สว.กำนันร้องสื่อ แม่และลูกสาว ถูกกระบะเมาขับชนดับ ผ่านไปกว่า2เดือนคดีไม่คืบ
วันที่ 28 มีนาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 42/1 ม.3 ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุเทพ สังข์ศิริ อายุ 50 ปี สารวัตรกำนัน ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า นส.พัชราวลัย(ลูกสาว)สังข์ศิริ อายุ 30 ปี และนางผ่อง(มารดา)สังข์ศิริ อายุ70 ปี ได้ขี่รถจักยานยนต์ยี้ห้อ ฮอนด้าคลิก สีดำ ป้ายทะเบียน1กง-5753 จ.ประจวบฯ กำลังกลับบ้านพัก บนถนนภายในหมู่บ้านหนองเอื้อง – บ้านทุ่งขาม ม.6 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ก่อนถูก นายอดินันท์ พรหมประเสริฐ อายุ 40 ปี อปพร.อบต.เขากระปุก อ.ท่ายาง ขับรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีเทา ป้ายทะเบียน บบ-8379-จ.เพชรบุรี เสียหลักพุ่งเข้าเลนเข้ามาชนประสานงาแม่และลูกสาวจนกระเด็นเสียชีวิตคาที่ 2 ราย ผลตรวจวัตแอลกอฮอล์ 252 มิลิกรัมเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่คดียังไม่คืบหน้าไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาคนขับกระบะแต่อย่างใด งานศพก็ไม่เคยมาร่วมงานไม่เคยมาพูดคุยและเยี่ยวยาครอบครัวแต่อย่างใด เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1ม.ค.66ที่ผ่านมา
นายสุเทพ สังข์ศิริ อายุ 50 ปี สารวัตรกำนัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีผู้ใหญ่บ้านโทรมาแจ้งตนว่า มีอุบัติเหตุรถชนกัน จากนั้นแจ้งว่าเป็นแม่กับลูกสาวของตน จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบสภาพศพแม่และลูกสาวที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ร่างหักแหลกเหลวเสียชีวิตคาที่ทั้ง 2คน รถ จยย.พังยับ คนขับกระบะบาดเจ็บมีคนพาไปส่งโรงพยาบาลก่อนหน้าแล้ว ตนคุยกับ ร.ต.ท.ศิวกร กิจวงศ์ภักดิ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี ดูสถานที่เกิดเหตุพบว่ารถยนต์กระบะแหกโค้งพุ่งเข้ามาชนแม่กับลูกสาวของตนอย่างจัง ก่อนรถเสียหลักไปชนต้นไม้ ร่างของลูกสาวกระเด็นไปไกลประมาณ 20 เมตร ตนไปที่โรงพักร้อยเวรแจ้งว่าผลแอลกอฮอล์ของคนขับกระบะ สูงถึง252 มิลิกรัมเกินกว่ากฎหมายกำหนด
จากนั้น 6 มีนาคม ร้อยเวรได้นัดทั้ง 2ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยที่ สภ.ท่าไม่รวก ฝั่งคนขับรถกระบะไม่มาอ้างว่าลืม ร้อยเวรแจ้งว่าหากคนขับกระบะหนีก็ติดคุก 20 ปี ตนจึงถามร้อยเวรว่าทำไมถึงไม่มีการจับกุม ร้อยเวรแจ้งว่าจับกุมไม่ได้เหตุการณ์ไม่ซึ่งหน้า รอผลตรวจวัดแอลแอลกอฮอล์ยังไม่ออก หลังจากนั้นผลแอลกอฮอล์ออกแล้วได้นัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง โดยคนขับกระบะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ครอบครัวจัดงานศพ 7 วัน คนขับกระบะไม่เคยมาร่วมงานศพเลยแม้แต่วันเดี่ยว ไม่เคยเข้ามาดูแลพูดคุยหรือเยียวยาครอบครัวแต่อย่างใด ได้แต่ส่งคนรู้จักนำพวงหรีดมาให้และมาคุยว่าจะเอาเงินมาให้จำนวนหนึ่งเพื่อไม่ให้ดำเนินคดีกับคนขับกระบะ ตนก็ยังติดใจอีกว่าได้ให้หากคำกับร้อยเวรไปแล้วว่า ลูกสาวตนเป็นคนขี่รถ จยย. แม่นั่งซ้อนท้าย เพราะแม่ขี่ จยย.ไม่เป็น แต่ในรายงานชันสูตรพลิกศพแจ้งว่าแม่ของตนเป็นผู้ขับขี่รถ จยยย.ซึ่งไม่เป็นความจริง พอนำเอกสารไปแจ้งใบมรณะบัตรทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ดูใบชันสูตรพลิกศพเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าแม่ตนเป็นผู้ขับขี่รถจยย. เหตุการณ์ผ่านมาแล้วกว่า2เดือนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมคนขับกระบะแต่อย่างใด โดยรถกระบะได้นำกลับไปซ่อมที่บ้านแล้วทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด หลักฐานทางร้อยเวรคนขับกระบะผิดแน่นอนอีกทั้งตรวจวัดยังพบแอลกอฮอล์สูงกว่ากฎหมายที่กำหนดไว้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะครอบครัวได้สูญเสียทั้งแม่และลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ
ที่มา:ข่าวความมั่นคงออนไลน์