นรก “คอลเซ็นเตอร์” พาสื่อทัวร์ดู “ชเวโก๊กโก่” ถูกบังคับทํางาน-ซ้อม ส่งกลับจีนชุด 3 อีก 800

นรก “คอลเซ็นเตอร์” พาสื่อทัวร์ดู “ชเวโก๊กโก่” ถูกบังคับทํางาน-ซ้อม ส่งกลับจีนชุด 3 อีก 800

กองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF นำผู้สื่อข่าวลุยเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองชเวโก๊กโก่ ที่กลายเป็นเมืองร้าง หลังมีการระดมปราบปรามกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบมีเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ถูกทารุณกรรมและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกจับกุมตัว พักอาศัยอยู่ในอาคารต่างๆ รวมกว่า 7 พันคน ขณะที่ BGF ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือใช้หลอกลวงชาวโลกอีกเพียบ ทางการจีนขออย่าเพิ่งทำลายต้องใช้ประกอบการดำเนินคดีแก๊งคอลฯ ขณะที่มีการส่งชาวจีนที่ถูกหลอกมาทำงานกับแก๊งคอลฯกลับประเทศรอบ 3 อีกกว่า 800 คน

ภายหลังจากนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ตำรวจมือปราบระดับพระกาฬ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงของจีน มาดำเนินภารกิจสำคัญระดับโลก คือการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพป่วนโลกฝีมือกลุ่มจีนเทา ที่มาปักหลักสร้างเมืองใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองชเวโก๊กโก่ จ.เมียวดี สหภาพเมียนมา ติดชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณบ้านวังแก้ว อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งเป็นกองบัญชาการหลอกลวงต้มตุ๋นคนไทยและชาวโลก มีทั้งเครือข่ายหลอกลวงเล่นพนันออนไลน์และขบวนการค้ามนุษย์ที่สุดโหดเหี้ยมทารุณ และไทยร่วมปราบด้วยการตัดการส่งน้ำมัน ตัดไฟ ตัดเน็ต ต่อมากองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF ออกกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ “ชเวโก๊กโก่” ที่เคยเป็นเมืองที่มีสภาพเศรษฐกิจดี หนาแน่นคึกคักไปด้วยกลุ่มชาวจีนเทาและชาวต่างชาติที่ถูกหลอกมาทำงานก็กลับกลายเป็นเมืองร้างทันที

ทั้งนี้ เมื่อตอนสายวันที่ 13 มี.ค. พ.ท.หน่าย หม่อง โซ โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนทหารกะเหรี่ยง BGF หัวหน้าศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ นำผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศลงพื้นที่เมืองชเวโก๊กโก่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ด้านตรงข้ามฝั่งไทย บ้านวังผา หมู่ 4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก เขตอิทธิพลของกองกำลัง ทหารกะเหรี่ยง BGF ดูสภาพความเป็นอยู่และการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งการช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในพื้นที่โครงการกลุ่มทุนจีน พบมีอาคารสูงที่เป็นที่พัก ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จแล้วกับที่เพิ่งเริ่มก่อสร้างที่มีการวางผังอาคารอย่างดี มีร้านค้าจำนวนมาก แม้รัฐบาลไทยจะตัดไฟตัดเน็ตแต่ที่เมืองชเวโก๊กโก่ ยังมีการใช้เครื่องปรับอากาศส่งเสียงดังตลอดทั้งวัน ภายหลังการ กวาดล้างผ่านมากว่า 1 เดือน มีการส่งตัวชาวจีน อินเดีย มาเลเซียและอินโดนีเซีย กลับประเทศต้นทางไปกว่า 2 พันคน แต่ยังมีเหยื่อการค้ามนุษย์หลงเหลืออยู่ในอาคารเหล่านี้กว่า 7 พันคน

เมื่อไปถึงบริเวณอาคาร 6 ชั้น ที่มีการควบคุมตัวแก๊งสแกมเมอร์ พ.ท.หน่าย หม่อง โซ ได้โชว์การควบคุมผู้ที่พักอยู่ในอาคารด้วยวิธีการตรวจสอบจากภาพวงจรปิดตามจุดต่างๆของอาคาร ด้านหน้าสุดจะมีทหารคอยเฝ้าดูภาพจากกล้องวงจรปิด ชั้นล่างสุดของอาคารมีการนำอาหารใส่ถาดหลุมพร้อมน้ำดื่มวางไว้แจกจ่ายให้เหยื่อแก๊งสแกมเมอร์ที่ถูกควบคุมตัวในอาคารแห่งนี้ จากนั้นคณะได้ขึ้นไปยังชั้น 3 ของอาคาร มีเหยื่อชาวจีนอาศัยอยู่จำนวนมากแยกเป็นห้องๆ แต่ละห้องมีหมายเลขกำกับไว้ ที่ห้อง 315 พบชายชาวจีนอายุ 20 ปีเศษ มาสื่อสารกับผู้สื่อข่าวว่าถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมเปิดเสื้อให้ดูแผ่นหลังที่ถูกทารุณกรรมและเปิดภาพการถูกควบคุมตัวในแต่ละห้อง ที่มีคนอยู่รวมกันเกิน 10 คน จากนั้น พ.ท.หน่าย หม่อง โซ พาผู้สื่อข่าวไปยังอาคารเก็บอุปกรณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากที่ทางการจีนแจ้งมายังทางการเมียนมาว่าอย่าทำลาย เนื่องจากจะนำไปประกอบการดำเนินคดีกับกลุ่มจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทั้งนี้ การพาผู้สื่อข่าวมาดูสภาพเมืองชเวโก๊กโก่ ของกองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF ครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า กองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF ได้ดำเนินการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นปัญหาระดับโลกอย่างจริงจัง เพื่อลดแรงกดดันจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่งดจ่ายกระแสไฟฟ้า งดส่งน้ำมันเชื้อเพลิง กองกำลังทหารกะเหรี่ยง BGF ระบุว่า จะพยายามปราบปรามแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ให้หมดสิ้น จากนั้นจะพัฒนาพื้นที่โดยการส่งเสริมอาชีพการทำปศุสัตว์ อาทิ ฟาร์มไก่ ฟาร์มสุกร การเลี้ยงสัตว์อื่นๆให้กับประชาชนเพื่อสร้างรายได้ พร้อมทั้งพัฒนาด้านการสาธารณสุข สร้างสถานพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล เพื่อรองรับการให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสร้างสถานที่พักผ่อน เช่น ส่วนน้ำ สวนสนุก โรงแรมหรู เพื่อให้เป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ เป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

ขณะที่เย็นวันเดียวกัน มีการส่งกลับชาวจีนที่ถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายในเมืองเมียวดีรอบที่ 3 ในวันที่ 13 มี.ค.รวม 450 คน ทางเครื่องบิน 6 เที่ยว เที่ยวละ 75 คน ส่วนวันที่ 14 มี.ค. อีก 5 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 75 คน รวม 375 คน หากผ่านการตรวจสอบทั้งหมด จะสามารถนำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกลับประเทศรอบที่ 3 รวม 825 คน

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,091 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed