รู้จัก “บิ๊กเต่า” หรือ “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว” ตำรวจมากฝีมือที่มีภารกิจปราบผู้มีอิทธิพลในหลายคดีดัง
ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย.2567) บิ๊กเต่าได้บุกจับ เจ้าหน้าที่รัฐสปก.นครราชสีมาทุจริตปล่อยโรงงานแป้งมันลักลอบปล่อยน้ำเสียลงที่ดิน สปก.กว่า 300 ไร่ และก่อนหน้านี้เขายังได้ทำคดีเรือน้ำมันเถื่อนอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้ชื่อของ “บิ๊กเต่า” เป็นที่พูดถึงในสังคมอย่างมาก
“บิ๊กเต่า” นำทีมบุกจับ 4 ส.ป.ก. โคราช หลังตรวจพบทุจริตออกที่ดิน เอื้อนายทุน
พบแล้ว เรือน้ำมันเถื่อนที่หายไป 3 ลำ ลูกเรืออยู่ไม่ครบ ของกลางหายไปบางส่วน
วันนี้ Sanook พาทุกคนมารู้จักกับ “บิ๊กเต่า” หรือ “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว” นายตำรวจน้ำดี ผู้ไม่เคยเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล
“บิ๊กเต่า” คือใคร
บิ๊กเต่า หรือ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2511 ปัจจุบันอายุ 55 ปี เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี บิดาเป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ จึงทำให้เขามีโอกาสได้เข้าไปเดินเล่นอยู่ในเรือนจำสุพรรณบุรี และได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การประสานงานส่งตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขัง จนใฝ่ฝันอยากเป็นนักสืบนอกเครื่องแบบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติจบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 29 และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 45 ก่อนจะเริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.144 จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าชุดยาเสพติด ตชด.ภาค 1 ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ ในสายงานสืบสวนสอบสวน กระทั่งติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
ยอดนักสืบไม่กลัวอิทธิพล
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ คือยอดนักสืบที่ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลหรืออำนาจมืดใดๆ โดยเขาเดินหน้าตรวจสอบและจับกุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำการทุจริตในหลายคดีดัง เช่น การจับกุมอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, จับกุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเวที กรุงเทพฯ, จับกุมนายกเทศมนตรีบางแก้ว จังหวังสมุทรปราการ เป็นต้น
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเป็นผู้นำกำลังตำรวจ พร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรวจค้นบ้านของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังมีข้อมูลพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนันออนไลน์
ประวัติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายตำรวจที่เคยถูกแขวน แต่หวนคืนวงการได้สมศักดิ์ศรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแนวหน้า เล่าถึงสไตล์การทำงานของตัวเองที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องร้องขอความยุติธรรม เพราะตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีป้ายว่าที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่ง ใครมาก็เดินก้มหน้าออกไป บางคดีตำรวจท้องที่ไม่สามารถทำได้เพราะเจอผู้มีอิทธิพล ตำรวจกองปราบฯ ก็ต้องเป็นหน่วยสุดท้ายที่จะเข้าไปดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ไม้เบื่อไม้เมา “ชาดา ไทยเศรษฐ์”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ คือผู้นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็น “ลูกเขย” ของชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาเรียกรับสินบนโครงการก่อสร้างระบบประปาในพื้นที่
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บุกตรวจค้นคนในครอบครัวไทยเศรษฐ์ เพราะก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ.2560 เขาเคยโชว์ผลงานนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางแผนตรวจค้นรถของชาดามาแล้ว ซึ่งหลังการตรวจค้นรถทั้ง 8 คันของชาดา พบอาวุธปืนและกระสุนพร้อมใช้ที่ตัวลูกน้องของชาดา พร้อมด้วยอาวุธปืนอีกหลายประบอกและของกลางอีกหลายรายการ ซึ่งทำให้ชาดาต้องถูกสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในขณะนั้น แจ้งว่าเป็นการตรวจค้นตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม
ที่มา:sanook
