น่าน – ยายไร โมโห เอารองเท้าฟาดหัว ไอ้แบงค์ระหว่างทำแผน
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน จ.น่าน พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงศ์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน จำนวนหนึ่ง นำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ดวงพิกุล อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 50/59 บ้านเจดีย์ หมู่ 15 ต.ดูใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เหตุใช้มีดสปาต้าจี้ยายไร จับมัดมี มัดปาก และชิงทรัพย์เงินในลิ้นชักไปประมาณ 1,000 บาท และขึ้นรถหลบหฟนีไป ปลายทางอุดรธานี แต่ตำรวจภูธรเมืองน่านประสานข้อมูลตำรวจทางหลวง จุดตรวจถาวรน้ำอ่าง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำรวจภูธรเมืองน่านไปรับตัวกลับมาดำเนินคดีเมื่อเวลา 02.30 น. ที่ผ่านมา
โดยระหว่งการทำแผน ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษน่าน ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และกำลังตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน รวมกว่า 40 นาย เนื่องจากเกรง นายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) จะถูกกลุ่มญาติๆ ของยายไรและชาวบ้านรอบๆบ้านยายไร จะรุมทำร้าย เนื่องจากชุดสืบสวนได้ออกหาข่าวตั้งแต่เมื่อวานหลังทางญาติๆ ยายไร ทราบข่าวว่าสามารถจับกุมตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ได้แล้วเมื่อเวลา 17.00 น. พบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มารอนายแบงค์ และช่วงเช้าขณะนำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ออกมาสอบปากคำก็เกือบจะเกิดเหตุวุ่นวาย เนื่องจากญาติของยายไร ได้มาดักรออยู่บริเวณทางเดินระหว่างห้องขังกับห้องสอบสวน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันตัวญาติของยายไรออกไป
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทางญาติยายไรโกรธแค้น เพราะว่า นายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) เคยมาทำงานกับนายบุญน้อง ชายยายไร ขึ้นกินลงกิน อยู่กับคนในบ้านจนคนในบ้านมองว่า นายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล)เป็นเหมือนน้องนุ่งลูกหลานคนหนึ่ง โดยช่วงเช้าพบว่าทางญาติๆ และชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่องนำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) มาทำแผนจึงมารวมตัวกัน 20 กว่าคน ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าจะไปทำแผนช่วงเวลา 16.00 น. แต่ทางญาติของยายไรก็คงยังนั่งรอไม่ยอมไปไหน
จนเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจอาศัยช่วงเวลาที่กลุ่มญาติๆ ของยายไร ไปทานข้าวเที่ยงทำให้เหลือกลุ่มญาติสนิทเพียง 10 กว่าคน รีบนำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงกร่นด่าสารพัด โดยเจ้าหน้าที่ต้องรีบทำแผนเนื่องจากพอชาวบ้านทราบข่าวต่างเริ่มกลับมารวมตัวกัน โดยจุดแรกเป็นจุดที่ขับรถจักรยานยนต์มาจอดข้างบ้าน แล้วเดินเข้าไปหลังบ้านใช้มีดจี้บังคับขึ้นไปบนห้อง จากนั้นมัดมือมัดปาก ลงมารื้อค้นลิ้นชักเก็บเงิน และหนีไปรื้อค้นกระเป๋าที่บริเวณด้านหลังสถานีขนส่งจังหวัดน่าน ระหว่างที่ทำแผนบริเวณจุดรื้อค้นทรัพย์สิน ยายไร ที่นั่งเงียบๆ ดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จู่ๆ ก็ก้มลงไปหยิบรองเท้าแล้วฟาดหัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้าม และรีบนำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ขึ้นรถระหว่างนั้นกลุ่มญาติๆ ของยายไรพยายามจะเข้ามาทำร้ายและรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจุดอื่นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องงดการทำแผน เนื่องจากเมื่อทางญาติของยายไรทราบข่าว ต่างออกไปดักรออยู่ตามจุดต่างๆ เกรงจะเกิดความวุ่นวายทางผู้การจังหวัดน่านจึงสั่งยกเลิก
ด้านนายบุญ น้องชายยายไร กล่าวว่า โกรธอย่างหนัก เพราะมันเอามีดจี้พี่สาว และแขนพี่สาวเคยหักแล้วมาจับมัดไพล่หลังมันทำไมไม่คิดเลยครับ ไม่พอใจทุกอย่างเลย นายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล) ก็อยู่ทำงานด้วยกัน เลี้ยงดูอย่างเต็มที่ ทั้งเหล้าทั้งลาบ กับข้าวไม่อร่อยก็ไปทำมาให้กินใหม่ แต่มันมาทำอย่างนี้ ป้าก็รู้จักมัน ใครๆก็รู้จักมัน มันก็รู้จักป้า เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นำตัวนายประกอบกุล หรือนายแบงค์ (ขอให้สงวนนามสกุล)ไปทำแผนจุดอื่น นายบุญ รีบตัดบทการสัมภาษณ์ทันที แล้วรีบตามเจ้าหน้าที่ไปดูการทำแผนจุดอื่น แต่ได้ทำการยกเลิกทำแผนแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป เป็นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งพ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน จ.น่าน เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย ต่อไป
ที่มา:ข่าวความมั่นคงออนไลน์
