ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาลหลัง ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา กล่าวหานายอัจฉริยะกรณีส่งไฟล์คำพิพากษาย่อคดี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. ที่มีข้อเท็จจริง ถูกลักลอบคัดถ่ายไปโดยยังไม่ได้รับอนุญาตคัดถ่ายโดยชอบจากศาล หลังฟังคำพิพากษารีบยื่นหลักทรัพย์ 5 หมื่นบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.พ. ศาลนัดฟังคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ อลศ.2/2567 ระหว่างผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหา และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กรณีมีการส่งไฟล์คำพิพากษาย่อคดี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.ที่มีข้อเท็จจริง ถูกลักลอบคัดถ่ายไปโดยยังไม่มีการได้รับอนุญาตคัดถ่ายโดยชอบจากศาล
ศาลไต่สวนได้ความว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2567 ผู้ถูกกล่าวหาเผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.951/2566 ระหว่าง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ โจทก์ กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จำเลย ต่อสื่อมวลชน ทั้งที่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนยังไม่อนุญาตให้เผยแพร่คำพิพากษา เนื่องจากอยู่ระหว่างจัดพิมพ์ตามระเบียบราชการ โดยสรุปย่อคำพิพากษาที่ผู้ถูกกล่าวหาเผยแพร่มีเนื้อหาเช่นเดียวกับคำพิพากษาที่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนอ่านในห้องพิจารณา
เชื่อว่า สรุปย่อคำพิพากษาที่ผู้ถูกกล่าวหาเผยแพร่เป็นเอกสารที่เกิดขึ้นจากวิธีการลักลอบบันทึกเสียง หรือวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดอันมิชอบ บันทึกเสียงผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนในขณะอ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาและจัดพิมพ์เป็นเอกสารสรุปย่อคำพิพากษาออกเผยแพร่
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1) มาตรา 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาตรา 180 แม้ผู้ถูกกล่าวหามิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมายโดยตรง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้เผยแพร่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อสังคมมาเป็นเวลานาน
ที่สำคัญผู้ถูกกล่าวหามีประสบการณ์ในการดำเนินคดีในศาลมาแล้วหลายคดี ย่อมรู้ถึงวิธีการดำเนินคดีในศาลและการประพฤติตนในศาล การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและความชอบด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นเหตุให้ประชาชนมีความเคลือบแคลงสงสัยต่อคำพิพากษาของศาลอาญา และส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม จึงเห็นสมควรลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 2 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังศาลอาญาพิจารณา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและหลักทรัพย์เงินสด 5 หมื่นบาท ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีได้ นายอัจฉริยะเดินทางออกมาโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่รออยู่ ก่อนขึ้นรถส่วนตัวกลับออกไปทันที
ที่มา ไทยรัฐ
Do you have a spam problem on this site; I also am a blogger, and I was curious about your situation; many of us have developed some nice procedures and we are looking to swap solutions with others, be sure to shoot me an e-mail if interested.