อัจฉริยะ เดินหน้าสาวไส้เครือข่ายบิ๊กโจ๊ก จี้ตรวจสอบ ผกก.ตม.อุบล โอนเงินส่วย เข้าบัญชีม้ามินนี่ เย้ย ทนายอนันต์ชัย ไม่มีบิ๊กเซอร์ไพรส์จริง

อัจฉริยะ เดินหน้าสาวไส้เครือข่ายบิ๊กโจ๊ก จี้ตรวจสอบ ผกก.ตม.อุบล โอนเงินส่วย เข้าบัญชีม้ามินนี่ เย้ย ทนายอนันต์ชัย ไม่มีบิ๊กเซอร์ไพรส์จริง

อัจฉริยะ เดินหน้าสาวไส้เครือข่ายบิ๊กโจ๊ก จี้ตรวจสอบ ผกก.ตม.อุบล โอนเงินส่วย เข้าบัญชีม้ามินนี่ เย้ย ทนายอนันต์ชัย ไม่มีบิ๊กเซอร์ไพรส์จริง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบุญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. เพื่อร้องขอให้ช่วยสืบสวนตรวจสอบพฤติกรรมของ ผกก.ตม.จว.อุบลราชธานี นายหนึ่ง หลังพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีม้าของผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การมาในวันนี้เพื่ออยากให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่ง ผกก.ตม.จว.อุบลราชธานี รายหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ตนเคยยื่นร้องขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนนักท่องเที่ยวชาวลาว หลังพบว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของ นายพุฒิพงษ์ หนึ่งในผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ จำนวนมาก ซึ่งเป็นเงินที่มีการกล่าวอ้างว่าใช้สำหรับดูแลบิ๊กโจ๊ก สอดคล้องกับข้อมูลที่ทราบว่า ผกก. คนดังกล่าวเคยพูดไว้ที่ศูนย์ตั้งด่าน ตม.ช่องเม็ก ว่า ที่มาเพราะบิ๊กโจ๊กให้มาและมีการจ่ายเงินให้บิ๊กโจ๊กเป็นเงิน10ล้านบาท

“ซึ่งเมื่อเงินที่ พ.ต.อ.คนดังกล่าวโอนไปยังบัญชีม้าของนายพุฒิพงษ์ แล้วนั้น ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก ที่ดูแลบัญชี ก็จะโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของคนในครอบครัวบิ๊กโจ๊ก และ ตำรวจในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีก 8 นาย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการตรวจสอบพบว่านับตั้งแต่บัญชีม้าพุฒิพงษ์เปิดขึ้นมามีเงินโอนเข้ามามากกว่า 50 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีเงินของ พ.ต.อ.คนดังกล่าวโอนเข้ามารวมอยู่ด้วย จึงอยากให้มีการตรวจสอบให้แน่ชัด หากพบการกระทำความผิดจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการเปิดโปงตัวละครที่ 3 เพิ่มขึ้นมาอีกคน เป็นอดีตตำรวจยศ พล.ต.ต. คนสนิทของบิ๊กโจ๊ก รับเงินจากบัญชีม้าของนายพุฒิพงษ์เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังพบว่ามีพฤติกรรมโจรกรรมข้อมูลของกองพิสูจน์หลักฐานให้บุคคลภายนอกรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นคดีตู้ห่าว กำนันนก ปัจจุบันไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว แต่เป็นที่ปรึกษาหรือเป็นมือขวาของบิ๊กโจ๊ก และมักเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งการเปิดโปงครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้พี่น้องประชาชนรู้ว่าเครือข่ายนี้นี้ไม่ธรรมดา มีทั้งคนรับเงินเว็บพนันออนไลน์ เงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินยาเสพติด และเงินส่วย ที่มีการส่งเข้ามายังบัญชีของมินนี่ 150 บัญชี ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเร่งจัดการ

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนกรณีที่เมื่อวานตนได้มายื่นร้องขอให้ บก.ปปป. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำของตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ที่บังคับให้นายพุฒิพงษ์ และ นายครรชิต เปิดบัญชีม้าแลกกับการปล่อยตัว ก่อนนำไปใช้ทำธุรกรรมเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ นั้นล่าสุดเมื่อเวลา16.00 น.วันที่ 2 ต.ค.66 ที่ผ่านมา นายพุฒิพงษ์ ที่ถูกนำข้อมูลไปเปิดบัญชีม้าได้เข้าแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ที่ สภ. สำโรงเหนือแล้ว เพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งในวันนี้ตนได้ก็ได้นำเอกสารสำเนาการแจ้งความของนายพุฒิพงษ์ มามอบไว้ให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาอีกด้วย

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังได้กล่าวถึงกรณีบิ๊กเซอร์ไพรส์ของทนายอนันต์ชัย ว่า เชื่อว่าหากมีหลักฐานคงจะเปิดไปแล้ว ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 5 ไม่จำเป็นต้องผลัดวัน การที่พูดออกมาว่าจะมีหลักฐานมาเปิด อาจเป็นเพียงแค่ใช้ต่อรองกับบางคนเท่านั้น และหากมีหลักฐานที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะ คงเปิดไปแล้ว ไม่มาลีลาแบบนี้

ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ระบุว่ามีใบสั่งให้หยุดทำคดีนี้ นายอัจฉริยะ บอกว่า ตามปกติแล้วเวลาทนายอนันต์ชัย คุยเรื่องสำคัญกับใครจะมีการบันทึกเสียง และเชื่อว่าไม่มีผู้ใหญ่คนไหนจะไปกดดัน

ขณะที่กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยกล่าวไว้ว่า มีข้อมูลสำคัญหากเปิดเผยไปจะมีผลกระทบต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ ระบุว่า อยู่ระหว่างให้ทีมงานทนายรวบรวมพยานหลักฐานเรื่องนี้ เพราะหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหลักฐานจริง แล้วไม่เปิดออกมา ก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบติหน้าที่ในมาตรา 157

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะให้ทนายอนันต์ชัย เป็นตัวแทนทำสงคราม เดินเกมเรื่องนี้ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่มี เพราะหากมีหลักฐานจริงคงต้องเปิดแล้ว ส่วนการที่ทนายอนันต์ชัย บอกว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกน้องคนสนิทถูกกลั่นแกล้ง คงไม่มีใครกลั่นแกล้งทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน จึงอยากให้ทนายอนันต์ชัยมีความเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่ทำงานเอาใจลูกความ เท่าที่รู้มาทนายอนันต์ชัยได้รับค่าตัวในการทำคดีนี้ 10 ล้าน และเบิกมาแล้วครึ่งหนึ่งค่าตัวก็แพง ทำให้สมค่าตัว หากท้ายที่สุดไม่มีหลักฐานจริง ก็จะหน้าแตก และบอกว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ถอนตัว จึงไม่ได้เปิดหลักฐานที่บอกไว้

ทั้งนี้ หากทนายอนันต์ชัย ยังออกมาโพสต์ หรือ ให้ข้อมูลใดๆ เชื่อว่าผลเสียจะตกไปอยู่ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตนมองว่าพูดว่าน้อยๆ จะดีกว่า หากตนเป็นทีมทนายให้ใครก็จะไม่ให้ลูกความออกมาพูดแบบนี้ซึ่งจะมีผลกระทบต่อลูกความ

ผู้สื่อข่าว ถามอีกว่า กรณีที่ทนายอนันต์ชัยจะเชิญมินนี่ มาพูดคุยเรื่องพยานหลักฐาน นายอัจฉริยะกล่าวว่า มินนี่จะมาได้อย่างไร มินนี่ไปสิงคโปร์แล้ว แต่อย่างไรก็ตามวันที่ 13 ตุลาคม มินนี่จะต้องมารายงานตัวกับตำรวจอยู่แล้ว

ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,617 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *