ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วิจัยนีลเส็น ได้เปิดเผยเม็ดเงินโฆษณาไตรมาส 2 ปี 67 เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่ารวม 29,908 ล้านบาท โดยทีวียังครองแชมป์สื่อหลักของไทย ด้วยสัดส่วนการใช้เงินโฆษณา 51% ขณะที่สื่อที่มีการเติบโตสูงสุดคือ สื่อโรงภาพยนตร์ โต 48% ในไตรมาส 2 โดยได้อานิสงส์จากการที่กองทัพหนังดังพากันเข้าโรงฉายอย่างคึกคัก สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้เวลากับกิจกรรมดูหนังมากขึ้น
สำหรับภาพรวมรายอุตสาหกรรม พบว่าไตรมาส 2 อุตสาหกรรมยาสีฟันผงาดขึ้นเป็นผู้นำด้านการทุ่มทุนโฆษณาด้วยงบประมาณ 917 ล้านบาท เติบโต 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามด้วยอุตสาหกรรมเครื่องดื่มน้ำอัดลม งบโฆษณา 549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% ขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศยังคงเติบโตต่อเนื่อง งบโฆษณา 515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%
ส่วนอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง ได้แก่ สินค้าแบรนด์เนม, วิตามินอาหารเสริม ที่เติบโตโดดเด่นในไตรมาส 2 โดยสินค้าแบรนด์เนมลงทุนทุ่มเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 124% รวมเป็นมูลค่า 220 ล้านบาท ขณะที่วิตามินอาหารเสริมเติบโต 112% มูลค่างบโฆษณา 466 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังเห็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการสินค้าแบรนด์เนมหันมาให้ความสำคัญกับสื่อนอกบ้านมากขึ้น โดยใช้สัดส่วนงบโฆษณาไตรมาส 2 กว่า 80% โดย นีลเส็นพบว่า คนกรุงเทพฯและปริมณฑล 91% เห็นสื่อกลางแจ้ง ทำให้สื่อ ช่องทางนี้เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักช็อปในเมือง
น.ส.รัญชิตา ศรีวรวิไล หัวหน้า Nielsen Thailand Commercial กล่าวว่า การทุ่มงบโฆษณาของสินค้าแบรนด์เนมสะท้อนเทรนด์สินค้าไฮเอนด์มาแรงในไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งมีการโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ข้อมูลจากนีลเส็น Consumer & Media View (CMV) ยังพบว่า คนกรุงเทพฯกว่า 40% ชื่นชอบเสื้อผ้าและเครื่อง ประดับแบรนด์เนมที่มีประวัติชื่อเสียงยาวนาน นอกจากนี้ 38% ยังยินดี จ่ายเงินซื้อสินค้าแบรนด์เนมเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดีขึ้น.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
