- เกาหลีใต้กำลังเผชิญเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา สร้างความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ศพ คนอีกหลายหมื่นต้องอพยพ
- เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ไฟป่าในเบื้องต้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไฟป่ามีความรุนแรงขนาดนี้ คือสภาพความแห้งแล้งของพื้นที่ กับลมที่พัดแรง และป่าสนหนาทึบ
- ไฟป่าครั้งนี้ยังตอกย้ำปัญหาสังคมผู้สูงอายุในเกาหลีใต้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นคนชรา ขณะที่มรดกโลกหลายแห่งก็ตกอยู่ในความเสี่ยงจากไฟป่า
เหตุไฟป่าในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ขยายขอบเขตขึ้นเป็นเท่าตัวในวันพฤหัสบดีที่ 27 มี.ค. 2568 โดยเผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 88,500 เอเคอร์ หรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของนครนิวยอร์ก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ศพ อีกหลายหมื่นคนต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย
หายนะที่กำลังเกิดขึ้นกลายเป็นเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดที่เกาหลีใต้เผชิญ ในทั้งแง่ของขนาดพื้นที่และจำนวนผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ไฟป่าในเบื้องต้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากฝีมือมนุษย์
แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไฟป่ามีความรุนแรงขนาดนี้ คือสภาพความแห้งแล้งของพื้นที่ กับลมที่พัดแรงเข้าสู่แผ่นดิน นอกจากนั้น ป่าสนหนาทึบในจังหวัดคยองซังเหนือ ก็ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีให้แก่ไฟป่า จนมันขยายขนาดอย่างรวดเร็ว

ไฟป่าในเกาหลีใต้เกิดจากอะไร?
ไฟป่าครั้งนี้ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว 325 หลัง และทำให้ประชาชนมากกว่า 37,180 คนต้องอพยพ ขณะที่ทางการต้องเคลื่อนกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 9,000 นาย กับเฮลิคอปเตอร์อีก 120 ลำ ไปช่วยดับไฟในจุดต่างๆ ขณะที่กองทัพก็นำน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองที่เก็บไว้ออกมาใช้ เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์สามารถทำงานได้ตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้สงสัยว่า ไฟป่าหลายๆ จุดเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ โดยมีหลายกรณีที่ผู้คนเริ่มจุดไฟเพื่อกำจัดหญ้าที่ขึ้นรกสุสานของตระกูล หรือเกิดประกายไฟระหว่างทำงานเชื่อมเหล็ก
นายฮัน ดั๊ก-ซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังประสบปัญหาในการดับไฟป่า เนื่องจากกระแสลมแรงกับสภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝนตกน้อยนิดที่ตกลงมาก็ไม่ช่วยในภารกิจดับไฟของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้แต่พึ่งพาเฮลิคอปเตอร์เป็นหลักในการรับมือกับไฟป่า
แต่ในวันพุธก็เกิดเรื่องเศร้าขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างปฏิบัติงาน 1 ลำ จนทำให้นักบินเสียชีวิต 1 ศพ ทำให้ปฏิบัติการทางอากาศต้องหยุดชะงักไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ป่าไผ่หนาทึบ เชื้อเพลิงอย่างดี
เมืองอันดงเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่ามากที่สุด โดยเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องป่าสนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารอย่างดีให้แก่สัตว์ป่า และบางครั้งก็ช่วยต้านทานกระแสลม แต่ในกรณีนี้ มันกลับกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีให้แก่ไฟป่า
นอกจากจำนวนที่มากมายแล้ว ต้นสนยังรักษาพุ่มใบแหลมของมันเอาไว้ตลอดช่วงฤดูหนาว ทำให้ง่ายต่อการเกิด ไฟเรือนยอด (Crown Fire) หมายถึง ไฟที่ไหม้ลุกลามจากยอดของต้นไม้หรือไม้พุ่มต้นหนึ่งไปยังยอดของต้นไม้หรือไม้พุ่มอีกต้นหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะลามเร็วแล้ว ไฟยังมักอยู่สูงจากพื้นดินมากเพราะความสูงของต้นสนด้วย
เกาหลีใต้ยังต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง จีน และเกาหลีเหนือ พวกเขามีป่าเพิ่มขึ้นทุกปี และบนภูเขาตอนนี้ก็ปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ตกลงมา เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เร่งให้ไฟป่ากระจายตัวอย่างรวดเร็ว
ภาวะโลกร้อนก็เป็นอีกปัจจัยที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า มีส่วนทำให้ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงกว่าปกติ โดยศูนย์วิจัยโลกร้อน “Climate Central” ระบุว่า สภาพแวดล้อมในอุดมคติสำหรับเกิดไฟป่า ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 20 องศาเซลเซียส มากกว่าค่าเฉลี่ยในฤดูใบไม้ผลิ ส่งผลให้พื้นดินและอากาศแห้งแล้ง
เมื่อรวมทุกปัจจัย ทั้งป่าหนาทึบ อากาศแห้งแล้ง และลมแรง เข้าด้วยกัน ไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ครั้งนี้จึงเกิดขึ้น

วัดโบราณถูกทำลาย
วัตถุโบราณจำนวนมาก โดยเฉพาะพระพุทธรูป ถูกขนย้ายออกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่ไฟป่าเสี่ยงลุกลามมาถึง โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ถึง 750 คนไปช่วยกันขนย้ายในวันพุธที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีโบราณสถานหรือซากโบราณอย่างน้อย 18 แห่ง รวมถึง วัดโกอุนซา ในเขตอวีซอง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 618 ถูกไฟป่าเผาทำลายหรือได้รับความเสียหาย และมีวัตถุโบราณอีกอย่างน้อย 1,566 ชิ้น ที่ต้องสูญเสียไปในเหตุไฟป่าครั้งนี้
มรดกโลกที่ถูกกำหนดโดยยูเนสโก 2 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาหลีใต้ ได้แก่ หมู่บ้านชนพื้นเมือง “ฮาฮเว” (Hahoe) ในเมืองอันดง และโรงเรียนโบราณ “พย็องซานซอวอน” (Byeongsan Seowon) ก็ตกอยู่ในความเสี่ยงถูกเพลิงไหม้เช่นกัน
เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุในคืนวันพุธว่า ไฟอยู่ห่างจากหมู่บ้านฮาฮเวเพียง 5 กม. เท่านั้น ขณะที่นักดับเพลิงถูกส่งไปประจำการใกล้กับพย็องซานซอวอนแล้ว

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ
เหตุไฟป่าครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาสังคมผู้สูงอายุในเกาหลีใต้ โดยตามรายงานของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดจาก 27 ศพที่พบจนถึงตอนนี้ เป็นผู้มีอายุในช่วง 60-70 ปี
จังหวัดคยองซังเหนือ เป็นจังหวัดที่มีประชากรสูงอายุมากที่สุดอันดับ 2 ของเกาหลีใต้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่ผู้สูงอายุจะอพยพในกรณีเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะด้วยปัญหาด้านการเคลื่อนไหวหรือความเจ็บป่วยก็ตาม
ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในเขตยองด็อก มีคนชราเสียชีวิตถึง 3 ศพในวันพุธ หลังจากรถยนต์ที่พวกเขานั่งอยู่โดนไฟลุกท่วม ในรถคันดังกล่าวมีเพียงคนเดียวที่หนีออกมาได้ทัน
นายฮัน ดั๊ก-ซู รักษาการประธานาธิบดี ยอมรับในวันพฤหัสบดีว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมากที่ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ และได้ออกคำสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางไปยังจังหวัดคยองซังเหนือ เพื่อควบคุมปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แล้ว
ที่มา ไทยรัฐ