เหตุไฟไหม้ที่โคราชซ้ำ 2 เหตุติด ทั้งบ้านเรือน-ห้างใต้ฟ้าฯ โดยเทศบาลนครโคราช ส่งวิศวกรเข้าตรวจสอบโครงสร้างห้างในวันนี้ เบื้องต้นระงับใช้อาคาร เจ้าของยันไฟฟ้าห้างไม่ลัดวงจร เสียหายไปราว 60 ล้าน
กรณีเกิดเหตุไฟไหม้ซ้ำ 2 วันติดที่นครราชสีมา โดยล่าสุดเกิดไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 พฤษภาคม 2566) เวลาประมาณ 20.00 น. ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลพลกรัง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งลูกข่ายกู้ภัย ฮุก 31 โคราช จุดพลกรัง ได้รับการประสานขอสนับสนุนอาสากู้ภัยเข้าช่วยระงับเหตุ และเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังโหมไหม้บ้านเรือนประชาชน เป็นบ้าน 2 ชั้น ด้านล่างเป็นปูน ด้านบนเป็นไม้ สภาพเก่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมด้วยรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลขามทะเลสอ 2 คัน, จากเทศบาลตำบลบ้านใหม่ 1 คัน และจากเทศบาลตำบลปรุใหญ่ อีก 1 คัน เร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ได้สังเกตเห็นกลุ่มควันและเปลวไฟพุ่งออกมาจากช่วงกลางของบ้านหลังที่เกิดเหตุ จึงรีบไปปลุกเจ้าของบ้านเป็นชาย อายุ 45 ปี (ขอสงวนชื่อ) ที่กำลังนอนหลับอยู่ด้านในบ้านเพียงลำพัง แล้วช่วยกันนำออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับโทรแจ้งกู้ภัยกับเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ให้มาช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านก็ช่วยกันเร่งฉีดน้ำที่กำแพงและตัวบ้านเรือน สกัดไม่ให้เพลิงไฟลามถึง เพราะไฟโหมไหม้บ้านหลังเกิดเหตุอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นบ้านเก่าที่ปลูกสร้างมานาน และมีข้าวของอยู่ภายในจำนวนมาก เพราะเปิดเป็นร้านขายของชำและมีน้ำมันเชื้อเพลิงใส่ขวดขายด้วย จึงน่าจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลามไหม้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำมาฉีดดับเพลิง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถดับเพลิงได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับสภาพบ้านเป็นบ้านเก่า สายไฟต่างๆ ภายในตัวบ้านใช้งานมานาน และน่าจะเริ่มเปื่อยชำรุด จึงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดเป็นไฟไหม้ขึ้น จนบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง โชคดีที่เจ้าของบ้านปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองถิ่นจะได้เร่งเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป
ส่วนเหตุไฟไหม้ร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ถนนจอมสุรางค์ยาตร เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ใหญ่ที่สุดในตัวเมืองนครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 พฤษภาคม 2566) โดยเพลิงได้ลุกไหม้จากสาเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมด้านข้างของตัวอาคารระเบิด แล้วไฟช็อตลามเป็นแนวยาว มีประกายไฟกระเด็นเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าของร้านใต้ฟ้าฯ ต้องระดมรถน้ำกว่า 20 คันจากหน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิงเอาไว้นานกว่า 4 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ
ล่าสุด วันที่ 9 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง พบเจ้าหน้าที่สำนักการช่างของเทศบาลนครนครราชสีมา กำลังเข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคาร และได้พบกับ นางศรีสุรางค์ จงเจริญใจ อายุ 70 ปี ประธานบริหารใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ซึ่งเปิดเผยว่า “ร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส เปิดบริการมานานกว่า 20 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้มาก่อน และทางร้านก็จำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว ย่อมจะรู้เรื่องระบบการป้องกันกระแสไฟฟ้าช็อตเป็นอย่างดี ยืนยันว่าเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าช็อตภายในตัวอาคารของร้าน เนื่องจากเป็นช่วงเช้า ยังไม่มีใครมาทำงาน จึงยังไม่มีการเปิดระบบสับคัตเอาต์ไฟขึ้น เพื่อใช้ไฟแต่อย่างใด
ประธานบริหารใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส กล่าวต่อว่า กรณีที่มีสื่อบางสำนัก บอกว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในตัวอาคาร จึงไม่เป็นความจริง เพราะสาเหตุที่แท้จริง เกิดจากหม้อแปลงระเบิดแล้วไปลามไหม้ มีสะเก็ดไฟกระเด็นมาถูกอาคารและสิ่งของที่เก็บไว้ภายในโกดัง และขอยืนยันว่าในตัวอาคาร ไม่มีแก๊สหุงต้มจัดเก็บอยู่ภายในตัวอาคารอย่างแน่นอน จึงขอปฏิเสธแก้ข่าวในเรื่องนี้ เพราะทางร้านจะใช้ระบบสับคัตเอาต์ขึ้น เพื่อเปิดระบบ สัญญาณซีคอมฯ (SECOM Smart Security) เป็นระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร จะเปิดขึ้นทันที ส่วนเสียงระเบิดที่ได้ยินเป็นเสียงจากหม้อแปลงขนาดใหญ่ ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ ตอนนี้เรื่องสินค้าที่เสียหายในเบื้องต้นก็ประมาณ 60 กว่าล้านแล้ว จะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ไม่รู้ว่าจะเสียหายทั้งหมดเท่าไร
ด้าน นายชัชวาล วัฒนบรรจง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า เปลวไฟที่โหมไหม้ตัวอาคารใต้ฟ้าฯ ไม่ได้ไหม้ถึงโครงสร้างหลัก จึงไม่น่าเป็นห่วง เพราะไฟจะไหม้อาคารเฉพาะชั้นลอยทางปีกขวาของตัวอาคาร และมีหลังคาเมทัลชีทที่คลุมชั้นลอยที่ถูกไฟไหม้ด้วย โดยตอนนี้เทศบาลนครฯ ออกคำสั่ง ค.11 ประกาศกรณีฉุกเฉิน ให้เป็นอาคารที่ไม่มั่นคงต่อการใช้งานชั่วคราว ให้ออกไปจากตัวอาคารก่อน ซึ่งผู้ประกอบกิจการได้มายื่นขอซ่อมแซมและแสดงรายการคำนวณของวิศวกร ว่าสามารถจะรองรับโครงสร้างไหว และนำผู้ควบคุมดูแลมาด้วย
ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา กล่าวด้วยว่า ส่วนที่เป็นโครงเหล็กถูกไฟไหม้เป็นเวลานาน จนทำให้เสื่อมสภาพ ไม่สามารถใช้งานต่อได้ ก็จะต้องรื้อออกไป และวันนี้เทศบาลนครฯ จะมีหนังสือคำสั่ง ค.11 มาติดประกาศเอาไว้ เพื่อระงับการใช้อาคารชั่วคราว แต่จะปิดกี่วันก็ขึ้นอยู่กับทางร้าน จะส่งรายการคำนวณของวิศวกรมายืนยันชัดเจน ว่าไม่ได้กระทบกระเทือนต่อโครงสร้างหลัก และส่วนไหนจะรื้อออกไปบ้าง ก็ให้นำมาแจ้งกับสำนักการช่างฯ ซึ่งทางสำนักฯ จะมีวิศวกรและผู้ควบคุมงานไปตรวจสอบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งหากถูกต้องก็สามารถเข้าซ่อมแซมได้เลย หรือถ้าเห็นว่าไม่ไปกระทบกระเทือนพื้นที่ค้าขายหลักของตัวอาคาร ก็ต้องตรวจสอบเพื่อให้การรับรอง จึงจะสามารถเปิดใช้อาคารได้.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/