นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีนายพิษณุ พลธี ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับหน่วยงาน เพื่อกำกับดูแลและผลักดันมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา โดยจากนี้ไปจะมีความเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีมาตรการสั่งการทุกโรงเรียนในการตรวจค้นกระเป๋านักเรียนตามอำนาจหน้าที่ หากพบจะต้องนำส่งมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการทำลาย ซึ่งก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนพฤษภาคมนี้ สพฐ.จะคิกคอฟเปิดปฏิบัติการป้องกันบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน โดยปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็นการยกระดับการทำงานภายในโรงเรียนให้เข้มข้น ทั้งนี้ฝากผู้ปกครองกับโรงเรียนขอให้ช่วยกันดูแลป้องกันบุตรหลานของตัวเอง เพราะโทษทางกฎหมายในการพกบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษหนัก
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ยท. เครือข่ายเด็ก เยาวชน เครือข่ายทำงานสร้างเสริมสุขภาพทั่วประเทศไทย และ สสส. ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งหลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการปราบปรามอย่างต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนว่าร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะรอบสถานศึกษาได้ปิดตัวลงเกือบทั้งหมด ซึ่ง ยท.ได้ลงสำรวจพบว่าไม่มีร้านใดเปิดจำหน่ายอีก หากรัฐบาลคงมาตรการการปราบปรามเข้มงวดลักษณะนี้ต่อไปอย่างน้อย 3 เดือน จะทำให้ความต้องการบุหรี่ไฟฟ้าของไทยมีโอกาสหายไปที่สุด ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า เยาวชนในสถานพินิจก่อนที่จะได้รับโทษคดียาเสพติด เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าและพัฒนาไปสู่การใช้ยาเสพติดอื่นๆ ดังนั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ได้ผลคือการปกป้องเด็กและเยาวชนไทยจากการเข้าถึงบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าด้วย.
ที่มา ไทยรัฐ