สมาชิกรัฐสภากรุงเม็กซิโกซิตี้ ผ่านกฎหมายการห้ามการสู้วัวกระทิงโดยใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ชื่นชอบกีฬาดังกล่าว และการเฉลิมฉลองจากกลุ่มปกป้องสิทธิสัตว์
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 มี.ค.) สมาชิกรัฐสภากรุงเม็กซิโกซิตี้ ลงมติผ่านกฎหมายที่มุ่งหวังให้การต่อสู้วัวกระทิง ลดการเกิดอันตรายและความรุนแรงทั้งต่อวัวกระทิงและนักสู้วัวกระทิง มาตรการดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมจากนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขันที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี
กฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 61 ต่อ 1 ห้ามการฆ่าวัวกระทิงและการใช้ของมีคมที่อาจทำร้ายสัตว์ได้ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดระยะเวลาในการให้วัวกระทิงอยู่ในสังเวียน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่มที่เรียกว่า “การสู้วัวกระทิงโดยไม่ใช้ความรุนแรง”
การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เกิดการประท้วงจากผู้สนับสนุนการสู้วัวกระทิงและนักสู้วัวกระทิง โดยบางคนตะโกนแสดงความไม่พอใจหลังแนวป้องกันของตำรวจ ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงสิทธิสัตว์และสมาชิกรัฐสภาที่ผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ออกมาเฉลิมฉลองและเดินออกไปที่บันไดของรัฐสภาเม็กซิโกซิตี้พร้อมกับชูกำปั้น
ด้านนางคลารา บรูกาดา นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายดังกล่าว แสดงความยินดีผ่าน X โดยกล่าวว่าเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนเมืองหลวงให้กลายเป็น “เมืองที่เคารพสิทธิสัตว์ และจะไม่ยอมให้สัตว์ถูกทารุณกรรมหรือถูกทำร้าย” โดยกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ภายใน 210 วันปฏิทิน ทำให้รัฐบาลมีเวลาออกกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการสู้วัวกระทิง
เม็กซิโกซิตี้เป็นที่ตั้งของสนามสู้วัวกระทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใหญ่กว่าสนามสู้วัวกระทิงในสเปนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดประเพณีนี้ การสู้วัวกระทิงในเม็กซิโกมีมาตั้งแต่ปี 1529 ในสมัยของเอร์นัน กอร์เตส นักสำรวจชาวสเปน ซึ่งปัจจุบันคือกรุงเม็กซิโกซิตี้
การลงครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นความพยายามในการไกล่เกลี่ยระหว่างสองฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งกัน หลังจากหลายปีที่มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการแข่งขันนี้ การสู้วัวกระทิงถือเป็นประเพณีและกิจกรรมยามว่างในหลายประเทศในละตินอเมริกามาช้านาน แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากวัวกระทิงมักจะถูกฆ่าในตอนท้ายของการต่อสู้ กลุ่มสิทธิสัตว์กล่าวว่ามีการฆ่าวัวกระทิงประมาณ 180,000 ตัวทุกปีในการสู้วัวกระทิงทั่วโลก
ประเพณีนี้ซึ่งดึงดูดฝูงชนจำนวนมากทั่วเม็กซิโกมาเป็นเวลานาน ได้รับผลกระทบ หลังผู้พิพากษาในเม็กซิโกซิตี้ มีคำพิพากษาห้ามการแข่งขันในเดือนมิถุนายน 2022 และปิดสนามกีฬาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสังเวียนการสู้วัวกระทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้พิพากษาตัดสินว่าการสู้วัวกระทิงละเมิดสิทธิของผู้อยู่อาศัยในเมืองในการมีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและปราศจากความรุนแรง แต่ในปี 2023 ศาลฎีกาของเม็กซิโกได้ยกเลิกคำสั่งห้ามดังกล่าวโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ทำให้สนามสู้วัวกระทิงเต็มไปด้วยแฟนๆ ของงานที่เรียกว่า “เทศกาลรื่นเริง” อีกครั้ง
ส่วนในครั้งนี้ บรรดาผู้สนับสนุนสิทธิสัตว์ต่างเฉลิมฉลองการลงมติครั้งนี้ว่าเป็นชัยชนะ และเป็นก้าวสำคัญในการยุติประเพณีการแข่งขันนี้ นักสู้วัวกระทิงกลับกล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมือง
สมาคมผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงแห่งชาติในเม็กซิโก ระบุว่า การสู้วัวกระทิงสร้างงานโดยตรงได้ 80,000 ตำแหน่ง และงานโดยอ้อม 146,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ โดยรวมแล้วอุตสาหกรรมนี้สร้างรายได้ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 13,450 ล้านบาท).
ที่มา AP
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/