“วันวิสาขบูชา” วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เปิดบทสวด สถานที่จัดงาน วันวิสาขบูชา 2568 สำหรับคนที่จะไปทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน และน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า
“วันวิสาขบูชา” วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งวันวิสาขบูชา 2568 นี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 โดยในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะมีกิจกรรมทางศาสนา เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม รักษาศีล เจริญภาวนา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ นอกจากนี้วัดต่างๆ จะจัดกิจกรรมเวียนเทียนในช่วงเย็น
สถานที่จัดงานวันวิสาขบูชา 2568
สำหรับจัดพิธีกรรมเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มักนิยมเริ่มขึ้นในช่วงเย็นและช่วงค่ำ ประมาณ 17.00-20.00 น. เพื่อจะได้เห็นแสงเปลวเทียนสว่างไสว สำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการไปเวียนเทียน ทำบุญ เนื่องในวันวิสาขบูชา 2568 สามารถเดินทางไปได้ทุกวัดทั่วไทย รวมถึงวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลกด้วย
พุทธมณฑล นครปฐม
ขณะที่ มหาเถรสมาคมร่วมกับรัฐบาลโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมทำบุญ ตักบาตร ปฏิบัติธรรม และเวียนเทียน ถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 โดยส่วนกลาง จัดขึ้น ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และวัดทุกวัดทั่วไทย และวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลก
โดยในช่วงเวลา 17.00 น. จะมีการแสดงธรรมเทศนา พิธีทอดผ้าป่าพุทธมณฑล และพิธีเวียนเทียน

รวมบทสวดมนต์ วันวิสาขบูชา
สำหรับบทสวดมนต์ที่พระสงฆ์นิยมสวดในวันวิสาขบูชาก่อนทำการเวียนเทียน นิยมสวดทั้งบาลีและคำแปล ดังนี้
บทบูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ (กราบ)
นมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ )
บทสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วัชชาจะระณะสัมปันโน สุขโต โลกะวิทู อนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ สวดทำนองสรภัญญะ
(นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับพร้อมกัน) สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์ ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ ข้าขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ สัมพุทธการุญ- ญภาพนั้นนิรันดร (กราบ)
บทสรรเสริญพระธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก, อะกาลิโก, เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก, ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ (กราบ)
บทสรรเสริญพระธรรมคุณ สวดทำนองสรภัญญะ
(นำ) ธรรมะคือคุณากร (รับพร้อมกัน) ส่วนชอบสาธร ดุจดวงประทีปชัชวาล แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาน
สว่างกระจ่างใจมล ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล และเก้านับทั้งนฤพาน สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร พิสุทธิ์พิเศษสุกใส อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง คือทางดำเนินดุจครอง ให้ล่วงลุปอง ยังโลกอุดรโดยตรง ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง ด้วยจิตและกายวาจาฯ (กราบ)
บทสรรเสริญพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง, จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐปุริสปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกสังโฆ อาหุเนยโย, ปาหุเนยโย, ทักขิเนยโย, อัญชะลีกะระณีโย, อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสรรเสริญพระสังฆคุณ สวดทำนองสรภัญญะ
(นำ) สงฆ์ใดสาวกศาสดา (รับพร้อมกัน) รับปฏิบัติมา แต่องค์สมเด็จภควันต์ เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน ระงับและดับทุกข์ภัย โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส สะอาดและปราศมัวหมอง เหินห่างทางข้าศึกปอง บ มิลำพอง ด้วยกายและวาจาใจ เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- ศาลแด่โลกัย และเกิดพิบูลย์พูนผล สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์ อเนกจะนับเหลือตรา
ข้าขอนพหมู่พระศรา พกทรงคุณา นุคุณประดุจรำพัน ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน อุดมดิเรกนิรัติศัย จงช่วยขจัดโพยภัย อันตรายใดใด
จงดับและกลับเสื่อมสูญ (กราบ)
บทสวดบูชา วันวิสาขบูชา
(หันทะ มะยัง วิสาขะปะณามะคาถาโย ภะณามะ เส)
วิสาขะ ปุณณะมายัง โยชาโต อันติมะชาติยา
ปัตโต จะ อะภิสัมโพธิง อะโถปิ ปะรินิพพุโต
โลเก อะนุตตะโร สัตถา ทะยาณาณัณณะวาสะโย
นายะโก โมกขะมัคคัสมิ ติวิธัตถูปะเทสะโก
มะหาการุณิกัง พุทธัง มะยันตัง สะระณัง คะตา
อามิเสหิ จะ ปูเชนตา ธัมเม จะ ปะฏิปัตติยา
อิมันทานิ สุนักขัตตัง อะภิมังคะละสัมมะตัง
วิสาโขฬุกะยุตเตนะ ปุณณะจันเทนะ ลักขิตัง
สัมปัตตา อะนุกาเลนะ พุทธานุสสะระณาระหัง
ชาติ สัมโพธิ นิพพานะ กาละภูตัง สะยัมภุโน
ตัง สัมมานุสสะระมานา สุจิรัง นิพพุตา มะปิ
ปะสันนาการัง กะโรนตา สักกาเร อะภิสัชชิยะ
ทัณฑะทีเป ทีปะฆะเร มาลาวิกะติอาทะโย
ตัสเสวะ ปูชะนัตถายะ ยะถาสะติ ยะถาพะลัง
สะมาหะริตวา เอกัตถะ ฐะปะยิมหา ยะถาระหัง
นะรานัญจาปิ สัพเพสัง สัมธัมเม สัมปะสีทะตัง
ธัมมัสสะวะนัง กะริสสามะ สัมพุทธะคุณะทีปะนัง
พุทธัสสุโพธิตาทีนัง ทีปะนัตถัง มะเหสิโนติฯ

บทสวดมนต์ขณะเวียนเทียน
จุดธูปเทียนและถือดอกไม้เป็นเครื่องสักการบูชาในมือ แล้วเดินเวียนรอบปูชนียสถาน 3 รอบ โดยขณะที่เดินนั้นพึงตั้งจิตให้สงบ พร้อมสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบทอิติปิโส
รอบที่หนึ่ง ระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบทอิติปิโส
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
(คำแปล)
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
รอบที่สอง ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวดสวากขาโต
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
(คำแปล)
พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้ ฯ
รอบที่สาม ระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวดสุปะฏิปันโน
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
(คำแปล)
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติดีแล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ นั่นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่จัดไว้ต้อนรับ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้
เวียนจบ 3 รอบ จากนั้นนำธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาตามปูชนียสถาน จึงเป็นอันเสร็จพิธี