ผกก.สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส เดือดดับเครื่องชนแจ้งความ ผบช.ภ.9 และผู้การฯ ยกพวกบุกเข้าบ้านพักตำรวจงัดประตูพังซ้ำยังถูกขู่ให้พ้นนอกหน่วย หลังรับราชการมากว่า 30 ปี ไม่เคยร้องเรียนกลับถูกเด้งฟ้าผ่าจากเหตุระเบิดในพื้นที่ วอนนายกฯและ ผบ.ตร.สั่งย้ายผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 นาย เพื่อความโปร่งใส ขณะที่ผู้การฯนราธิวาสเผยความจริงก็คือความจริง ผบช.ภ.9 เป็นผู้ดำเนินการ ไม่สนปล่อยให้ ผกก.เคลื่อนไหวไปคนเดียว
จากกระแสเดือดวงการสีกากีต่างวิพากษ์วิจารณ์ หลังมีรายงานเหตุด่วนจากว่าที่ พ.ต.อ.นพดล ดิเรกวัฒนสาร ผกก. (สอบสวน) รักษาราชการแทน ผกก.สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส รับรายงานจาก ร.ต.อ.สุนันต์ สมภักษร รอง สว. (สอบสวน) สภ.โคกเคียน ว่า เมื่อเวลา 16.23 น. วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ 3 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตำแหน่งผกก.สภ.โคกเคียน ภายหลังมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.นราธิวาส สาเหตุปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่หลายเหตุการณ์ เข้าแจ้งความว่า พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมพวกทำลายประตูบ้านพักตำรวจของ พ.ต.อ.วีรยุทธ เลขที่ 272/41 หมู่ 10 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ได้รับความเสียหายเป็นลูกบิดประตูราคา 500 บาท และยังไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินอื่นว่าสูญหายหรือไม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย. เวลา 13.00 น.
ต่อมาว่าที่ พ.ต.อ.นพดล ดิเรกวัฒนสาร ผกก. (สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.โคกเคียน ทำหนังสือบันทึกรายงานเรื่องดังกล่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ศปก.ตร. ผบ.ฉก.ในพื้นที่ จ.นราธิวาส กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ผวจ.นราธิวาส ผบช.ภ.9 ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นายอำเภอเมืองนราธิวาส และกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ให้รับทราบแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เม.ย. พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โคกเคียน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เข้าร่วมบุกรุกบ้านพักในวันเกิดเหตุกับผู้บังคับบัญชา ถ้าหากให้ความร่วมมือเป็นพยานให้จะถอนแจ้งความไม่ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนสอบปากคำใช้เวลา 10 นาที จึงแล้วเสร็จ
พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้บังคับบัญชาประชุมที่ห้อง ศปก.สภ.โคกเคียน ทราบว่า ผบช.ภ.9 พูดจะไม่ให้ตนกลับเข้ารับตำแหน่ง ผกก.สภ.โคกเคียน และจะสั่งให้ย้ายออกนอกภาค 9 บอกว่ามวยคนละรุ่น พฤติการณ์ของ ผบช.ภ.9 มองว่าไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่มีความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชาใช้อารมณ์และมีใจอาฆาต ตนเป็น นรต.รุ่น 50 เคารพนับถือรุ่นพี่ทุกคน รับราชการมากว่า 30 ปี ไม่เคยออกมาร้องเรียนที่ทำให้ภาพพจน์ของ ตร.เสียหาย ทำงานในพื้นที่ตลอดมีผลงานการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์ ต้องการให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ผบ.ตร. และ สส.ชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ลงมาตรวจสอบ อยากให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ไม่มีการข่มขู่พยาน อยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่มีคำสั่งให้ ผบช.ภ.9 และ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ไปช่วยราชการแล้วหาคนอื่นมารักษาราชการแทนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
พ.ต.อ.วีรยุทธ เผยอีกว่า การต่อสู้ในเรื่องนี้ตนไม่มีใครช่วยเหลือ มีแต่ภรรยาที่ยืนเคียงข้างกันเพื่อความถูกต้อง คดีนี้เป็นคดีอาญาเพราะทั้ง ผบช.ภ.9 และ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว พร้อมพวกอีกประมาณ 10 คน ทรัพย์สินอื่นยังไม่ได้ตรวจดู ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จ.นราธิวาส กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนปล่อยให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่อยากตอบโต้กันไปกันมาไม่ได้ประโยชน์อะไร ความจริงก็คือความจริง ปล่อยให้ ผกก.เคลื่อนไหวไปคนเดียว
สำหรับ พ.ต.อ.วีรยุทธ หรือ ผกก.โต้ง ตาสีพันธุ์ ก่อนหน้านี้ปรากฏเป็นข่าวถูก พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จ.นราธิวาส สั่งย้ายไปช่วยราชการโดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ที่ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) ตำรวจ ภ.จ.นราธิวาส โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2568 พล.ต.ต.ไมตรีระบุเหตุผลว่า ละเลยและคุมสถานการณ์ไม่ได้ปล่อยให้เกิดเหตุในพื้นที่เกี่ยวกับเหตุระเบิด 3 เหตุการณ์ คือเหตุระเบิด 4 จุดในอำเภอเมืองนราธิวาส พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.โคกเคียน เหตุระเบิดในสนามบินนราธิวาสเมื่อวันที่ 23 ก.พ. เป็นวันที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่พร้อมกับรองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย และเหตุ ระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” ที่ริมกำแพงแฟลตตำรวจแรงระเบิดทำให้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บเกือบ 10 ราย
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนไปที่ สภ.โคกเคียงจริง เป็นการไปตรวจเยี่ยมและดูแลสถานที่เนื่องจาก จะมีบุคคลจะไปเยี่ยม ตนเข้าไปดูแลความเรียบร้อยและความสะอาดภายใน สภ.โคกเคียน ส่วนที่ ผกก.ไปแจ้งความไม่กังวลเพราะในพื้นที่มีข้อมูลอยู่แล้ว และการย้ายออกจากพื้นที่นั้นทำไปตามการปฏิบัติหน้าที่และการเกิดเหตุในพื้นที่ ไม่มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด
ทื่มา ไทยรัฐ