ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบรอง ผบก. อก.ภ.8 ทั้งความผิดวินัยและอาญา หลังนำโพยเข้าห้องสอบแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้นที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ส่วนเจ้าตัวยินดีเข้าชี้แจง ขณะที่ศาลปกครองแจงผู้สมัครนำเอกสารเข้าห้องสอบถือว่าฝ่าฝืน ตรวจพบเอกสารคัดลอกตัวบทกฎหมายไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาลหรือคำตอบในข้อสอบ และมีมาตรการเข้มการออกข้อสอบไม่รั่วไหล
จากกรณีนายตำรวจยศ พ.ต.อ.เข้าสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 มี.ค. ถูกเจ้าหน้าที่คุมสอบจับได้ว่านำโพยเข้าไปห้องสอบ และสั่งให้นายตำรวจคนดังกล่าวหยุดทำข้อสอบและออกจากห้องทันที
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ทราบเรื่องแล้วสั่งการให้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นข้าราชการตำรวจยศ พ.ต.อ.จริง ตำแหน่งรอง ผบก.อก.ภ.8 ก่อนหน้านี้มีคำสั่งไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 15 มี.ค.2568 ตุลาการศาลปกครองที่ทำหน้าที่ประจำหน่วยสอบตรวจพบการทุจริตการสอบนำโพยเข้าไปลอกในสนามสอบ ประสานมายังตำรวจ ภ.จ.ปทุมธานี ตรวจสอบ
พล.ต.ท.อาชยนกล่าวอีกว่า พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัณวิชย์ ผกก.สภ.คลองหลวง เดินทางไปยังศูนย์สอบดังกล่าวพบกับคณะตุลาการที่ควบคุมการสอบคัดเลือก ได้รับฟังข้อเท็จจริงในการทุจริต จากนั้นพูดคุยกับข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวยินยอมให้บันทึกถ้อยคำ และทางคณะตุลาการที่คุมสอบแจ้งว่าจะประชุมสรุปข้อเท็จจริง และเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป ผบ.ตร.สั่งย้ำไปที่ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ให้ตำรวจ ภ.จ.ปทุมธานี ประสานกับทางสำนักงานศาลปกครองให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทราบข้อเท็จจริงและพิสูจน์ความผิดต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ส่วนทางวินัยนั้น ผบ.ตร.สั่งการให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที หากเป็นความผิดฐานทุจริตการสอบจริงถือเป็นวินัยร้ายแรง ฐานการกระทำอันเชื่อได้ว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 112 (6) ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อหน่วยงานองค์กร รวมทั้งให้พิจารณาการสั่งให้พัก หรือออกจากราชการไว้ก่อนด้วย พร้อมสั่งตรวจสอบที่มาที่ไปของการไปช่วยราชการ กอ.รมน. เป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ การไปช่วยราชการนั้นมีหน้าที่อะไร และในการไปสอบเป็นเวลาปฏิบัติราชการหรือไม่ มีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
“ผบ.ตร.ย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาจริงเอาจังดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการทางวินัยเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะข้าราชการตำรวจที่เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่กระทำผิดทุจริตในการสอบจะไปรักษาความเที่ยงธรรมกับผู้อื่นได้อย่างไร และเป็นการสอบเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ย่อมเป็นเรื่องที่รับไม่ได้จะเร่งดำเนินการทุกมิติ” พล.ต.ท.อาชยนกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านบริหาร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงกรณีนี้มีความชัดเจนมากจากคลิป จากนี้ทางคณะกรรมการคุมสอบต้องเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในฐานะพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนที่มองว่ากรณีนี้เป็นการกระทำที่ตำรวจผู้รักษากฎหมายกลับมาทำทุจริตเองนั้น ในทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เมื่อจับได้ว่าทำผิด ทุกองค์กรจะมีระเบียบวินัยที่จะต้องดำเนินการไป ย้ำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีอะไรที่ต้องปกปิด ทุกอย่างต้องแสดงให้เห็นความชัดเจน แต่ย้ำว่าการเป็นตำรวจความซื่อสัตย์เป็นเรื่องลำดับต้นๆที่จะต้องปฏิบัติ เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม
พล.ต.อ.กรไชยกล่าวว่า ขณะนี้หลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏมีความผิดวินัยชัดเจน ต้นสังกัดจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนและส่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ส่วนคดีความอาญาต้องรอพิจารณาว่าพนักงานสอบสวนของ สภ.คลองหลวง จะดำเนินการอย่างไร ส่วนจะผิดฐาน ม.157 หรือไม่ ยังไม่ขอยืนยัน
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.รายดังกล่าว ระบุว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเอกสาร ทั้งนี้ยินดีที่จะชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ขณะเดียวกัน สำนักงานศาลปกครองทำเอกสารขอชี้แจงว่า การสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2568 นั้น ปรากฏมีผู้สมัครรายหนึ่งลักลอบนำเอกสารเข้าไปในห้องสอบ การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนแนวปฏิบัติในการเข้ารับการสอบข้อเขียนที่ผู้เข้ารับการสอบข้อเขียนทุกคนต้องถือปฏิบัติ ตามประกาศ ก.ศป. เรื่อง รายชื่อผู้เข้ารับการสอบข้อเขียนในการสอบคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ลงวันที่ 27 ก.พ.2568 เอกสารที่ลักลอบนำเข้ามาเป็นการคัดลอกตัวบทกฎหมายต่างๆ โดยเอกสารดังกล่าวไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาล หรือคำตอบที่ใช้สำหรับตอบข้อสอบแต่อย่างใด
อนึ่ง การออกข้อสอบในแต่ละวัน ผู้ทำหน้าที่ออกข้อสอบจะดำเนินการออกข้อสอบในวันที่มีการสอบในช่วงเวลาก่อนที่ผู้สมัครจะเข้าสอบ และผู้ออกข้อสอบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะไม่สามารถออกจากห้องออกข้อสอบได้ รวมทั้งถูกตัดการสื่อสารในทุกช่องทางจนกว่าผู้สมัครจะเข้าสอบจนครบถ้วน หรือพ้นเวลาที่ผู้สมัครจะมีสิทธิเข้าห้องสอบ ข้อสอบไม่สามารถเล็ดลอดออกไปสู่บุคคลภายนอกได้ ทั้งนี้ สำนักงานศาลปกครองจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/