เผาแล้ว “อิคคิว” พ่อพลเอกขอร้องสื่อไม่ให้บันทึกภาพ ไม่อยากให้ภาพเศร้าวนกลับมาให้เห็นอีก ขณะที่ครอบครัวเพื่อนฝูงกอดกันร่ำไห้ เผยพ่อแม่ “อิคคิว” เปิดใจทีมข่าว “เรื่องเล่าเช้านี้” แจงยิบทุกเรื่อง รับเรื่องแชตเป็นการสอนลูกแบบลูกผู้ชาย ไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามหรือให้ร้ายฝ่ายหญิง รวมทั้งเรื่องการยิงปืนเป็นกิจกรรมของลูกผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องการใช้ความรุนแรง อีกทั้งครอบครัวไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ยืนยันเยียวยาครอบครัวจีจี้เต็มที่ แม้ลูกของทั้ง 2 ฝ่ายจะเสียชีวิตไปแล้ว
จากเหตุสลดรักของ 2 หนุ่มสาวในวัยเรียนที่จบลงด้วยความตาย เมื่อ น.ส.สุพิชชา หรือจีจี้ ปรีดาเจริญ อายุ 20 ปี เน็ตไอดอลสาว ถูก นตท.ภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว ชัยวณิชยา อายุ 18 ปี แฟนหนุ่มประธานรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปี 2 ลูกชาย พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย ใช้ปืนยิงเสียชีวิตก่อนหันปากกระบอกปืนยิงตัวตายตาม บนห้องพักชั้น 14 คอนโดคิว อโศก มีผู้พบศพเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ตำรวจ บก.น.1 ได้คลี่คลายคดี พบกล้องวงจรปิดบันทึกภาพน้องจีจี้ลงมารับอิคคิว ก่อนจะพบทั้งคู่เป็นศพไม่มีใครเข้ามาเป็นบุคคลที่ 3 รวมทั้งพบเขม่าดินปืนที่มืออิคคิวเพียงฝ่ายเดียว ศพจีจี้ถูกนำไปสวดพระอภิธรรมที่วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม ขณะที่ครอบครัวอิคคิว นำศพไปสวดพระอภิธรรมที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยาจ.พระนครศรีอยุธยา และจะฌาปนกิจศพในเวลา 11.00 น.วันที่ 22 เม.ย. ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าของเหตุเศร้าครั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 22 เม.ย. ที่ศาลา 5 วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งศพ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย บิดาอิคคิว พร้อมภรรยา คนในครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิทของอิคคิว มาร่วมในพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้ พล.อ.สมชายได้ออกมาขอร้องผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่มาทำข่าว ขอความร่วมมือไม่ให้บันทึกภาพในช่วงของการประกอบพิธี เพราะไม่อยากให้ภาพถูกบันทึกเอาไว้และวนกลับมาให้คนในครอบครัวได้เห็นข่าวอีก ทุกคนยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ครอบครัวไม่อยากจดจำเหตุการณ์หรือภาพนี้ไว้
สำหรับบรรยากาศก่อนฌาปนกิจ ครอบครัว อิคคิวได้เลี้ยงภัตตาหารเพล พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล ระหว่างนั้นมีการประกาศห้ามผู้ที่มาร่วมงานถ่ายภาพในการประกอบพิธีเป็นอันขาด จากนั้นได้เคลื่อนศพวนรอบเมรุ มีพระสงฆ์ 6 รูปเดินนำเพื่อนๆ อิคคิวช่วยยกโลงศพขึ้นเมรุมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารจำนวนหนึ่งเดินมาร่วมงานขึ้นไปบนเมรุจับโลงศพแสดงความไว้อาลัย ทุกคนบอกว่าวันนี้มาบอกลาเพื่อนมีเพื่อนสนิทอิคคิว โกนผมบวชหน้าไฟให้ 1 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนกอดกันร้องไห้
