ชาวบ้านเมืองยะลาสุดทน หลวงพี่ พระปลัดวัดดังหิ้วสาวเข้ารีสอร์ต แถมโอนเงินเปย์สาว 3-4 ราย ในทุกๆ เดือน ล่าสุดอู้ฟู่ เพิ่งไปถอยรถยยนต์ 7 ที่นั่งคันใหม่ หลังโดนแฉพฤติกรรม พยายามยัดเงินปิดปากพยานเพื่อยุติปัญหา…
จากกรณีคลิปข่าวที่ถูกเผยแพร่หลายในโซเชียล เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 ปรากฏภาพสีกานอนภายในกุฏิพระ ลักษณะห่มจีวรพระ ภายในวัดดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดยะลา พร้อมทั้งภาพรถยนต์จอดภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดยะลา จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ของพระปลัดศิจะพรรณ เลขานุการวัดนิโรธสังฆาราม (วัดหัวควน) อ.เมือง จ.ยะลา เป็นผู้ครอบครอง หลังทราบเรื่องทางคณะสงฆ์จังหวัดยะลา ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยทางสงฆ์ ถึงข้อเท็จจริง และความเหมาะสมหรือไม่
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพวชิรนายก เจ้าคณะจังหวัดยะลา/เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน พร้อมด้วย พระโสภณธรรมมุนี ดร./ เจ้าอาวาสวัดนิโรธสังฆาราม รองเจ้าคณะจังหวัดยะลา พระครูวรพุทธาภิรักษ์ ดร.เจ้าอาวาสวัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง และคณะสงฆ์ ได้แถลงผลการตรวจสอบทางวินัยสงฆ์ พร้อมทั้งนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม โดยมีรายงานการตรวจสอบให้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ทราบเรื่อง พร้อมขอความร่วมมือไปยัง พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์ กอ.รมน.จังหวัดยะลา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดยะลา ร่วมกับ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองยะลา และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา ดำเนินการ แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ จากการดำเนินการตรวจสอบ พบว่า พระปลัดรูปดังกล่าวคือ พระปลัดศิจะพรรณ ฉายา สุธฺมโม ป. อายุ 34 ปี ปัจจุบัน ตำแหน่งรักษาการรองเจ้าอาวาสวัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนหาเบาะแส จนสามารถติดต่อหญิงสาวที่ถูกพระปลัดซื้อบริการ และได้ทำการสอบสวนปากคำ และนำหลักฐานคือ โทรศัพท์มือถือของหญิงสาวคนดังกล่าวไปตรวจสอบหลักฐานการแชต
มีความสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกจำนวน 3 คน โดย 2 ใน 3 นั้น วนเวียนเข้าออกวัดทุกครั้งที่มีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น จนมีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มขึ้น และพบว่ามีคลิปผู้หญิงนอนห่มจีวรอยู่ภายในกุฏิของพระปลัดศิจะพรรณ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนและเก็บพยานหลักฐาน จนคาดว่า น่าจะมัดเอาความผิดจากพฤติกรรมได้ จึงได้รายงานต่อคณะสงฆ์ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำตัวพระปลัดศิจะพรรณ มาฟังคำวินิจฉัยการตัดสินของคณะสงฆ์ พร้อมพยานหลักฐาน ที่เจ้าหน้าที่มีเพื่อยืนยันการกระทำผิดโดยใช้การตรวจสอบโทรศัพท์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ใช้เวลาในการพิจารณาและวินิจฉัยจากคณะสงฆ์นานกว่า 4 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 13.00 น. วานนี้(18 พ.ค. 66) คณะสงฆ์จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พระปลัดศิจะพรรณ ปาราชิก ตัดขาดจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์โดยทันที เนื่องจากการกระทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงเด่นชัด
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่พระปลัดศิจะพรรณ ถูกแฉพฤติกรรมและถูกร้องเรียนต่อสื่อมวลชน มีพลเมืองดีเป็นผู้ให้ข้อมูลว่า พระปลัดได้ให้ลูกศิษย์คนสนิทนำเงินไปให้พยานบุคคลหลายราย เพื่อยุติปัญหา รายละ 5,000-20,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านหลายราย ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความโปร่งใส่เรื่องเงินในบัญชีของวัด และเงินกิจการต่างๆ ที่เข้ามาหมุนเวียนอยู่ในวัด เนื่องจากพบจากหลักฐานในโทรศัพท์ ว่าพระปลัดได้มีการโอนเงินให้กับผู้หญิง 3-4 ราย ในทุกๆ เดือน และล่าสุดทราบว่าเพิ่งไปถอยรถยนต์คันใหม่ เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง เมื่อปลายปี 65 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จากหลักฐานยังพบว่า เมื่อช่วงปี 2562 ก่อนหน้านี้มีคนจากกรุงเทพฯ มาบริจาคเงินให้วัดประมาณ 1 ล้านบาท โดยเป็นเงินสดทั้งหมด จากนั้นก็เห็นพระรูปดังกล่าวหยิบเงินที่ญาติโยมบริจาคไปประมาณ 1-2 ปึก ซึ่งเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ใส่ในกระเป๋า จากนั้นทางพระรูปดังกล่าวก็ชวนเพื่อนผู้หญิงและตนให้ร่วมเดินทางไปเชียงใหม่ โดยก่อนเดินทาง ก็มานอนที่กุฏิพระปลัด
พลเมืองดี เล่าต่อว่า พระปลัดฯ นอนกับเพื่อนของตน ส่วนตนนอนอีกเตียง จากนั้นรุ่งเช้าก็ออกเดินทาง โดยมาแวะที่บ้านของพระที่ จ.สงขลา จากนั้น ก็ต้องตกใจ เมื่อพระปลัดฯ เปลี่ยนการแต่งกายมาใส่ชุดปกติเหมือนคนทั่วไป “อ้างว่าการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบการทำงาน” ซึ่งตอนนั้นตนเองตกใจมาก ตัวสั่นไปหมด แต่เพื่อนของตนบอกว่าให้เฉยๆ ไว้ไม่เป็นไรหรอก โดยใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ 1 สัปดาห์ โดยมีภาพและคลิปการไปท่องเที่ยวที่จังหวัดบุรีรัมย์และตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งระหว่างนั้นก็เห็นพระปลัดมีอะไรกับเพื่อนสาว ซึ่งตนก็รู้สึกผิดมาตลอด
ขณะที่ พระครูวรพุทธาภิรักษ์ เจ้าคณะตำบลสะเตง เจ้าอาวาสวัดพุทธภูมิพระอารามหลวง ได้เข้าแจ้งความเป็นหลักฐาน ให้มีการตรวจสอบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี วิชาเอกรัฐศาสตร์ ซึ่งพระปลัดศิจะพรรณ ได้ยื่นเอกสารดังกล่าว จบจากสถาบันมหาวิทยาลัยรามคำแหง รหัสนักศึกษา 4617260572 ชื่อนายศิจะพรรณ เพียรหาญ วิชาเอก รัฐศาสตร์ ปริญญา คศ.บ. ซึ่งมีใบประกาศประกาศนียบัตรระดับปริญญาตรี ใบรับรองคุณวุฒิระดับปริญญาตรี และใบระเบียบแสงผลการศึกษาระดับปริญญาตรี ศึกษาสำเร็จหลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) วันสำเร็จการศึกษา 2549 จึงได้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพื่อนำหลักฐานประสานทางสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อตรวจหลักฐานการสำเร็จการศึกษาดังกล่าวถูกต้องหรือไม่
โดยการยื่นหลักฐานดังกล่าวนี้ ทราบว่า พระปลัดศิจะพรรณ หรือนายศิจะพรรณ เพียรหาร จะยื่นเพื่อขอแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ทั้งนี้ทราบว่า จะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบเรื่องการถอดถอนรายชื่อออกจากผู้รับเสาเสมาธรรมจักร ต่อไปอีกด้วย.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/