- เช็งเม้ง 2566 เทศกาลสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน รวมตัวกันไหว้ศาลบรรพชน
- คุยกับ ผู้ประกอบการเต็นท์เช่า ปีนี้ได้ไม่คุ้มเสีย หลังคนมาไหว้เช็งเม้งปรับตัวช่วงโควิด-19
- บรรยากาศกลับมาคึกคัก คนแห่จัดงานรื่นเริงท้าอากาศร้อน ดีกว่าจัดงานช่วงฤดูฝน
นอกจากเทศกาลตรุษจีนแล้ว “เช็งเม้ง” ถือเป็นเทศกาลสำคัญอีกหนึ่งวันสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน ที่คนในครอบครัวได้กลับมารวมตัวกันเพื่อไหว้สุสานของบรรพบุรุษ และเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู ด้วยการดูแลสุสาน หรือหลุมศพของบรรพชน ตรวจดูว่าใน 1 ปีที่ผ่านมามีอะไรเสียหายหรือไม่ หากมีต้นไม้ ใบหญ้า ก็จัดการเอาออก
เช็งเม้ง 2566
สำหรับในปีนี้ การเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จะเริ่มไหว้กันได้ตั้งแต่วันชุงฮุง (21 มีนาคม) ส่วนวันเช็งเม้งคือวันที่ 5 เมษายน แต่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีเวลาน้อย อีกทั้งสุสานส่วนมากอยู่ชานเมืองหรือต่างจังหวัด คนจึงนิยมไปไหว้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุด หรืออาจจะไหว้ก่อนวันเช็งเม้ง 15 วัน หรือหลังวันเช็งเม้ง 15 วันตามความสะดวก

ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายครอบครัวไม่ได้เดินทางกลับมารวมตัวกันเหมือนเดิม ทำให้บรรยากาศเช็งเม้งเปลี่ยนไปจากเดิม และแม้ว่าในปีนี้หลายอย่างจะกลับเข้าที่ โรคระบาดสงบลง คนเดินทางได้สะดวก แต่หลายคนเลือกที่จะปรับตัว อย่างเช่น การเช่าเต็นท์ไหว้หลุมบรรพชน
ธุรกิจเต็นท์เช่าปรับตัวหลังโควิด-19
จากการสอบถาม นายอำนาจ บุญเลิศ เจ้าของธุรกิจเครื่องเสียงอำนาจมิวสิค และเต็นท์เช่าใน จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตนทำธุรกิจด้านนี้มาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ผู้ประกอบการเต็นท์เช่าจะสามารถเอาเต็นท์ไปลงที่ฮวงซุ้ยได้นั้น จะต้องรู้จักกับคนดูแลฮวงซุ้ยด้วย ซึ่งส่วนมากจะใช้บริการกันเป็นประจำทุกปี หากผู้ที่มาไหว้ต้องการเช่าเต็นท์คนดูแลจะแนะนำให้ติดต่อมาที่เรา

ช่วงเช็งเม้งหลักๆ แล้วคนจะมาไหว้ 2 วัน โดยวันที่พีกที่สุดจะตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ คนจะมารวมตัวกัน ใน 1 วันจะให้บริการเต็นท์เช่าประมาณ 30 หลัง ราคาหลังละประมาณ 600 บาท หรือตกวันละประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท

จนกระทั่งช่วงโควิด-19 ประมาณปี 2563 ธุรกิจเต็นท์เช่าซบเซามาก ไม่มีคนติดต่อมาเลยเพราะมีคำสั่งห้ามจัดงานรื่นเริง คนมารวมตัวกันน้อย บางคนที่มาไหว้จะเตรียมร่มมาเอง เป็นแบบนี้ประมาณ 2 ปี
จนช่วงปี 2565 บรรยากาศเช็งเม้งเริ่มกลับมาคึกคัก แต่ถามว่าคึกคักเท่าก่อนช่วงโควิดหรือไม่ ก็ตอบว่าไม่ บางส่วนที่มาไหว้ก็เลือกซื้ออุปกรณ์มาเอง เป็นเต็นท์ราคาหลักพัน ดังนั้นคนที่ติดต่อมาเช่าเต็นท์ถือกลัวมาเพียง 70% จากช่วงก่อนโควิด
ก่อนฤดูฝนจะมาเยือน คนรีบจัดงานรื่นเริง
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ 2566 คนตัดสินใจไม่ลงเต็นท์เช่าเช็งเม้ง เพราะคิดว่าไม่คุ้ม ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีคนงานลงเต็นท์ ซึ่งไม่ใช่งานง่าย ต้องไปจ้างคนมาเพิ่ม ประกอบกับราคาเช่าเต็นท์ก็ปรับราคาขึ้น จากเดิมหลังละ 600 บาท ปรับขึ้นเป็น 900 บาท ซึ่งเราไม่ได้ปรับราคาขึ้นรายเดียว คนอื่นก็ปรับราคาเช่นกัน สาเหตุจากค่าแรง ค่าน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่าในปีนี้ตนจะไม่ได้ไปลงเต็นท์ที่ฮวงซุ้ย แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ยังทำอยู่ เพราะเขามีอุปกรณ์ของเขา ส่วนเราไปโฟกัสกับงานรื่นเริงมากกว่า
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ตนมีธุรกิจเต็นท์เช่ากับเครื่องเสียงทำควบคู่กัน เมื่อปี 2565 ถือว่ามีคนมาจ้างงานประปราย เพราะยังจัดงานรื่นเริงได้ไม่เต็มที่ ธุรกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนใหญ่คนจ้างจะสั่งแค่ชุดเล็ก บางคนใช้เครื่องเสียงของวัดแล้วเช่าเต็นท์เราก็มี

แต่ในปีนี้ ตั้งแต่เข้าปี 2566 เรามีงานเต็นท์ทุกวัน มีงานเครื่องเสียงทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 งาน ซึ่งแต่ละงานคนจ้างจะรีเควสจัดงานใหญ่ขึ้น ไม่ได้สั่งชุดเล็กแบบที่ผ่านมา ปกติเครื่องเสียงชุดเล็กราคาประมาณ 3,500 บาท ตอนนี้รูปแบบการจัดงานจะเริ่มต้นที่ 5,000 บาท ไปจนถึงหลักหลายหมื่น เหมือนคนกล้าใช้เงินมากขึ้น และส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงนี้มีจัดงานเยอะเพราะอีกไม่กี่เดือนจะเข้าฤดูฝน ในช่วงนั้นคนก็จะไม่ค่อยจัดงาน

เมื่อเรื่องการปรับตัว นายอำนาจ ยอมรับว่า ธุรกิจของตนมีการปรับตัวมาโดยตลอด ในช่วงที่ไม่มีงาน เราจะปรับปรุงอุปกรณ์ของเราไป เมื่อถึงเวลามีคนจ้างงาน อุปกรณ์ของเราก็มีความพร้อม และมีการรับคนงานเพิ่มเพื่อทำให้งานออกมาดี
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า แม้ว่าประเทศไทยจะผ่านช่วงการระบาดของโควิด-19 โรคสงบลง ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ แต่ระยะเวลา 2-3 ปีในช่วงดังกล่าวก็ส่งผลต่อพฤติกรรมของคน รวมไปถึงผู้ประกอบการ ที่หากไม่ปรับตัวก็จะอาจจะอยู่ไม่ได้.
ผู้เขียน : J. Mashare
กราฟฟิก : Anon Chantanant