเป็นจุดที่ได้เข้าไปประชุมพร้อมกับเปิดบิล และได้เจอกับบรรดาบอสๆ ทั้งหลาย

หลังจากเปิดบิลไปแล้วไม่เป็นเหมือนที่คิด ไม่เน้นการขาย แต่เน้นการชักชวนคนให้มาร่วมทุนเพิ่ม ส่วนแรงจูงใจในการทำให้หลงเชื่อร่วมลงทุนกับธุรกิจดิไอคอนนั้น มีการนำผลงานโชว์ความสำเร็จ จากการทำกำไรได้มาก เพียงในระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่นในหนึ่งเดือนได้หนึ่งล้าน

ซึ่งหลังจากลงทุนไปแล้ว ธุรกิจไม่สวยเหมือนผลงานที่นำมาโชว์ ทำให้ตนเสียหายร่วมกับญาติ ลงทุนไปนับ 10 ล้านบาท ยอมรับว่าปัจจุบันนี้มีความเครียด จนเคยจะคิดสั้นมาแล้ว จึงต้องเข้าไปขอคำปรึกษากับนักจิตวิทยา จนทำให้มีความผ่อนคลายความเครียดลงได้มาก

ทางด้านนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายในจังหวัดกำแพงเพชร พบว่ามีผู้เสียหายหลายรายเช่นกัน ในส่วนของรายนี้ พบว่ามีความเสียหายร่วมกับเครือญาติ สูงถึง 10 ล้านบาท ถึงกับจะคิดสั้น ซึ่งผู้เสียหายประกอบอาชีพค้าขาย ในพื้นที่อำเภอคลองขลุง แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมา การประกอบอาชีพของประชาชน ประสบปัญหาโควิดได้รับความบอบช้ำ การค้าขายไม่ดี จึงคิดที่จะเอาเงินเก็บสะสมไว้มาลงทุน โดยมีเครือญาติร่วมลงทุนด้วย

มองว่าที่ผ่านมา ประชาชนผ่านความยากลำบาก จากสถานการณ์โควิด-19 มาแล้ว ยังมาถูกซ้ำเติมให้ลงทุน หลอกให้ประชาชนมีความหวัง ที่จะได้เงินจากธุรกิจ ทำให้ชีวิตดีขึ้น สำหรับเรื่องนี้ ตนพร้อมที่จะสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างช่วยเหลือผู้เสียหาย

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,612 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *