ยื่นคัดค้านประกันตัว 18 ดิไอคอน เหยื่อร้องศาล หวั่นกลุ่มบอส ยุ่งเหยิงพยาน

ยื่นคัดค้านประกันตัว 18 ดิไอคอน เหยื่อร้องศาล หวั่นกลุ่มบอส ยุ่งเหยิงพยาน

ตัวแทนผู้เสียหายคดีดิ ไอคอน รวมตัวยื่นร้องศาลอาญาคัดค้านไม่ให้ปล่อยชั่วคราว“18 บอส” 1 ในเหยื่อแฉ ตอนนี้เหมือนสงครามจิตวิทยาเพราะอีกฝ่ายปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความตลอด สิ่งที่ทำได้คือขอใช้ช่องทางตามกฎหมายจนกว่าคดีสิ้นสุด เหยื่ออีกรายเผยรู้สึกกังวลถ้ากลุ่มบอสได้ประกันตัว เพราะที่ผ่านมาฝ่ายผู้ต้องหาชี้นำสังคมตลอดคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย ด้านโฆษกดีเอสไอห่วงกรณีพยานให้การกลับไปกลับมาไม่น่าจะดีนัก เพราะการกลับคำให้การต้องมีเหตุผลจำเป็นสำคัญจริงๆ

เหยื่อดิ ไอคอน กรุ๊ปยื่นคำร้องขอศาลคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว “บอสพอลและพวก” โดยเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสุรเดช จะระนะธัมโม อายุ 65 ปี และ น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก อายุ 54 ปี ผู้เสียหายคดีถูก “บอสพอล” นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับพวก 18 คน กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ฉ้อโกงประชาชน พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 10 คน นำเอกสารคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายวรัตน์พล กับพวกผู้ต้องหาทั้งหมด

น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุกๆกลุ่มที่ส่งรายชื่อมา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยาเพราะฝ่าย ดิ ไอคอน ปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความด้วยเงื่อนไขใดไม่ทราบ สิ่งที่ทำได้คือมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวไม่มีเงินจ้างทนายความ ขอใช้ช่องทางตามกฎหมายขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าคดีสิ้นสุด เห็นว่ามีการปลุกระดมปลุกปั่นไม่เคยเจอมา ก่อนที่จะยุ่งเหยิงวุ่นวายแจ้งความแล้วไปขอถอนแจ้งความทั้งที่ไม่สามารถทำได้ ไปให้บันทึกปากคำใหม่ แน่นอนจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ไม่ขอก้าวล่วงตัวบทกฎหมาย เชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งจากผู้ต้องหาในเรือนจำออกมาก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว ขนาดยังไม่ออกยังบอกว่าจะฟ้องผู้เสียหายทุกคน ถ้าได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากกว่านี้ขนาดไหน

ด้านนายสุรเดช จะระนะธัมโม 1 ในผู้เสียหายกล่าวว่า ขอใช้สิทธิในฐานะเป็นคู่คดีกับผู้ต้องหาโดยยื่นคัดค้านขอปล่อยชั่วคราว พวกเราเคารพการตัดสินใจของผู้พิพากษาอยากให้เห็นว่าคดีนี้มีผู้เสียหายจริงๆ ไม่ใช่ไม่มีตามคำกล่าวอ้างฝั่งผู้ต้องหา ถึงแม้ท้ายที่สุดจะได้ประกันก็ให้ความเคารพดุลพินิจของศาล ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ตามสิทธิ อย่างไรก็ตาม รู้สึกกังวลถ้าเกิดได้ประกันตัวเพราะที่ผ่านมาฝ่ายผู้ต้องหาชี้นำสังคมว่า คดีนี้ไม่มีผู้เสียหายทั้งที่พวกเราเป็นผู้ถูกกระทำ จะสู้ให้ถึงที่สุดขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายทั้ง 2,800 คน โดยคำคัดค้านการปล่อยชั่วคราว ในวันนี้ ยังมีเอกสารแนบท้ายที่ทนายความฝ่ายผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ลักษณะชี้นำสังคมเพื่อเป็นหลักฐานให้ศาลพิจารณาด้วย

นายสุรเดชกล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายที่นำมาแจ้งในตอนนี้จะต้องมีหลักฐานแจ้งความและตรวจสอบว่าเป็นผู้เสียหายจากคดีนี้ที่แท้จริง เพื่อทำ หลักฐานทั้งหมดเตรียมไว้ยื่นฟ้องแพ่ง ขณะนี้กลุ่มตน มียอดผู้เสียหายที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว 740 คน มูลค่าความเสียหาย 341 ล้านบาท ส่วนกรณีกลุ่มของ ดิ ไอคอน ไปยื่นขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นสิทธิที่จะทำได้ ไม่อยากก้าวล่วงไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดลักษณะม็อบชนม็อบไม่อยากเอาจำนวนคนกดดันอัยการหรือศาล ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานในการพิจารณาคดี ขอมาทำ หน้าที่ภายใต้กฎหมายด้วยการยื่นคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่มีการปลุกม็อบ 2 ฝั่งชนกันแน่นอน

วันเดียวกัน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีที่มีตัวแทนบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดว่า คดีสามารถถอนแจ้งความได้ขณะที่ดีเอสไอยืนยันว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายอ้างว่าที่เข้าแจ้งความเพราะตื่นตระหนก จากการนำเสนอข่าวจะถือแจ้งความเท็จหรือไม่ ว่า เป็นประเด็นที่กังวลเหมือนกัน เพราะหลักการที่พยานจะมาพบพนักงานสอบสวนคือ เรื่องความสมัครใจและมาให้การกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้แจ้งก่อนแล้วว่าการให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงมีโทษทางอาญา ดังนั้น การที่พยานจะกลับคำให้การต้องมีเหตุผลที่จำเป็นสำคัญจริงๆ อธิบายได้ กรณีที่ผู้เสียหายหรือพยาน ดิ ไอคอน ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจจดบันทึกประจำวันไม่ตรงกับคำให้การหรือมีข้อความลักษณะแพตเทิร์นเดียวกัน ดีเอสไอได้ตรวจสอบหรือไม่ประเด็นดังกล่าวยังไม่มีการส่งมาที่ดีเอสไอ แต่เวลาที่ไปเล่าข้อเท็จจริงให้ตำรวจฟัง บางคนอาจพูดตามความเข้าใจตัวเอง แต่ตำรวจจะร้อยเรียงข้อความให้เพื่อให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงในรูปคดี เข้าใจว่าน่าจะเป็นลักษณะนี้มากกว่า ตำรวจอาจไม่ได้จดว่ารายใดพูดอย่างไร เป็นเรื่องการเรียบเรียงถ้อยคำในสำนวนมากกว่า ทั้งนี้ การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีประเด็นในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกแล้ว แต่เรากังวลในส่วนของตัวพยานว่าการให้การกลับไป กลับมาก็ไม่น่าจะดีนัก

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,843 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *