เกาหลีใต้สั่งประธานแชโบลใหญ่ “เอสเค กรุ๊ป” จ่าย 36,000 ล้าน ยุติคดีหย่า

เกาหลีใต้สั่งประธานแชโบลใหญ่ “เอสเค กรุ๊ป” จ่าย 36,000 ล้าน ยุติคดีหย่า

ศาลเกาหลีใต้สั่งให้นายเช แทวอน เจ้าของกลุ่มบริษัทเอสเค กรุ๊ป ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำอันดับ 2 ของโลก จ่ายเงิน 36,000 ล้านบาท ให้แก่อดีตภรรยา ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินในข้อตกลงการหย่าร้างที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้

ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ มีคำสั่งให้นายเช แทวอน ประธานกลุ่มบริษัทเอสเค กรุ๊ป จ่ายเงินสินสมรส 1.38 ล้านล้านวอน หรือราว 36,688 ล้านบาท ให้กับ โร โซยอง บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโร แทอู ในคดีการฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูที่สูงที่สุดของประเทศ

นายเช แทวอน แห่งกลุ่มบริษัทเอสเค กรุ๊ป กลุ่มบริษัทใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ และ โร โซยอง บุตรสาวคนเดียวของอดีตประธานาธิบดีโร แทอู สมรสกันในปี 1988 และมีบุตรสามคน นายเชประกาศการหย่าร้างในปี 2558 โดยยอมรับว่ามีคนรักนอกสมรสและมีลูกกับเธอ และเป็นฝ่ายยื่นฟ้องหย่าในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากต้องอดทนอดกลั้นนานกว่า 2 ปี โร โซยอง ได้ยื่นฟ้องในปี 2562 โดยเรียกร้องขอแบ่งทรัพย์สิน เป็นหุ้นของเอสเค กรุ๊ปครึ่งหนึ่งที่นายเชถืออยู่

เมื่อวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) ศาลสูงกรุงโซลมีคำสั่งให้นายเช แบ่งสินสมรสเป็นเงิน 1.38 ล้านล้านวอน นอกเหนือจากค่าเลี้ยงดูอีก 2,000 ล้านวอน ซึ่งเป็นการแบ่งสินสมรสที่มากที่สุดในคดีการหย่าร้างของเกาหลีใต้ จากเดิมศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2565 ให้อดีตสามีจ่ายค่าชดเชยแก่เธอ เป็นเงินทั้งสิ้น 66,500 ล้านวอน หรือราว 1,767 ล้านบาท

ศาลครอบครัวได้ตัดสินในขั้นต้นว่าหุ้นเอสเค กรุ๊ป ของนายเช ไม่ควรถูกแบ่งเป็นสินสมรส เนื่องจากการถือหุ้นของนายเชนั้นสืบทอดมาจากบิดาของเขา แต่ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน โดยกล่าวว่า “การที่โร โซยอง มีส่วนช่วยในการเพิ่มมูลค่าของเอสเค กรุ๊ป และกิจกรรมทางธุรกิจ ควรเป็นสิ่งได้รับการยอมรับ”

ศาลกล่าวว่า “อดีตประธานาธิบดีโน แทอู ทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันให้กับนายเช จอง-ฮยอน อดีตประธานเอสเค กรุ๊ป และบิดาของนายแทวอน เมื่อเขา พยายามจะเข้าสู่ธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยให้ความช่วยเหลือที่จับต้องไม่ได้แก่ครอบครัวเช”

ศาลระบุว่า สินทรัพย์รวมของนายเช แทวอน และโร โซยอง มีมูลค่ารวม 4 ล้านล้านวอน โดยกำหนดให้โร โซยอง ได้รับส่วนแบ่ง 35% จากทรัพย์สินของสามี และจ่ายเงินที่แบ่งกันเป็นเงินสด

ศาลยังเน้นย้ำด้วยว่า นายเชไม่ได้แสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจต่อพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ของเขาในระหว่างการดำเนินคดีหย่าร้าง และแสดงทัศนคติที่ไม่เคารพต่อการมีคู่สมรสคนเดียว ซึ่งหมายถึงความสัมพันธ์ชู้สาวของเขา

ด้านทนายความของนางโร ยกย่องการตัดสินใจดังกล่าว โดยระบุว่าหุ้นของเอสเค กรุ๊ป เป็นทรัพย์สินร่วมระหว่างทั้งสองที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ทนายความของนายเช แสดงความเสียใจต่อคำตัดสินดังกล่าว โดยเรียกกระบวนการพิจารณาของศาล และคำตัดสินว่า “มีอคติมากเกินไป” โดยกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา.

ที่มา Yonhap
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,495 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *