ผัวเมียเปิดปากโกดังพลุมรณะ เผยเส้นทางขนลงใต้ “บิ๊กโจ๊ก” สั่งเอาผิดจนท.รัฐ

ผัวเมียเปิดปากโกดังพลุมรณะ เผยเส้นทางขนลงใต้ “บิ๊กโจ๊ก” สั่งเอาผิดจนท.รัฐ

“เสี่ยไหว-เจ๊หลิน” เจ้าของโกดัง เก็บพลุดอกไม้ไฟมรณะ ข้ามชายแดนด่านสะเดาย่องมอบตัวตำรวจล็อกสอบเข้มแจ้ง 5 ข้อหา หนัก “บิ๊กโจ๊ก” เผยสองผัวเมียเปิดปากรับสารภาพหมดเปลือก เผยทุกขั้นตอนตั้งแต่ซื้อสินค้าจากจีนยันขนส่ง เดินหน้าเอาผิดเจ้าหน้าที่ร่วมทุจริต ย้ำหน่วยงานหลักปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ “ดีเอสไอ” แฝงตัวลงพื้นที่เก็บข้อมูลทางลับพบเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพลเอี่ยวทำผิด เล็งขยายผลทลายทั้งขบวนการ

จากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 682 หลัง หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยา ขณะที่นายสมปอง ณ กุล อายุ 42 ปี หรือเสี่ยไหว และน.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ อายุ 42 ปี หรือเจ๊หลิน สองสามีภรรยา เจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับติดต่อขอเข้ามอบตัวหลังหลบหนีอยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ส.ค. นายสมปอง ณ กุล อายุ 42 ปี และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/12 หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สองสามีภรรยา เจ้าของโกดังพลุดอกไม้ไฟ เดินทางข้ามพรมแดงผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา มาจากประเทศมาเลเซีย โดยมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศมาเลเซีย นำตัวมาส่งที่ด่านสะเดา นำตัวขึ้นรถส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา มีตำรวจคอยคุ้มกันและนำตัวไปห้องสอบสวนชั้น 2 ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง มีญาติรอรับที่ด่านสะเดาและติดตามมายัง สภ.สะเดา

จากนั้น ตำรวจ สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเดินทางมารับตัวพร้อมสอบสวนเบื้องต้น ก่อนควบคุมตัวเดินทางไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา ได้แก่ กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, จำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งคู่ทำบันทึกไม่ขอให้การ โดยมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดกับนักข่าว ขณะที่ตำรวจแจ้งนักข่าวให้รอถ่ายรูปและสัมภาษณ์ตรงประตูด้านข้าง สภ.สะเดา แต่หลังการสอบสวนตำรวจนำตัวสองสามีภรรยาออกทางประตูหลัง โดยมีเสื้อคลุมใบหน้าอำพรางก่อนนำขึ้นรถ ซีอาร์วี สีขาว ออกจาก สภ.สะเดา ไปทันที

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ชุมชนตลาดมูโนะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายและบาดเจ็บจำนวนมากว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจมาเลเซียได้ควบคุมตัวนายสมปอง ณ พล หรือเสี่ยไหว กับ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ หรือเจ๊หลิน สองผัวเมียเจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ มาส่งให้ทางการไทยบริเวณด่านพรมแดนไทยสะเดา จ.สงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ, ทหาร, เจ้าหน้าที่ ตม. และตำรวจ สภ.มูโนะ เดินทางไปรอรับมอบตัว ก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนไปบันทึกการจับกุมและทำระเบียนประวัติตามขั้นตอนของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ

จากการสอบปากคำทั้งสองคนให้ประโยชน์ต่อคดีโดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ซื้อสินค้ามาจากประเทศจีน มีการขนส่งอย่างไร ขนย้ายอย่างไร ข้ามด่านด้วยวิธีไหน การให้ปากคำของผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นประโยชน์อย่างมาก ส่วนกรณีการสอบสวนขยายผลดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทุจริตต่อหน้าที่ หลังสังคมเกิดความสงสัยและติดใจในจำนวนของว่า ทำไมจึงมีปริมาณมาก จากการสืบสวนพบว่าในที่เกิดเหตุมีพลุมากถึง 400-500 กิโลกรัม ทั้งที่มีหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต้องดูแลถึง 5-6 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณะสุข จากนี้ไปต้องไล่ตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่ขั้นตอนของการนำเข้าว่าได้สำแดงการนำเข้าถูกต้องหรือไม่ มีการจดแจ้งจำนวนที่นำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ ขั้นตอนการขนส่งมีวิธีการขนส่งอย่างไร มีการอนุญาตจากขนส่งหรือไม่ เช่น การขนย้ายจากแหลมฉบังไปโรงงานที่บางกล่ำที่ จ.สงขลา หรือขนย้ายจากบางกล่ำไปที่ จ.นราธิวาส เชื่อว่าขั้นตอนการขนย้ายไม่ถูกต้อง แม้แต่โกดังที่เกิดเหตุมีการขออนุญาตเป็นสถานประกอบการ แต่ในใบอนุญาตไม่ได้ระบุว่า เป็นการประกอบการอะไร ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 หน่วยงานจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะอ้างว่าไม่มีคนแจ้ง จึงไม่ทราบไม่ได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำการดูแลจึงต้องทำการตรวจสอบว่าสถานประกอบการดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

