กองทัพรัฐบาลซีเรียเสียการควบคุมเมืองอเลปโปไปทั้งหมดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่มขึ้น หลังถูกบุกโจมตีสายฟ้าแลบเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียสูญเสียการควบคุมเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแล้วในวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค. 2567 ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในซีเรียเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ให้แก่ กลุ่ม “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” (HTS) พันธมิตรฝ่ายกบฏซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่
ในวันอาทิตย์ นายรามี อับเดล เราะห์มาน หัวหน้าองค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (SOHR) บอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า กลุ่ม HTS และแนวร่วมอื่นๆ ควบคุมเมืองอเลปโปเอาไว้ได้แล้ว ยกเว้นย่านที่ถูกยึดครองโดยกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลซีเรีย
SOHR ระบุอีกว่า เครื่องบินรบของรัสเซียพยายามโจมตีฝ่ายกบฏในเมืองอเลปโปอย่างต่อเนื่องในวันอาทิตย์ เพื่อช่วยรัฐบาลของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ บริเวณจัตุรัสใกล้มหาวิทยาลัยอเลปโป
นอกจากนั้น รัสเซียยังโจมตีทางอากาศในจังหวัดอิดลิบซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของฝ่ายกบฏ และอยู่ติดกับจังหวัดอเลปโป มีผู้เสียชีวิตอีก 8 ศพ เป็นเด็ก 2 รายกับผู้หญิงอีก 1 ราย
ทั้งนี้ กองทัพรัฐบาลซีเรียเคยเสียการควบคุมเมืองอเลปโปไปบางส่วน ไม่นานหลังสงครามกลางเมืองซึ่งปะทุขึ้นในปี 2554 แต่ในปี 2559 กองทัพรัฐบาล ร่วมกับการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซีย และนักรบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ สามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนมาได้สำเร็จ
การต่อสู้ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 370 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักรบติดอาวุธหรือทหาร แต่มีรายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตด้วยอย่างน้อย 48 ศพ
กลุ่ม HTS ยังยึดพื้นที่บางส่วนในจังหวัดฮามา และจังหวัดลาตาเกีย เอาไว้ได้ด้วย โดยที่ฝ่ายรัฐบาล เสริมกำลังที่เมืองฮามา เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ และเมืองเอกของจังหวัดฮามา นอกจากนั้นยังส่งกำลังเสริมไปประจำการในพื้นที่ทางเหนือของจังหวัดด้วย
ด้านปฏิกิริยาจากนานาชาติ นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน เดินทางไปยังกรุงดามัสกัสของซีเรีย เพื่อแสดงการสนับสนุนรัฐบาลของนายอัสซาด และกล่าวหาว่า การโจมตีของฝ่ายกบฏเป็นแผนการของสหรัฐฯ กับอิสราเอล
ส่วนนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวว่า พวกเขาจะติดตามสถานการณ์ในซีเรียอย่างใกล้ชิด ขณะที่รัสเซีย ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความสูญเสียของรัฐบาลซีเรีย
นายเกร์ พีเดอร์เซน ทูตสหประชาชาติ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียทำให้พลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ตรัสสนับสนุนอธิปไตยของซีเรีย ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสขอให้ชาวคริสต์ร่วมกันสวดภาวนาให้แก่ซีเรีย ที่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna