วอนช่วยลูก 4 ขวบ ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดรุนแรง เคราะห์ซ้ำ แม่ไตวายระยะสุดท้าย พ่อขายสมบัติมารักษาลูกจนหมด
ตามที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ น.ส.จีระวดี อินทร์พะเนาว์ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “ขอรับบริจาคเงินจากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ก คนละ 5 บาท 10 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของลูกชายคือ ด.ช.ภูดิท หาญทองหลาง หรือน้องภู อายุ 4 ขวบ 6 เดือน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดรุนแรง ชื่อว่า ฟิลาดิเฟีย เป็นในโครโมโซม การรักษาต้องใช้ยานอกบัญชีควบคู่ไปด้วย ราคาเม็ดละ1400 บาทและไม่สามารถเบิกได้ และตัวเองก็ตรวจพบว่า เป็นไตวายระยะสุดท้าย ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ค่าใช้จ่ายมีมากอยู่แล้วก็เพิ่มมากขึ้นอีก พ่อน้องต้องคอยดูแลทั้งแม่และลูก ไม่สามารถทิ้งไปทำงานที่ไกลๆ ได้ เราจึงขอความกรุณาทุกท่านที่เห็นข้อความขอความช่วยเหลือนี้ ท่านที่มีจิตใจเมตตากรุณาช่วยบริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อยช่วยครอบครัวเรา 2 แม่ลูกด้วยนะคะ” ซึ่งหลังจากโพสต์เรื่องราวออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวนี้เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (25 มิถุนายน 2566) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 61/1 บ้านพะไลน้อย หมู่ 9 ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา พบกับครอบครัวของ น.ส.จีระวดี อินทร์พะเนาว์ อายุ 40 ปี ผู้โพสต์ เพื่อสอบถามอาการของ 2 แม่ลูก ซึ่งพบ น.ส.จีระวดี เจ้าของบ้าน พร้อมกับสามี ชื่อนายจำนงค์ หาญทองหลาง อายุ 35 ปี รออยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านไม้ยกพื้นสูง โดยมี ด.ช.ภูดิท หรือ น้องภู ลูกชาย อายุ 4 ขวบ 6 เดือน นอนอยู่ในเปลที่ผูกไว้ใต้ถุนบ้าน โดย น.ส.จีระวดี เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นพนักงานออฟฟิศ ได้แต่งงานอยู่กินกับสามีอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้ตั้งครรภ์ ร่างกายก็ปกติดี จนอายุครรภ์ได้ 7 เดือน ตนและสามีได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ อ.ชุมพวงในช่วงปีใหม่ ระหว่างนั้น ตนมีอาการความดันขึ้นสูง ญาติๆ จึงนำส่ง รพ. และอาการไม่ดี จึงจำเป็นต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด ตนจึงลาออกจากงานมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งหลังคลอดลูกชายก็ปกติดี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
จนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขณะนั้นลูกชายอายุ 3 ขวบ ได้ป่วยเป็นไข้ ตัวร้อน จึงพาไปหาหมอ ได้ยาแก้ไข้มากินแต่ก็ไม่หาย จึงไปหาหมออีกครั้งที่คลินิกใน จ.บุรีรัมย์ และหมอที่คลินิกได้เขียนโน้ตเล็กๆ เพื่อให้ตนนำมาให้หมอที่ รพ.ชุมพวง ทาง รพ.ชุมพวง จึงเจาะเลือดของลูกชายไปตรวจ ผลตรวจปรากฏว่า เม็ดเลือดขาวตีบ ทาง รพ.ชุมพวงจึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งอาการของน้องภูตอนนั้น คือเป็นไข้ ตามตัวมีจ้ำแดงๆ และผลตรวจที่ รพ.มหาราชฯ ระบุว่า น้องภูเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ยังไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่า มีความเสี่ยงขนาดไหน ช่วงนั้นจึงให้การรักษาตามอาการไปก่อน
