สสจ.น่าน ร่วมกับ อบจ.น่าน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร ปฐมพยาบาลและช่วยปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ (อฉพ.) จังหวัดน่าน รุ่นที่ 1 ประจำปี 2566
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมพุทธมนต์โชติคุณ ชั้น 5 อาคารสิริเวชรักษ์ โรงพยาบาลน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรปฐมพยาบาลและช่วยปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ (อฉพ.) จังหวัดน่าน รุ่นที่ 1 ประจำปี 2566 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน บูรณาการร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ตามหลักสูตร 16 ชั่วโมง รวม 2 วัน ให้แก่อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 115 คน
จากสถานการณ์ผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ที่มาด้วยระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือ Emergency Medical System (EMS) ของจังหวัดน่าน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีจำนวนรับแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1,784,576 เหตุการณ์ จำนวนปฏิบัติการกู้ชีพ 1,821,507 ครั้ง มีจำนวนผู้ป่วยฉุกเฉินที่มาด้วยระบบ EMS จำนวน 1,820,862 ราย และ แจ้งเหตุผ่านหมายเลข 1669 คิดเป็นร้อยละ 88.98 ซึ่งจำเป็นต้องมีชุดปฏิบัติการฉุกเฉินที่เพียงพอ และมีขีดความสามารถในการดำเนินงานการแพทย์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพ
การอบรมเชิงปฏิบัติการฯ จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินทุกคนได้รับปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ทั่วถึง เท่าเทียม และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ในจังหวัดน่าน ให้เพียงพอและมีสมรรถนะตามเกณฑ์มาตรฐาน สามารถออกปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการระดมทรัพยากรในพื้นที่ ให้สามารถช่วยเหลือผู้ที่เจ็บป่วยฉุกเฉินทั้งในภาวะปกติและในภาวะภัยพิบัติ โดยมีระบบการรับแจ้งเหตุ ระบบการข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ ระบบการลำเลียงขนย้ายและการส่งผู้เจ็บ ฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลที่เหมาะสมได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งการอบรมครั้งนี้ มีทีมอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์จากพื้นที่ 15 อำเภอ จำนวน 115 คน เข้าการอบรมฯ เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินผลตามสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกำหนด ประกอบด้วย การสอบภาคทฤษฎี โดยกำหนดให้มีการทดสอบ ซึ่งใช้ข้อสอบกลางจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในการจัดสอบและผู้เข้ารับการอบรมต้องสอบผ่านตามเกณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 การสอบภาคปฏิบัติ ต้องผ่านการสอบปฏิบัติในห้องเรียนผ่านครบทุกทักษะ และสอบผ่านสถานการณ์จำลอง 6 ฐาน รวมถึงผลการปฏิบัติการฉุกเฉินในสถานการณ์จริง โดยปฏิบัติการฉุกเฉินนอกโรงพยาบาลครบตามกำหนด จำนวน 10 ครั้ง
ที่มา:ข่าวความมั่นคงออนไลน์