วันเดียวกัน นายชยพร สายทวี ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลทางลับจากประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ หลังได้ข้อมูลจากผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ กรณีมีการกระทำความผิดในพื้นที่เกี่ยวโยงเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพล จากการสอบถามประชาชนและผู้ที่เชื่อถือได้พบว่ามีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดตามข้อกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย หลังจากนี้จะได้รวบรวมข้อมูลเสนอ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมีคำสั่งให้ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน พร้อมขยายผลให้เห็นถึงการกระทำความผิดและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกรณีดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา

สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากโกดังดอกไม้ไฟระเบิดมีบ้านได้รับความเสียหาย 682 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำดื่มและบริโภค ล่าสุดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.สุไหงโก-ลก ได้ดำเนินการทยอยต่อกระแสไฟฟ้าบ้านพักของประชาชนแล้ว 223 หลัง ให้สามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปช่วยซ่อมแซมหลังคาและฝาผนังบ้านให้กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วหลายหลัง

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายผักสดและผลไม้ชนิดต่างๆ เริ่มปรับสภาพความเป็นอยู่ได้ มีการตั้งโต๊ะหน้าบ้านที่อยู่ในสภาพปรักหักพัง เพื่อนำผักและผลไม้มาตั้งวางขาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่เดินทางมาร่วมบริจาคได้ช่วยอุดหนุนด้วยความสงสาร ลูกค้าบางรายไม่รับเงินทอนตั้งใจที่จะซื้อช่วยเหลือชาวบ้านด้วยความเต็มใจ สอบถามนายอภิสิทธิ์ สาและ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 135/4 หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า บ้านพังเสียหายจากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิด ช่วงนี้ต้องหาเงินมาซ่อมแซมบ้านนำผักและผลไม้มาขายหน้าบ้านพักเพราะการช่วยเหลือภาครัฐล่าช้า

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด พม.เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาทุกครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวเปราะบาง อาทิ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือดูแลจนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้ปกติสุข วางแผนการช่วยเหลือฟื้นฟูครอบครัวเปราะบางที่ประสบภัย โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ตั้งแต่ 1.ระยะวิกฤติ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และหน่วยงานทีม One Home พม. ร่วมกับ จ.นราธิวาส ลงพื้นที่สำรวจ เก็บข้อมูลครอบครัวเปราะบางที่ประสบภัย พบว่ามีเด็ก 452 คน ผู้สูงอายุ 516 คน คนพิการ 16 คน และผู้ป่วยติดเตียง 8 คน จะมีการจัดกิจกรรมบำบัดฟื้นฟู 2.ระยะกลาง เป็นการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้กับครัวเรือน 682 หลัง วงเงิน 12.27 ล้านบาท โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช. สนับสนุนเงินค่าก่อสร้างที่พักชั่วคราว ครัวเรือนละไม่เกิน 18,000 บาท หรือค่าเช่าบ้านตามการจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน และไม่เกิน 6 เดือน รวมเป็นเงินไม่เกิน 18,000 บาทต่อครัวเรือน และสนับสนุนเงินค่าซ่อม/สร้างที่อยู่อาศัยถาวรเบื้องต้น หลังละ 30,000 บาท รวมทั้งสิ้น 88 หลัง วงเงิน 2.64 ล้านบาท นอกจากนี้ มีการช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ต่างๆ วงเงิน 1.81 ล้านบาท ตลอดจนการใช้เครือข่ายทีมสหวิชาชีพในพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวเปราะบาง และ 3.ระยะยาว โดยสนับสนุนเรื่องการพัฒนาทักษะอาชีพกองทุนเพื่อประกอบอาชีพ และการซ่อม/สร้างที่อยู่อาศัยถาวร รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ ซึ่งทั้งหมดเป็นการช่วยเหลือของ พม. เพื่อคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ นำโดย นายอภินันท์ ศรียอดแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้รับการประสานเพื่อขอสนับสนุนอัตรากำลังคนเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิด โดยร่วมกับสำนักงานจังหวัดนราธิวาส สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส และหน่วยงานในพื้นที่ นำกำลังคน พร้อมด้วยแรงงานผู้ต้องขังเรือนจำชั่วคราวโคกยามู จำนวน 25 คน นำทีมโดยนายวัชระศักดิ์ ศรีสุวรรณ นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวโคกยามู เข้าสนับสนุนช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนผู้ประสบเหตุ แบ่งเป็นเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนประชาชน วันที่ 4 ส.ค.66 จำนวน 5 คน และวันที่ 5 ส.ค.66 ช่วยเหลือซ่อมแซมและทำความสะอาดพื้นที่ผลกระทบแรงระเบิด จำนวน 20 คน

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,818 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *