นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเทศกาลสงกรานต์ 2565 ในช่วง 7 วันรณรงค์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 1,917 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,869 คน ผู้เสียชีวิต 278 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ได้แก่ ขับเร็ว 56.8% ดื่มแล้วขับ 16.5% ตัดหน้ากระชั้นชิด 24.5% และหลับใน 8.8%
นอกจากนี้ข้อมูลจากบริษัทกลาง คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ชี้ว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่ตายใกล้บ้าน ในระยะ 5 กิโลเมตร เพราะคิดว่าตัวเองคุ้นเคย ขับประจำ ใครๆก็ทำ จึงทำให้เกิดเหตุจนเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ครึ่งหนึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว และไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับบ้านและมีปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ผู้ที่จะเดินทางต้องเตรียมตัวให้พร้อม วางแผนล่วงหน้า และขับขี่รถอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ การเดินทางกลับบ้านก่อนเทศกาลของประชาชน เชื่อว่าจะต้องมีการดื่มที่หนักมากแน่นอน รวมทั้งช่วงขากลับสิ่งที่น่ากังวลคือ การดื่มฉลองที่หนัก สะสมหลายวัน จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า เหนื่อยเพลีย เสี่ยงที่จะเกิดการหลับใน และเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
นายพรหมมินทร์กล่าวต่อว่า สคอ.ได้ผลิตสื่อรณรงค์กระจายไปยังหน่วยงานภาคีต่างๆเพื่อร่วมกันสื่อสารประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ก่อนเข้าสู่เทศกาลและช่วงเทศกาลมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างกระแสให้เกิดความตระหนักถึงโทษและอันตราย โดยปีนี้ได้มีประเด็นสื่อสารคือ “ดื่มแล้วขับ… แก้วเดียวก็ถึงตาย” ชี้ถึงความเสี่ยงที่แม้เพียงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แค่แก้วเดียวผ่านสื่อทุกแขนง รวมถึงบทลงโทษของการทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งได้มีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ จึงขอให้งดการดื่มเฉลิมฉลอง หรือการสังสรรค์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปลี่ยนเป็นการฉลองสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทยแบบดั้งเดิม.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/