คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าประเทศกำลังดำเนินนโยบายสร้างกองกำลังนิวเคลียร์ เพื่อเพิ่มจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ “อย่างทวีคูณ”
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าประเทศกำลังดำเนินนโยบายสร้างกองกำลังนิวเคลียร์ เพื่อเพิ่มจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ “อย่างทวีคูณ”
นายคิมกล่าวในสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบ 76 ปี การสถาปนาเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ (9 ก.ย.) ว่าประเทศจะต้องเตรียมศักยภาพด้านนิวเคลียร์และความพร้อมในการใช้งานอย่างเหมาะสมในเวลาใดก็ตาม เพื่อรับประกันสิทธิด้านความมั่นคงของรัฐ และกล่าวเสริมว่า จำเป็นต้องมีกำลังทหารที่แข็งแกร่งเพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร
ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการและความพยายามเป็นสองเท่า เพื่อให้กองกำลังติดอาวุธทั้งหมดของรัฐ รวมถึงกองกำลังนิวเคลียร์พร้อมรบอย่างเต็มที่ เขายังกล่าวอีกว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรง เนื่องจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “การขยายตัวอย่างไม่ยั้งคิด” ของกลุ่มทหารในภูมิภาคที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาไปสู่กลุ่มทหารที่ใช้ฐานอาวุธนิวเคลียร์
เกาหลีใต้จะจัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมกับประเทศสมาชิกของกองบัญชาการสหประชาชาติ (UNC) ที่นำโดยผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ในวันนี้ (10 ก.ย.)
เมื่อเดือนที่แล้ว เยอรมนีเป็นประเทศล่าสุดที่เข้าร่วม UNC ในเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยดูแลพื้นที่ชายแดนที่ติดกับเกาหลีเหนือ ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา และให้คำมั่นที่จะปกป้องเกาหลีใต้ในกรณีที่เกิดสงคราม เกาหลีเหนือวิพากษ์วิจารณ์ UNC ว่าเป็น “องค์กรสงครามที่ผิดกฎหมาย” และการที่เยอรมนีเข้าร่วมกองกำลังตรวจสอบชายแดนของสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น
เกาหลีเหนือประท้วงการลงนามในแนวปฏิบัติด้านการป้องกันประเทศฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อผนวกอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และอาวุธทั่วไปของเกาหลีใต้เข้าด้วยกัน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ที่เพิ่มมากขึ้นของเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือกล่าวว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวเปิดเผยแผนการรุกรานประเทศของศัตรู แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กล่าวย้ำว่าพวกเขาไม่มีเจตนาที่จะโจมตีเกาหลีเหนือ
ตั้งแต่ปี 2565 เกาหลีเหนือได้เร่งทดสอบอาวุธ เพื่อปรับปรุงความสามารถในการโจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ให้สมบูรณ์แบบ ทำให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการขยายการซ้อมรบ ซึ่งเกาหลีเหนือเรียกว่าการซ้อมรุกราน
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเกาหลีเหนือยังมีอุปสรรคทางเทคโนโลยีบางส่วนที่ต้องทำให้สำเร็จ เพื่อให้ได้มาซึ่งขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยไกลที่สามารถโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ แม้ว่าเกาหลีเหนือน่าจะมีขีปนาวุธที่สามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นอยู่แล้วก็ตาม
เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบนิวเคลียร์ หรือยิงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกล ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มอิทธิพลในทางการทูตในอนาคตกับสหรัฐฯ ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า เกาหลีเหนือน่าจะคิดว่าขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ที่มากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม ในวันครบรอบ 76 ปี การสถาปนาเกาหลีเหนือ ยังไม่มีจัดการแสดงแสนยานุภาพทางการทหารครั้งใหญ่
หนังสือพิมพ์โรดองซินมุน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์หลักของเกาหลีเหนือ ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของนายคิมจองอึน ขณะเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นพาหนะยิงขีปนาวุธ แบบ 12 เพลา ซึ่งถือเป็นยานยิงขีปนาวุธที่ใหญ่ที่สุดที่เกาหลีเหนือเคยจัดแสดงมาจนถึงขณะนี้ ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลรุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่า ขีปนาวุธ ฮวาซอง-17 ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งยิงด้วยพาหนะยิงขีปนาวุธ แบบ 11 เพลา.
ที่มา Reuters
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
