เว็บไซต์ cnbc รายงานเรื่องราวของชายชาวออสเตรเลียวัย 30 ปี ที่ออกมาเผยว่าเขาเก็บของจากกองขยะเมื่อปีที่แล้ว สร้างรายได้ให้เขามากถึง 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 2.4 ล้านบาทเลยทีเดียว
ชายคนนี้มีชื่อว่า ลีโอนาร์โด เออร์บาโน ที่ออกมาเผยว่า สิ่งที่พบเจอในกองขยะนั้นมีหลากหลาย เช่น โทรทัศน์กว่า 50 เครื่อง, ตู้เย็น 30 ตู้, เครื่องซักผ้ากว่า 20 เครื่อง, คอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป 50 เครื่อง, ชุดโซฟา 15 ชุด, เครื่องดูดฝุ่น 50 เครื่อง, หม้อมากกว่า 150 ใบ, โคมไฟมากกว่า 100 หลอด รวมไปถึง เงินสด
“คอมพิวเตอร์, เครื่องดูดฝุ่น และโทรทัศน์มักอยู่ในสภาพดี หรืออาจต้องทำความสะอาดและซ่อมแซมเพียงเล็กน้อย ของเหล่านี้มาจากครอบครัวร่ำรวยที่มักซื้อรุ่นใหม่แล้วทิ้งรุ่นเก่า” เออร์บาโน กล่าว
นอกจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แล้ว เออร์บาโน ยังพบเสื้อผ้าสภาพดีและกระเป๋าแบรนด์ดังหลายรายการ บางครั้งก็ยังพบเงินอยู่ด้านในอีกด้วย โดยสิ่งของที่เขาเก็บได้จากกองขยะเมื่อปีที่แล้ว สร้างรายได้ให้เขามากถึง 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 2.4 ล้านบาทเลยทีเดียว
สำหรับสิ่งของที่เก็บมาจากกองขยะ เออร์บาโน จะแบ่งไว้ใช้เองบางส่วนหรือมอบให้ผู้อื่น จากนั้นค่อยขายส่วนที่เหลือทางออนไลน์ เนื่องจากพื้นที่ในบ้านมีจำกัด เขาจึงพยายามขายสินค้าให้ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าขายไม่ได้ เขาก็จะแจกจ่าย เมื่อใดก็ตามที่เขาพบสินค้าจากแบรนด์ดัง เขาจะเช็กซีเรียลนัมเบอร์ก่อน และยังปรึกษาเพื่อนที่ขายสินค้าแบรนด์เนมเพื่อความมั่นใจ
เออร์บาโน เผยว่า เขาทำแบบนี้มา 4 ปีแล้ว มักจะเดินทางไปรื้อค้นกองขยะทั่วซิดนีย์ ใช้ทรัพย์สมบัติที่ได้จากการเก็บขยะมาจ่ายค่าเช่า และด้วยสิ่งของมือสองเหล่านี้ เขาจึงแทบไม่ต้องใช้เงินในการตกแต่งอพาร์ตเมนต์เพิ่มเลย เช่น เขาเคยพบเครื่องชงกาแฟและภาพวาดราคาหลักหมื่น ซึ่งสามารถใช้ตกแต่งอพาร์ตเมนต์ได้อย่างสบายๆ
ที่มา:sanook