อุทัยธานี-ชาวบ้านติดเขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน พบสุนัขจิ้งจอก สัตว์ป่าคุ้มครอง อายุประมาณ 1 ปี หลงฝูงลงมาถูกสุนัขบ้านไล่กัด รุมขย้ำบาดเจ็บ เร่งติดต่อเจ้าหน้าที่ส่งอนุบาลสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายอติชาต ผดุงเขต อายุ 57 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านสนามบิน บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 11 ตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี มีอาชีพทำไร่มัน ห่างจากเขาปลาร้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประมาณ 1 กม. เคยพบเห็นฝูงหมาจิ้งจอก (สุนัขจิ้งจอก) อยู่ 2 ครั้ง แต่พบบริเวณไร่มันเป็นฝูงๆ นอกจากนี้ ยังพบเลี้ยงผาอีกหลายครั้งบริเวณเขาปลาร้าที่ติดกับไร่มัน แต่ครั้งนี้หมาจิ้งจอกตัวนี้น่าจะหลงฝูงมาถึงใกล้บ้านของตนเอง และระหว่างนั้นหมาที่เลี้ยงไว้ที่บ้านจำนวน 2 ตัว เห่าและไล่กัด ซึ่งเป็นหมาจิ้งจอกเล็ก อายุประมาณ 1 ปี จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาหลัง ตนและคนที่บ้านช่วยกันห้ามและกันออกจากกัน และนำสุ่มมาครอบไว้ เอาของหนักมาทับเอาไว้ไม่ให้มันดิ้นหลุดออกไป แต่สภาพไม่น่าจะเดินหรือไปได้ เพราะขาได้รับบาดเจ็บจนขาลาก ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่อนุรักษ์จากหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
ขณะที่ นายปารเมศ เศียรภักดี เจ้าหน้าที่อนุรักษ์จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอลานสัก พื้นที่ติดกัน ได้รับแจ้งกรณีดังกล่าว จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อนุรักษ์อีก 2 นาย เร่งเข้าไปตรวจสอบทันที พร้อมนำกรงขังสัตว์บรรทุกใส่รถกระบะมาที่บ้านนายอติชาต ที่จับหมาจิ้งจอกไว้
จากการตรวจสอบหมาจิ้งจอกตัวดังกล่าว มีอายุประมาณ 1 ปี มีการบาดเจ็บที่ขา แต่สภาพยังไม่อิดโรย ซึ่งหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งมันอาศัยอยู่ในป่าเขาปลาร้า ซึ่งพบว่ามีอยู่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่มันจะหากินอยู่ในป่า จะไม่ค่อยออกมาใกล้บ้านเรือนประชาชน หากชาวบ้านพบเห็นก็ขออย่าไปทำร้ายหรือฆ่ามัน เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย เมื่อพบเห็นก็ขอให้ไล่มันเท่านั้น มันก็จะกลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติที่อยู่อาศัยของมัน
ส่วนหมาจิ้งจอกตัวดังกล่าว จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยจะนำใส่กรงส่งต่อไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อทำการอนุบาลและรักษาจากนายสัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้งจนกว่าจะหาย และมีสภาพร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ ก่อนที่จะปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
