“ปปป.-ป.ป.ท.” ประชุม เครียด วางแผนสอบสวนหาคนรับผิดชอบ กรณีสะพานยกระดับอ่อนนุช–ลาดกระบังถล่ม เน้นตรวจ สอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นำไปสู่การเกิดเหตุหรือไม่ ส่วนพนักงานสอบสวนท้องที่ บก.น.3 ออกหมายเรียกผู้บริหารบริษัทก่อสร้างสะพานมาสอบปากคำ ก่อนสรุปสำนวนดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ด้าน กทม.ล้อมคอก สั่งเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยโครงการก่อสร้างของ กทม.ทุกโครงการ กำชับให้ผู้รับผิดชอบกำกับการปฏิบัติโดยเคร่งครัด
กรณีโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับอ่อนนุช–ลาดกระบังถล่มลงมาบนถนนหลวงแพ่ง กีดขวางทางจราจรทับบ้านเรือนประชาชนและรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียงมีผู้เสียชีวิต 2 คน ความคืบหน้าจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ก.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่นผกก.1 บก.ปปป. น.ส.ชิยา ศิริรักษ์ ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 4 สำนักงาน ป.ป.ท.พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมหารือการตรวจสอบกรณีเหตุการณ์สะพานยกระดับอ่อนนุช–ลาดกระบังถล่ม เนื่องจากโครงการก่อสร้างสะพานเป็นของหน่วยงานรัฐ
น.ส.ชิยา ศิริรักษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องสำนักงาน ป.ป.ท.ไม่ได้นิ่งเฉย ร่วมกับตำรวจ บก.ปปป.ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ในส่วน ป.ป.ท.มุ่งเน้นเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างบริหารสัญญา เพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนนำมาสู่การเกิดเหตุการณ์หรือไม่ ขณะนี้ประสานขอเอกสารรายละเอียดการจัดสร้าง หนังสือสัญญาจาก กทม. ทราบว่าอยู่ระหว่างการรวบรวม วันนี้จะลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อสอบถามชาวบ้านว่า ช่วงก่อสร้างได้รับผลกระทบเดือดร้อนอย่างไร โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภัยก่อนเรียกเจ้าหน้าที่มาให้ถ้อยคำ
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น กล่าวว่า ในส่วน บก.ปปป.เน้นไปที่เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการควบคุมงานก่อสร้าง การควบคุมการทำงานผู้รับเหมาและมาตรฐานการก่อสร้าง เมื่อวานตำรวจ บก.ปปป.รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ให้ร่วมสนับสนุน บก.ป. นำโดรนบินสำรวจความเสียหายของโครงสร้าง เก็บภาพรายละเอียดนำไปประมวลเรื่องราวร่วมกับภาพหลักฐานเหตุการณ์ต่างๆที่ประชาชนบันทึกได้ ก่อนเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมสถานมาสอบปากคำพิสูจน์ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ชนาวิน พวงเพชร รอง ผบก.น.3 เผยว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้กระทำผิด ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ลงพื้นที่เกิดเหตุร่วมกันตรวจหาพยานหลักฐานและสาเหตุ คาดต้องรอผลสักระยะ ตนกำชับให้สรุปผลโดยเร็ว ผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ มีผลกระทบผู้ใช้ถนน ด้านการสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบริษัทกิจการร่วมค้า ธาราวัญ–นภา ผู้รับจ้างก่อสร้างสะพานส่งผู้เกี่ยวข้องมาให้การบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนงานในเหตุการณ์ ส่วนผู้บริหารยังไม่มีมาแต่ออกหมายเรียกไปแล้ว คาดจะมาพบหลังเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุแล้ว ต้องสอบสวนให้ครบทุกด้านรวมทั้งรอผลสรุปจากหน่วยงานต่างๆเพื่อดำเนินคดีผู้กระทำผิดต่อไป
มีรายงานว่า การเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดที่คานสะพานถล่มเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องพร้อมคนงานเร่งใช้เครื่องมือหนักตัดโครงเหล็กและคานปูนก่อนทยอยนำออกไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คาดจะแล้วเสร็จภายใน 7 วันตามกำหนด
ขณะที่นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า สนย.ประสานสภาวิศวกรฯเข้าตรวจสอบความเสียหายและข้อมูลเบื้องต้นเพื่อวิเคราะห์สาเหตุการถล่ม ส่วนการตรวจสอบและวิเคราะห์อย่างละเอียดจะเริ่มเมื่อขนย้ายอุปกรณ์ตัวร้อยคานคอนกรีต (Launcher Crane) ที่ล้มทับโครงสร้างสะพานออกจากพื้นที่ คาดว่าจะขนย้ายได้ทั้งหมดวันที่ 15 ก.ค. และตั้งศูนย์บัญชาการฯลาดกระบัง เพื่อเป็นช่องทางติดต่อรับเรื่องจากผู้เสียหาย ผู้รับจ้างประสานบริษัทประกันภัยมาพิจารณาการชดเชย รวมถึงส่วนผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายเพิ่มเติม และเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.
“โครงการก่อสร้างของ กทม.มีข้อกำหนดรายการก่อสร้างที่เป็นมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ งานก่อสร้างกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพจัดทำแผนความปลอดภัยและกำกับดูแลการปฏิบัติงานตามมาตรการความปลอดภัยควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงาน จะกำชับให้ผู้รับผิดชอบกำกับการปฏิบัติโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ การก่อสร้างโครงการต่างๆของ กทม.รวมถึงงานสาธารณูปโภคต้องเป็นไปตามข้อกำหนดความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบพิจารณา รวมทั้งกำกับให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด” นายธวัชชัยกล่าว
ที่มา:ไทยรัฐ