ลูกชายเฮียโตพร้อมเมีย พ่อตา แม่ยาย และลูกสาวอีก 2 คน ย่อง พบพนักงานสอบสวน หลังถูกพ่อแจ้งความวางยากักขังหน่วงเหนี่ยว ฮุบสมบัติกว่า 65 ล้านบาท ตำรวจใช้เวลาสอบเครียด นานหลายชั่วโมง พร้อมแจ้งข้อหาลูกชายและพ่อตาแม่ยาย ก่อนยื่นหลักทรัพย์คนละ 5 หมื่นบาท ประกันตัว ออกไป ส่วนลูกสะใภ้กับพี่น้องอีก 2 คน มาให้การ ในฐานะพยาน ไม่ได้ถูกดำเนินคดี
จากกรณีนายสมศักดิ์ รุ่งรักษาธรรม หรือเฮียโต อายุ 67 ปี เจ้าของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ใน อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา อ้างว่า ถูกนายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม อายุ 34 ปี ลูกชายแท้ๆร่วมกับ น.ส.เจนนิจ สื่อสวัสดิ์วณิชย์ อายุ 34 ปี ลูกสะใภ้และครอบครัวลูกสะใภ้กักขังวางยาสลบหมูมานานกว่า 2 ปี และจัดฉากร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถก่อนตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดกยักย้ายทรัพย์สินพ่อกว่า 65 ล้านบาท กระทั่งหนีออกมาได้แจ้งความตำรวจพาค้นโรงผลิตน้ำของพ่อลูกสะใภ้ที่อ้างว่าเป็นที่กักขังทรมาน ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกลูกชายสะใภ้ และผู้เกี่ยวข้องสอบเรียงตัว
ต่อมาช่วงค่ำวันที่ 18 ก.พ. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมานายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม ลูกชายเฮียโต, น.ส.เจนนิจ สื่อสวัสดิ์วณิชย์ ลูกสะใภ้, นายประสงค์ สื่อสวัสดิ์วณิชย์, น.ส.พรทิพย์ ปั้นบัว พ่อตาและแม่ยายนายธวัชชัย รวมถึง น.ส.พีชญา สื่อสวัสดิ์วณิชย์ และ น.ส.แคทรียา สื่อสวัสดิ์วณิชย์ ลูกสาวนายประสงค์ เข้าพบ ร.ต.อ.วรทัศน์ เรืองฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าของคดี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ปากคำในฐานะพยาน พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำหลายชั่วโมงพล.ต.ต.นเรวิชกล่าวว่า เบื้องต้นพนักสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตามที่เฮียโตเข้าแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มคนที่ร่วมกันกักขัง 3 คนประกอบด้วย นายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม บุตรชาย นายประสงค์ สื่อสวัสดิ์วณิชย์ และ น.ส.พรทิพย์ ปั้นบัว พ่อตาแม่ยาย ในฐานความผิดกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและจิตใจ สอดคล้องกับคำให้การของนายสมศักดิ์ และหลักฐานที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นโรงผลิตน้ำและบ้านของพ่อตาแม่ยายนายธวัชชัย รวมถึงคำให้การพยานทั้งสิบปากที่สอบสวนไปก่อนหน้านี้ ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อได้ว่าทั้งสามคนร่วมกันกักขังหน่วงเหนียวเฮียโตตามประจักษ์พยานและหลักฐาน
ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรากล่าวอีกว่า ในส่วนของ น.ส.เจนนิจ ลูกสะใภ้ และพี่น้องอีก 2 คน เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยานไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หลังสอบสวนบุคคลทั้งหมดเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปพิมพ์ลายนิ้วมือจัดทำประวัติ ก่อนที่นายธวัชชัย นายประสงค์ และ น.ส.พรทิพย์ ขอยื่นประกันตัวไปเพื่อต่อสู้คดีในชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าทั้งสามคนแสดงความบริสุทธิ์ใจเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน จึงอนุญาตให้ประกันตัวไปวงเงินทรัพย์สินคนละ 50,000 บาท เพื่อออกไปต่อสู้คดีในกระบวนการของศาลต่อไป