จเรตำรวจฯ ถกร่วม “14 ประเทศ” ลุยแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์

จเรตำรวจฯ ถกร่วม “14 ประเทศ” ลุยแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์

ทางการจีนส่งเครื่องบินเหมาลำอีก 12 เที่ยวบิน มารับคนจีนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี ประเทศ เมียนมา อีกกว่า 800 คน รวมถึงส่งกลับ 23 ชาวแอฟริกาใต้ด้วย ด้านจเรตำรวจฯ ยอมรับยังมีต่างชาติสมัครใจไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลักลอบเข้ามากบดานหรือรอหลบหนีไปประเทศที่สาม พร้อมโต้กรณีชาวเอธิโอเปียอ้างถูกคลุมหัวจากสนามบิน มอมยาบังคับข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นไปได้ยากหลังไทยคุมเข้มตามด่าน ส่วนจีนยอมรับผลการปราบปรามทำสถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลง

ความคืบหน้าการส่งตัวชาวต่างชาติที่ถูกนำตัวออกมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองเมียวดี เพื่อส่งกลับประเทศตัวเอง ที่ยังคงตกค้างอยู่อีกจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 มี.ค. ที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ฝั่งเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่สถานทูตจีน และทูตจากแอฟริกาใต้ เดินทางข้ามไปรับพลเมืองของตัวเองเพื่อนำกลับประเทศ โดยมีฝ่ายไทยทำหน้าที่ประสานงานร่วม ไปรับตัวชาวแอฟริกาใต้ 23 คน และชาวจีนกว่า 300 คน นั่งรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 มายังอาคารเทอร์มินอล ฝั่งไทย แล้วเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก รวมถึงขึ้นบัญชีดำป้องกันการกลับเข้ามาในไทยอีก

สำหรับชาวจีนที่นำตัวกลับมาและส่งกลับประเทศในรอบนี้มีจำนวน 879 คน ใช้เวลาจัดส่ง 3 วัน จำนวน 12 เที่ยวบิน โดยทหารกองกำลังนเรศวร ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และฝ่ายปกครองร่วมอำนวยความสะดวกนำตัวขึ้นรถบัสไปส่งที่สนามบินนานาชาติแม่สอด ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำบินกลับไปยังเมืองหนานจิง ประเทศจีน แบ่งเป็นวันที่ 26 มี.ค. จำนวน 5 เที่ยวบิน เวลา 10.45 น./11.45 น./12.30 น./ 14.45 น. และ 15.45 น. เที่ยวบินละ 75 คน รวมเดินทางกลับ 375 คน ในวันที่ 27 มี.ค.จำนวน 5 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 75 คน เดินทางกลับ 375 คน และในวันที่ 28 มี.ค.จำนวน 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรก เวลา 10.45 น.จำนวน 65 คน และเวลา 11.45 น.จำนวน 64 คน รวมส่งชาวจีนกลับประเทศในสัปดาห์นี้ 879 คน

นอกจากนี้ มีรายงานว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 25 มี.ค. หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ตม.สระแก้ว และ ตร.สภ.คลองลึก จับกุมชายต้องสงสัย 2 คน ได้ที่บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะมุดรั้วลวดหนามกั้นชายแดนจากฝั่งปอยเปต กัมพูชา เข้ามาฝั่งไทย ทราบชื่อนายธนาวุธ แจ้งนิล อายุ 42 ปี ชาวชลบุรี และนายอานนท์ แสงทอง อายุ 42 ปี ชาวระนอง ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดน จึงคุมตัวมาที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ ซึ่งทั้งสองรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. เพื่อนคนไทยที่ทำงานในกัมพูชาติดต่อให้ไปทำงานที่ปอยเปตเป็นเวลา 10 วัน จะได้เงิน 20,000 บาท มีรถมารับถึงบ้าน พามาส่งที่ข้างห้างสรรพสินค้า สาขาตลาดโรงเกลือ เวลาเที่ยงคืน แล้วมีชาวกัมพูชามารับพาเดินข้ามแดนช่องทางธรรมชาติไปฝั่งกัมพูชาและถูกส่งตัวไปที่ตึก 6 ชั้น สีชมพู บริเวณตลาดพุทรา

