ดร.วรชล ถาวรพงษ์ รอง ผอ.สำนักเทศกิจ กทม. กล่าวถึงการกวดขันปราบแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานผิดประเภทในพื้นที่ กทม.ว่า กทม.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่าพบคนต่างด้าวทำการค้าขายมากขึ้น เช่น รถเข็นขายผลไม้และน้ำผลไม้ตามแหล่งท่องเที่ยว อาทิ พื้นที่ประตูน้ำ วังหลัง สุขุมวิท สีลม ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม และเมียนมา จึงมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจและเทศกิจเขต 50 เขต ลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบรถเข็นขายของในพื้นที่สาธารณะ และผู้ขายก็เป็นแรงงานต่างด้าว โดยเมื่อพบว่าทำการค้าขายในพื้นที่สาธารณะจะยึดอุปกรณ์ที่ใช้ทำการค้าและไม่สามารถมาไถ่คืนได้ ส่วนตัวของแรงงานต่างด้าวที่กระทำผิด เจ้าหน้าที่เทศกิจจะนำตัวส่ง ตำรวจ สน.ท้องที่เพื่อดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ตามพระราชกำหนด การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มาตรา 8 ห้ามคนต่างด้าวทำงานที่กำหนดไว้ในประกาศที่ออกมาตรา 7 วรรคหนึ่ง หรือทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษทางอาญา และเมื่อศาลตัดสินเรียบร้อยก็จะผลักดันออกนอกประเทศ
ดร.วรชลกล่าวอีกว่า กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้กำหนดอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว เช่น มัคคุเทศก์ ขายของ ขายของหน้าร้าน การตัดผม เป็นต้น ซึ่งอาชีพเหล่านี้สงวนไว้ให้คนไทย ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดประเภทจากใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพ เมื่อได้รับการร้องเรียน สำนักเทศกิจจะประสานกรมการจัดหางาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หากพบนอกจากแรงงานต่างด้าวที่มีความผิดแล้ว เจ้าของกิจการหรือสถานประกอบการก็จะมีความผิดด้วย เช่น อนุญาตให้ขายของหน้าร้าน หรือขายของในแผงค้าตามตลาดสด จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่