ต่อมาเวลา 12.36 น. มีการเชิญแขกเป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวขึ้นทอดผ้าบังสุกุล มีพระเทพมงคลโสภณ เจ้าอาวาสวัดเสนาสนาราม ประธานพิจารณาทอดผ้าบังสุกุลและประกอบพิธีประชุมเพลิงศพในเวลา 13.00 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกและเรียบง่ายมีเพียงญาติและคนใกล้ชิดกันมาร่วมในพิธีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในช่วงเช้า พล.อ.สมชาย ภรรยาซึ่งเป็นพ่อแม่ รวมทั้งน้องสาวของอิคคิว เปิดใจให้ข้อมูลกับทีมข่าว เรื่องเล่าเช้านี้เป็นที่แรก ใจความสรุป พล.อ.สมชายกล่าวว่า ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีเรื่องไม่ชอบมาพากล พ่อเป็นคนมาพบร่างของอิคคิวและจีจี้ หลังจากที่แม่ของจีจี้มาเจอก่อน ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดหรือซ่อนเร้นทั้งสิ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพ่อและแม่ตามหาอิคคิว เพื่อจะให้กลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ติดต่อไม่ได้จนกระทั่งขอความช่วยเหลือตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือพบว่าอยู่ด้วยกันแต่ติดต่อไม่ได้ ทั้งพ่อแม่อิคคิว และพ่อแม่ของจีจี้ ก็ออกตามหาและพูดคุยกันมาตลอด กระทั่งไปพบลูกเสียชีวิตและเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมไปถึงมูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเร่งจัดการนำศพไปเข้าสู่การชันสูตร ตำรวจก็สอบปากคำเก็บรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่มีการหมกเม็ดปกปิดใดๆ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายอยู่ที่เกิดเหตุ แต่ที่ไม่เห็นภาพข่าวเพราะพื้นที่คอนโดเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และทั้งครอบครัวของอิคคิวและครอบครัวของจีจี้ต่างเสียใจไม่อยากให้เห็นภาพความสูญเสียของทั้งสองครอบครัว เพราะแค่นี้ก็เสียใจมากแล้ว
พล.อ.สมชายกล่าวอีกว่า กรณีแชตที่เกิดขึ้นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พ่อสอนลูกชายเรื่องการคบผู้หญิง เป็นการสอนในฐานะลูกผู้ชายที่พูดคุยกัน ไม่ได้มีเจตนาจะเหยียดหยามหรือให้ร้ายฝ่ายหญิง แต่เป็นการสอนแบบลูกผู้ชาย เมื่อวานข้อความที่ออกมาว่าแชตนี้เป็นแชตของปลอมนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่สับสน เพราะพ่อแม่ก็อยู่ในช่วงที่เครียดและร้องไห้ตลอดเวลา
“พ่อและแม่ขอยืนยันว่าไม่เคยให้ลูกใช้ความรุนแรง หรือสอนให้ลูกใช้ความรุนแรงและให้ไปเรียนยิงปืน อิคคิวเป็นคนชอบยิงปืน ชอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับการต่อสู้ อยากให้สังคมมองว่าการที่ลูกชายชอบยิงปืนเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของลูกผู้ชายไม่ใช่เป็นการใช้ความรุนแรงและครอบครัวไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง” และเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ลูกชายก็ไปซ้อมยิงปืนพร้อมกับจีจี้ฝ่ายหญิงก็ชอบในกิจกรรมยิงปืนเหมือนกัน
ขณะที่แม่อิคคิวให้ข้อมูลทั้งน้ำตาว่าไม่เคยเลี้ยงลูกให้เป็นคนใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายผู้หญิง ตั้งแต่ที่แม่รู้ว่าลูกชายพาจีจี้เข้ามาอยู่ที่บ้าน แม่ก็สอนลูกเกี่ยวกับการดูแลผู้หญิง รวมไปถึงเมื่อรู้ว่ามีการทำร้ายร่างกายก็เรียกลูกทั้งสองคนมาสอน ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รับรู้มาตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่เสียใจมาก ทางครอบครัวแม่จีจี้ก็เสียใจมากเช่นกัน อยากขอร้องสื่อมวลชนว่า ของดทำข่าว ขอให้เป็นงานส่วนตัว เพราะการทำข่าวภาพเหตุการณ์เหล่านี้จะถูกฝังอยู่ในอินเตอร์เน็ตหรืออยู่ในข่าวทีวีต่างๆ เมื่อครอบครัวเปิดดูหรือกลับมาเห็น สภาพจิตใจของครอบครัวจะย่ำแย่ ตอนนี้สังคมพิพากษาครอบครัวอิคคิวไปแล้ว ขอยอมรับผิดกับทุกสิ่งและยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์