ทั้งคู่ระบุด้วยว่าระหว่างที่อยู่ในปอยเปต มีชาวกัมพูชาบังคับให้เปิดบัญชีธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน ธนาคารในโทรศัพท์มือถือของพวกตน คนละ 5 บัญชี ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย กสิกรไทย ทหารไทยธนชาต กรุงเทพ และซีไอเอ็มบีไทย โดยมีชาวกัมพูชามาคอยสแกนใบหน้าผ่านแอปธนาคารทุกวัน จนถึงวันที่ 25 มี.ค.เวลาประมาณ 20.00 น. ชาวกัมพูชามาแจ้งว่างานเสร็จแล้ว นายจ้างสั่งให้กลับไปได้และให้เงินมาคนละ 2,000 บาท จากนั้นชาวกัมพูชาพามาปล่อยทิ้งไว้บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ฝั่งปอยเปต บังคับให้เดินลอดใต้สะพานมิตรภาพไทย- กัมพูชา กลับเข้าไทย จนถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีต่อไป

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงบ่ายวันที่ 26 มี.ค. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ (International Coordination Center for the Anti-Cyber Crime and Human Trafficking Task Force) โดยมีผู้แทนผู้ช่วยทูต ตำรวจ และนายตำรวจประสานงานจากนานาชาติที่ประจำอยู่ในไทยจาก 14 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ แทนซาเนีย อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว เคนยา จีน อินเดีย รัสเซีย มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ตลอดจนติดตามขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากนานาชาติ ทบทวนและปรับปรุงกลไกการส่งตัวผู้กระทำความผิดกลับประเทศ เน้นที่การต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ การแบ่งปันข้อมูล และการวางแผนเชิงกลยุทธ์

พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวด้วยว่า หลังจากไทยใช้มาตรการเข้มข้นตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตร่วม 2 เดือน โดยเฉพาะฝั่งชายแดนแม่สอด เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา สามารถควบคุมตัวแก๊ง

คอลเซ็นเตอร์ได้กว่า 8,000 ราย ส่งกลับไปประเทศต่างๆแล้วกว่า 5,000 ราย เหลืออีกกว่า 2,000 ราย อยู่ระหว่างรอประเทศต่างๆประสานนำตัวกลับ ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องการขนส่งและงบประมาณ เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกาไม่มีสถานทูตในไทย ต้องประสานงานกันหลายฝ่าย ขณะเดียวกัน มีข้อมูลว่ามีชาวต่างชาติเดินทางเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งมีชาวต่างชาติบางส่วนลักลอบเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาไทย เพื่อหลบหนีไปยังประเทศที่ 3 รวมถึงพบการลักลอบขนย้ายอุปกรณ์เข้าไทยเพื่อนำไปยังกัมพูชา แต่ทหารและฝ่ายปกครองจับกุมได้จำนวนมาก

จตช.ยืนยันว่า ที่ผ่านมาศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชาสัมพันธ์ไปยังชาวต่างชาติ แต่ยังพบชาวต่างชาติเดินทางมาไทย ส่วนใหญ่สมัครใจที่จะไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง อ.แม่สอด และยังไม่พบชาวต่างชาติถูกล่อลวงหรือบังคับจากสนามบิน โดยเฉพาะกรณีชาวเอธิโอเปียที่อ้างว่าถูกคลุมหัวจากสนามบิน มอมยาและบังคับข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบยังไม่พบข้อเท็จจริง การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านคอยตรวจสอบตลอดทาง และจากการประสานข้อมูลกับทางการจีนอย่างไม่เป็นทางการระบุว่าสถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลง ส่วนการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกาและ สปป.ลาวเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อหารือและสังเกตการณ์เกี่ยวกับการจัดอันดับเทียร์และปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่ได้พูดถึงกรณีที่สหรัฐฯขึ้นแบล็กลิสต์ข้าราชการไทยกว่า 40 คน ส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็น 1 ใน 40 คนที่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์หรือไม่ แต่ขอภาวนาว่าไม่ให้เป็นแบบนั้น และไม่ทราบว่าในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีใครบ้าง รวมถึงไม่ทราบรายชื่อข้าราชการไทยที่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ สำหรับประเทศเมียนมาและกัมพูชาไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดธุระ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการปฏิเสธความร่วมมือกับทางการไทยแต่อย่างใด

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,153 Posts

View All Posts
Follow Me :