บึมสนั่นฉีกร่างแม่ค้ารับซื้อของเก่าดับสยอง 1 ศพ สามีกับชาวบ้านบาดเจ็บระนาวอีก 4 คน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับสามีขับรถกระบะมารับซื้อของเก่าในหมู่บ้านที่ชาวบ้านไปเก็บเศษเหล็ก ปลอกกระสุนปืน ลูกระเบิด จากในป่าที่เป็นสนามซ้อมยิงปืนใหญ่ของทหาร นำมาชั่งกิโลขายเป็นของเก่า ไม่รู้ว่าเป็นหัวกระสุนที่ยังใช้การได้นำใส่ถุงปุ๋ยเตรียมชั่งน้ำหนัก อาจตกกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดขึ้น ตำรวจประสานเจ้าหน้าที่อีโอดีมาเก็บกู้ปลอกกระสุนที่ยังหลงเหลืออยู่ในบ้าน พร้อมฝากเตือนชาวบ้านอย่าเข้าไปเก็บวัตถุอันตรายหวั่นเกิดเหตุสลดซ้ำรอย ทภ.2 แจงเป็นระเบิด 40 มม. จากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ M203
เหตุสยองขวัญแม่ค้ารับซื้อของเก่าถูกระเบิดตูมสนั่นตายเจ็บระนาวรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ร.ต.อ.วุฒิสันต์ ภคพรมงคล รอง สว. (สอบสวน) สภ.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 130 บ้านโนนศรีทอง หมู่ 14 ต.อุดมทรัพย์ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รายงานให้ พ.ต.อ.สมหมาย พิศุทธิ์เศรษฐ์ศิริ ผกก. นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ประจำจุดอุดมทรัพย์ ไปตรวจสอบ
จุดเกิดเหตุอยู่ท้ายหมู่บ้านมีบ้านปลูกอยู่ใกล้กัน 4 หลัง บริเวณลานหน้าบ้านพบรถกระบะโตโยต้า สีเขียว ทะเบียน บย 5458 บุรีรัมย์ กระจกหน้ารถติดสติกเกอร์ข้อความ “สายใจ รีไซเคิล” ท้ายรถติดคอกเหล็กมีกระสอบปุ๋ยใส่ของเก่าวางในกระบะท้าย มีตาชั่งวางอยู่บนพื้นดินท้ายรถ ใกล้กันพบศพนางสายใจ พนมใหญ่ อายุ 61 ปี อาชีพรับซื้อของเก่า บ้านอยู่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นอนตะแคงจมกองเลือด มือทั้งสองข้างถูกแรงระเบิดอัดจนนิ้วขาดกระจุย ใบหน้ามีรอยไหม้ดำคล้ำ ศีรษะแตก และมีแผลฉกรรจ์ทั่วตัว
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คนถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกายนอนกระจัดกระจายอยู่บริเวณโดยรอบ ประกอบด้วยนายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ อายุ 65 ปี สามีผู้ตาย นายธนาพงษ์ อิงปัญจะลาภ อายุ 62 ปี นางเครือวัลย์ ปักกิ่ง อายุ 51 ปี สองผัวเมีย เจ้าของบ้าน และนางกำไร สารเป็น อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านใกล้เคียง ทั้งหมดอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่ง รพ.วังน้ำเขียว ส่งต่อ รพ.มหาราชนครราชสีมา ในที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นส่วนระเบิดไม่ทราบขนาดที่ระเบิดแล้วกระจัดกระจาย และหัวกระสุนปืนขนาดใหญ่อีก 1 หัววางอยู่บนพื้น หน่วยกู้ภัยต้องนำยางรถยนต์มาวางครอบไว้เพื่อความปลอดภัย
นางนิตยา ร้อยกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านโนนศรีทอง เล่าว่า นายธนาพงษ์ และนางเครือวัลย์ สองผัวเมียเจ้าของบ้านที่ได้รับบาดเจ็บมีอาชีพหาของป่าในพื้นที่อยู่แล้ว อีกทั้งหมู่บ้านก็อยู่ใกล้กับภูลำไย สนามฝึกทางยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 ช่วงหลังการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ของทหาร สองผัวเมียจะเข้าไปหาเก็บเศษเหล็กชิ้นส่วนต่างๆจากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อนำกลับมาขาย ตนในฐานะผู้นำหมู่บ้านได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่ตลอดว่าจะเกิดอันตรายแต่ยังมีการลักลอบเข้าไปในพื้นที่จนมาเกิดเหตุสลดใจขึ้น
ด้านนางบุญเลี่ยง ทิมราช อายุ 73 ปี แม่ของนางเครือวัลย์ เจ้าของบ้านเผยว่า ปกติลูกสาวกับลูกเขยมีอาชีพหาของป่าในป่าท้ายหมู่บ้าน และช่วงที่ทหารมีการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ก็เข้าไปหาเศษเหล็กเศษโลหะจากการฝึกซ้อมนำกลับมาขาย ลูกสาวเคยเล่าว่าที่สนามฝึกของทหารจะมีชาวบ้านเข้าไปหาเศษเหล็กอาวุธจากการฝึกซ้อมจำนวนมาก เมื่อนำมาที่บ้านแล้วก็จะโทรศัพท์ไปตามคนรับซื้อของเก่ามารับซื้อถึงที่บ้าน
ต่อมา พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา นายธรรมทรรศ ทองสำโรง นอภ.วังน้ำเขียว เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ สั่งกันพื้นที่เพื่อความปลอดภัย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และทหารจากกองทัพภาคที่ 2 มาเก็บกู้กระสุนปืนที่ยังเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตำรวจคาดว่า สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านไปเก็บหัวกระสุนปืนมาจากภูลำไย สนามฝึกทางยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 แล้วโทรศัพท์เรียกผู้ตายกับสามีที่รับซื้อของเก่าขับรถกระบะมารับซื้อถึงหน้าบ้าน ขณะนำระเบิดที่ยังใช้การได้มาเตรียมชั่งน้ำหนักอาจตกพื้นเกิดแรงกระแทกทำให้เกิดระเบิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นคร ราชสีมา เผยว่า สาเหตุของเหตุระเบิดคาดว่าเกิดจากเจ้าของบ้านไปเก็บเศษเหล็กซึ่งเป็นวัตถุระเบิดนำมาขายให้ผู้รับซื้อของเก่าที่เข้ามารับซื้อเป็นประจำในหมู่บ้าน ขณะรื้อขนเศษเหล็กมาชั่งขายก็เกิดระเบิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 1 รายเป็นผู้รับซื้อของเก่า ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไปว่าชาวบ้านนำวัตถุระเบิดมาจากที่ใด จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดพบว่าภายในบ้านยังมีเศษชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดและกระสุนปืนที่เสื่อมสภาพใช้การไม่ได้แล้วรวมทั้งวัตถุที่มีลักษณะคล้ายวัตถุระเบิด เชื่อว่าเจ้าของบ้านไปเก็บมาสะสมไว้เพื่อนำมาขายคนรับซื้อของเก่า
ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เผยด้วยว่า เข้าใจถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านเมื่อถึงฤดูแล้งจะพากันไปเก็บของป่าของเก่ามาขายเป็นรายได้ ขอเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวหรือจับต้องกับวัตถุที่ไม่คุ้นเคยหรือวัตถุที่เป็นอันตรายโลหะวัตถุหัวกระสุนที่ตกอยู่ตามพื้นดินป่าเขาอาจจะเกิดเหตุสลดซ้ำขึ้นอีก สำหรับวัตถุระเบิดที่เกิดการระเบิดครั้งนี้คาดว่าเป็นระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิด M203 ขนาด 40 มม. ส่วนที่วางอยู่อีกลูกเป็นหัวกระสุนปืนใหญ่่ขนาด 120 มม.เป็นหัวกระสุนที่สิ้นสภาพทางทหารไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่จะเก็บวัตถุเหล่านี้ไปทำลายทิ้งต่อไป
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุเกิดจากผู้บาดเจ็บเก็บระเบิดนำไปขายให้ผู้รับซื้อของเก่าที่เสียชีวิตและเกิดระเบิดขณะเคลื่อนย้ายที่บ้านพัก จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิด ขนาด 40 มม.ของเครื่องยิงลูกระเบิด M203 นอกจากนี้ยังตรวจพบหัวกระสุนลูกปืนใหญ่ขนาด 120 มม.ชนิดส่องแสงที่ทำงานไปแล้ว ไม่มีวัตถุระเบิดภายใน ทางหน่วยส่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบระเบิดดังกล่าวและที่อาจจะเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุการนำกระสุนมาจากที่ใดอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ
กองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ในห้วงที่ผ่านมา มณฑลทหารบกที่ 21 มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรอบพื้นที่การฝึกไม่ให้เข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมถึงไม่ให้ลักลอบนำกระสุนวัตถุระเบิดออกจากพื้นที่การฝึก ที่รอการเก็บกู้ทำลายจากเจ้าหน้าที่สรรพาวุธทหารทุกครั้งที่มีการฝึก ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน ขอแจ้งเตือนผู้ที่รับซื้อของเก่าไม่ควรรับซื้อของเก่าที่เป็นกระสุนวัตถุระเบิดโดยเด็ดขาด หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยที่คล้ายวัตถุระเบิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจเข้าตรวจสอบทันที
ที่มา ไทยรัฐ