ด้านน้องสาวของอิคคิวยืนยันเช่นกันว่าพี่ชายเป็นคนดี ไม่ได้เป็นคนที่อารมณ์ร้อน หรือชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่การคบกันระหว่างพี่ชายกับพี่จีจี้ เป็นเรื่องความรักของพี่สองคน ที่พ่อและแม่รับรู้ และมารู้ภายหลังว่าเลิกกัน ทั้งสองฝ่ายก็ยินดีเพราะไม่อยากให้ทั้งสองคนมีปัญหาทะเลาะกันอีก มารู้ทีหลังว่ากลับมาคบกันอีกครั้ง จนกระทั่งมาเสียชีวิต อยากขอโทษสังคมขอโทษทุกคน
พล.อ.สมชายยืนยันอีกว่า หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมเข้าสู่กระบวน การตรวจสอบทุกอย่างหากพ่อต้องถูกดำเนินคดีในเรื่องอาวุธปืนก็พร้อมจะยอมรับ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องการเยียวยาครอบครัวของฝ่ายหญิงครอบครัวของอิคคิวยืนยันว่า จะเยียวยาให้เต็มที่และจะดูแล และแม้กระทั่งลูกทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต ทุกวันนี้ยังพูดคุยกันให้กำลังใจกัน วันนี้ขอส่งลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ขอให้ข้อมูลใดกับสื่อมวลชน และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ
ส่วนทางด้านคดี ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้นที่ได้มาเป็นการทำให้แนวทางการสืบสวนนั้นไม่หลงประเด็น ทั้งคราบเขม่าดินปืนในมือของนายภูมิพัฒน์ ภาพจากกล้องวงจรปิด ฝ่ายมารดาของ น.ส.สุพิชชาติดใจเพียงประเด็นเดียวคือเรื่องการมีอาวุธปืนของนายภูมิพัฒน์ว่า มีที่มาอย่างไร ในประเด็นนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นัดหมายบิดานายภูมิพัฒน์มาให้ปากคำ เจ้าตัวยืนยันว่า จะมาพบพนักงานสอบสวนหลังจากทำพิธีลอยอังคารลูกชายเสร็จแล้ว
ส่วนที่วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม บรรยากาศงานศพของจีจี้ -น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ เน็ตไอดอลสาว ครอบครัวได้มีการเคลื่อนศพจากศาลา5 ย้ายเข้าสู่ศาลา 2 บรรยากาศคล้ายการจัดสวนธรรมชาติท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ สีขาว ชมพู และใบไม้สีเขียว มีการตกแต่งนกยูงหางยาว สีขาว 2 ตัว ด้านข้างประดับประดาด้วยโคมไฟและมีบ่อน้ำพุพ่นหมอกสีขาว เหมือนสวนหย่อมเล็กๆที่น้องจีจี้ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติที่สดใส
น.ส.ชุติกาญจน์ ธีระโรจนพงษ์ อายุ 44 ปี แม่ของจีจี้ เผยว่า ไม่ได้ไปร่วมงานศพและงานเผาศพของอิคคิว เนื่องจากทางเราติดงานศพของจีจี้ลูกเรา ปกติแล้วครอบครัวตน และครอบครัวของอิคคิว พูดคุยกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต เมื่อคืนที่ผ่านมาก็โทรศัพท์คุยกับแม่อิคคิว ถามสารทุกข์สุกดิบและแม่ยังฝากส่งน้องอิคคิวด้วย ก่อนหน้านี้ที่แม่เคยได้รู้จักกับอิคคิว อิคคิวเป็นคนพูดจาเรียบร้อย แต่ไม่ได้สนิทกับอิคคิวมากนัก และไม่เคยเห็นอารมณ์ในความรุนแรงของอิคคิว ส่วนเรื่องข้อความแชตที่ออกมานั้น เคยเห็นมาก่อนหน้าที่ลูกจะเสียชีวิตอีก แต่ไม่ทราบจริงๆว่าใครเป็นคนทำ และไม่รู้ว่าทำขึ้นมาเพื่ออะไร ไม่อยากพูดถึงประเด็นนี้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูก ทุกวันนี้อยากให้เสนอเรื่องดีๆมากกว่า