จนผ่านไปประมาณ 1 เดือน ตนมีอาการป่วยและได้ตรวจร่างกายพบว่า เป็นไตวาย จึงเข้ารักษาที่ รพ.มหาราชฯ โดยตนและลูกชายนอนรักษาตัวอยู่คนละตึก ซึ่งต่อมา หมอแจ้งว่า น้องภูเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดรุนแรงชื่อว่า ฟิลาเดลเฟีย เป็นมะเร็งในโครโมโซม การรักษาต้องใช้ยานอกบัญชีควบคู่ไปด้วย ซึ่งไม่สามารถเบิกได้ ราคาเม็ดละ 1, 400 บาท จะต้องกินวันละ 2 เม็ด คุณหมอถามว่า ตนสามารถจ่ายไหวหรือไม่ ในตอนนั้นตนและสามีเหลือเงินเก็บอยู่ประมาณ 3 หมื่นบาท จึงเอามาจ่ายเป็นค่ารักษาลูกทั้งหมด
ต่อมา ต้องนำทรัพย์สินทุกอย่างในบ้าน รวมถึง รถยนต์ เอาไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่ายาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป รพ.มหาราชฯ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 กิโลเมตร ต้องไป รพ.ทุกสัปดาห์ รักษาน้องภูประมาณ 1 ปีกว่าๆ ยังดีที่น้องภูได้เข้าเป็นผู้ป่วยในโครงการโรคมะเร็งของ รพ.มหาราชฯ จึงไม่ต้องเสียค่ารักษา จะเสียเฉพาะยานอกที่ไม่สามารถเบิกได้เท่านั้น จึงทุ่นค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก
จนต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คิดว่าจะให้เคมีบำบัดแก้น้องภูเป็นรอบสุดท้าย แต่คุณหมอ บอกว่า มะเร็งผุดขึ้นมาอีก และน้องภูจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6 เดือนเท่านั้น เมื่อตนได้ทราบก็ทำอะไรไม่ถูก ถ้าจะต้องรักษาโดยเริ่มนับหนึ่งใหม่ ก็ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่มากมายขนาดนี้ และหมอบอกว่า มีวิธีเดียวที่จะรักษาน้องภูได้ ก็คือการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ค่าใช้จ่ายประมาณ 4 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยในโครงการฯ ค่ารักษาจะลดลงมา เหลืออยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท แต่ตนและสามีก็ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมารักษาลูก เพราะมีลูกแค่คนเดียวและตนไม่สามารถมีลูกได้อีก เพราะเป็นไตวายระยะสุดท้ายด้วย จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอรับบริจาคเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งมีผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยเหลือบ้างแล้วจำนวนหนึ่ง และนายพิทักษ์ พงษ์พิมาย ผู้ใหญ่บ้านพะไลน้อย ก็ได้ช่วยรวบรวมเงินบริจาคจากชาวบ้าน มามอบให้อีก 4,000 บาท
ส่วนรายได้ของครอบครัวในตอนนี้ ก็ได้จากการทำงานรับจ้างของสามี ซึ่งก็ไม่ได้ทำทุกวัน แล้วแต่ว่าวันไหนจะมีใครจ้าง เช่นรับจ้างปลูกมันสำปะหลัง ถากหญ้า ใส่ปุ๋ย ทำทุกอย่างแล้วแต่ใครจะจ้าง ได้ค่าแรงวันละ 250 – 300 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้เลี้ยงไก่ไข่ ประมาณ 30 ตัว ไว้ขายไข่เป็นรายได้เสริม แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมารักษาลูกชายให้มีชีวิตต่อไปให้นานที่สุด จึงอยากวอนผู้ใจบุญ ที่มีใจเมตตาจะช่วยเหลือ สามารถโอนไปได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงศรีฯ สาขา เซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา เลขบัญชี 800-9-50867-4 ชื่อบัญชี น.ส.จีระวดี อินทร์พะเนาว์ หรือจะบริจาคเป็นของใช้จำเป็นของน้องภู ที่จะต้องใช้เป็นประจำ ก็คือผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไซส์ XXL หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 094-287-5558
ที่มา:sanook