ชายอายุ 35 ปี ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ มีสัญญาณเตือนมานานแล้ว แต่เพิกเฉยจนเป็นหนัก
เว็บไซต์ เดอะซัน เปิดเผยเรื่องราวสุดช็อกของ ลูอิส เดนส์ คุณพ่อลูกสาม จากเวสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ หลังเข้าไปพบแพทย์เนื่องจากมีอาการไอแห้ง ๆ ต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว รวมไปถึงมีอาการเจ็บไหล่และหน้าอกร่วมด้วย
ในทีแรกแพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคปอดบวม และจ่ายยาปฏิชีวนะให้แก่เขา แต่ผ่านไป 2 สัปดาห์อาการของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง
ซึ่งในครั้งนี้ลูอิสได้เข้ารับการเอกซเรย์ และผลออกมาเป็นที่น่าตกใจ เนื่องจากพบว่าเขามีเนื้องอกขนาดเท่าลูกกอล์ฟบริเวณปอดด้านขวา ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเนื้องอกดังกล่าวคือ “ก้อนมะเร็ง”
แพทย์ได้ตรวจร่างกายลูอิสอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่ามะเร็งได้แพร่ไปถึงกระดูกและต่อมหมวกไตเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาได้
หลังทราบความจริงลูอิสรู้สึกเสียใจมาก ทั้งยังเป็นห่วงภรรยาที่ต้องดูแลทั้งสามเพียงลำพัง หากเขาจากโลกนี้ไป
ลูอิสเล่าถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า “รู้สึกตกใจมากหลังรู้ผล เพราะในตอนแรกคิดว่าสถานการณ์ที่แย่ที่สุดก็คือ ป่วยเป็นมะเร็ง แต่สามารถรักษาได้ แต่พอได้ยินว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาได้ ก็ทำใจยอมรับได้ยาก เรื่องที่ยากที่สุดคือรู้ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสได้เห็นลูกโต”
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า “ผมออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ แต่ทำไมโรคร้ายนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับผม ทั้ง ๆ ที่ดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ”
ท้ายของการสัมภาษณ์ลูอิสแนะนำว่าหากใครสังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ ทางร่างกาย ให้รีบพบแพทย์ทันที และซื้อประกันชีวิตไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของครอบครัวหากเป็นอะไรขึ้นมา
ที่มา:sanook