รพ.ศิริราชรับรักษาหญิงป่วยโรคอ้วนขั้นรุนแรงหนักกว่า 300 กก. เป็นรายที่สองหลังหัวใจหยุดเต้นมีประวัติรักษาที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชฯ จ.พระนครศรีอยุธยา ทีมแพทย์วางแผนรักษา 2 ระยะ 1-2เดือนแรกประเมินอาการภาวะแทรกซ้อนและลดน้ำหนักให้เหลือ 250 กก. เพื่อเข้าสู่การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะและลำไส้เล็กในระยะ 2 ด้วยหุ่นยนต์ เผยผู้ป่วยรายแรกเป็นชายหนักกว่า 300 กก. เคยรักษาเมื่อ 10 ปีก่อน แค่ปีเดียวเหลือเพียง 90 กก.
ศิริราชรับรักษาหญิงป่วยโรคอ้วนหนักกว่า 300 กก. เป็นรายที่สอง ที่โถงอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช เวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.พ. ศ.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาร่วมรับคนไข้หญิงอายุ 36 ปี จาก จ.พระนครศรีอยุธยา ป่วยด้วยโรคอ้วนขั้นรุนแรงน้ำหนักตัวมากกว่า 300 กิโลกรัมและได้รับการรักษาอาการเบื้องต้นจาก รพ.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) ปัจจุบันอาการคงที่
ทีม รพ.ศิริราชและ รพ.สมเด็จพระสังฆราชฯวางแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรายดังกล่าวมาเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช ด้วยรถพยาบาลฉุกเฉินหน่วยกู้ชีพ “กู้ภัยอยุธยา” จาก จ.พระนครศรีอยุธยามาที่ รพ.ศิริราช มี ผศ.นพ.วรบุตร ทวีรุจจนะ ประธานศูนย์โรคอ้วนเมตะบอลิสมศิริราชและอาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมพ่อและแม่เดินทางมาด้วย ด้วยน้ำหนักตัวที่มาก ผู้ป่วยต้องนอนคว่ำและใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ได้นำเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่รองรับน้ำหนักได้กว่า 500 กิโลกรัม มาเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นสู่หอผู้ป่วย เพื่อประเมินอาการ
ศ.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า จากการประเมินอาการในเบื้องต้นผู้ป่วยรู้สึกตัวดี สัญญาณชีพปกติ อาจมีอาการเหนื่อยเล็กน้อยจากการเดินทางที่ต้องนอนคว่ำ ผู้ป่วยใส่หน้ากากแรงดันเพิ่มออกซิเจนมาตลอดทาง ผู้ป่วยสามารถพูดโต้ตอบได้ มีสีหน้ายิ้มแย้มและดีใจที่ได้เข้ามารักษาที่ศิริราช ทีมแพทย์จะรักษาอย่างดีที่สุด ด้วยความร่วมมือจากทีมแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพที่จะต้องวางแผนการรักษาให้ลุล่วง ศิริราชมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์รักษาผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไปมาแล้วหลายราย
“ผู้ป่วยรายนี้มีน้ำหนักเกิน 300 กิโลกรัมขึ้นไป ถือเป็นรายที่ 2 ที่ศิริราชรักษา รายแรกเป็นผู้ป่วยชายน้ำหนักตัวมากกว่า 300 กิโลกรัมที่เข้ารักษาเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ใช้ระยะเวลา 1 ปี สามารถลดน้ำหนักเหลือ 90 กิโลกรัม ปัจจุบันใช้ชีวิตได้ปกติทั้งยังลดภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆเหมือนได้ชีวิตใหม่” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชกล่าว
ผศ.นพ.วรบุตร ทวีรุจจนะ ประธานศูนย์โรคอ้วนเมตะบอลิสมศิริราช กล่าวว่า ผู้ป่วยหญิงรายนี้มีภาวะอ้วนขั้นรุนแรง และมีภาวะผิดปกติด้านการหายใจ และหัวใจ เคยมีภาวะหัวใจหยุดเต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่สามารถกู้สัญญาณชีพกลับมาได้ต้องเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง ได้วางแผนการรักษาเป็น 2 ระยะ ระยะแรก 1-2 เดือนเป็นการประเมินอาการผู้ป่วยและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จะเจาะเลือดตรวจอย่างละเอียด เพื่อดูภาวะต่างๆของร่างกาย เช่น ปอด หัวใจ รวมถึงประเมินการนอนหลับด้วย
“ขณะเดียวกันจะต้องฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักลงมาระดับหนึ่ง เบื้องต้นตั้งเป้าให้ลดลงมาให้ได้ 50 กิโลกรัม เพื่อจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดในระยะที่ 2 ที่เริ่มผ่าตัดได้ตั้งแต่น้ำหนัก 250 กิโลกรัม เป็นการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะและอาจจะทำลำไส้เล็กให้สั้นลงบางส่วน เพื่อลดการดูดซึมอาหาร สามารถทำให้น้ำหนักของผู้ป่วยลดลงได้ จะใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยในการผ่าตัดเพราะมีความแม่นยำและปลอดภัยสูง เนื่องจากผนังหน้าท้องผู้ป่วยมีลักษณะหนา หลังจากการผ่าตัดคาดว่าน้ำหนักของผู้ป่วยจะลงอย่างต่อเนื่องใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 6-12 เดือน” ผศ.นพ.วรบุตรกล่าว
ผศ.นพ.วรบุตรกล่าวด้วยว่า สาเหตุของภาวะอ้วนมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ปัจจัยหลักส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมส่วนบุคคลในการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายที่ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกายที่ไม่สมดุล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากฮอร์โมนที่ผิดปกติและพันธุกรรม ผู้ป่วยรายนี้ต้องประเมินหาสาเหตุนอกจากพฤติกรรมแล้วจะมีปัจจัยจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรมอย่างไรหรือไม่ รวมทั้งต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ป่วยด้วย เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มที่มีภาวะอ้วนมักจะมีภาวะความเครียด ความไม่มั่นใจ การใช้ชีวิตในสังคม จะมีทีมจิตแพทย์ของโรงพยาบาลเข้าร่วมประเมินอาการและรักษาด้วย
ด้านแม่ผู้ป่วยกล่าวว่า ลูกสาวอ้วนมาแต่เด็กๆ เมื่อก่อนยังเดินได้ เริ่มมีปัญหาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะหัวใจหยุดเต้น แม่เป็นห่วงลูกมากและรู้สึกดีใจมากที่ลูกสาวได้มารักษาที่ รพ.ศิริราช เพราะมั่นใจในทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
uHGaShsUZnT