ปลุก “พาณิชย์” ไทย ยืนหนึ่ง

ปลุก “พาณิชย์” ไทย ยืนหนึ่ง

คนรุ่นใหม่ๆ อาจไม่รู้จักที่มาและปูมหลังของ “พี่อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย คีย์แมนคนสำคัญในการเดินเกมจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา ที่ผลสรุปสุดท้ายเล่นเอาพี่อ้วนเจ็บเข้าไปถึงกระดองใจ หลังปฏิเสธไม่ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคก้าวไกล ด้วยคำพูดที่กลายเป็นวลีอันโด่งดัง “ตระบัดสัตย์”

ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา พี่อ้วน ยังคงทำงานการเมืองเงียบๆ อยู่ในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะถูกคำสั่งยุบพรรค หรือเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามของพรรคไปกี่ชื่อก็ตาม

กระทั่งมาถึงวันที่ ต้องรับบทบาทเป็น สร.2 ทำหน้าที่ และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี หากเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ หรือไปติดเกาะอยู่ที่ไหนสักแห่ง โดยมีตำแหน่งรองนายกฯ – รมว.กระทรวงพาณิชย์ ตามติดมาด้วย

พี่อ้วนจึงต้องรับทำงานในแวดวงการค้า และการหาตลาดใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีความรู้ หรือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยมาก่อนเลย เพราะไม่ใช่งานการเมืองที่คุ้นเคยมาตลอด

จะว่าไป พี่อ้วน คือ กลุ่มคนเดือนตุลา ที่หนีเข้าป่าไปในสมัยเผด็จการทหารกลับมาครองอำนาจอีกครั้งในปี 2519 พี่อ้วน หมอมิ้ง หมอเลี้ยบ พินิจ จาตุรนต์ จุฬาลักษณ์ คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนในรุ่นเดียวกันที่ชักชวนกันเข้าป่าไป

สุริยะ อาของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคก้าวไกล ก็เป็นหมอรุ่นเดียวกันกับหมอมิ้ง แต่ไม่ทันได้เข้าป่า พ่อของธนาธรก็จับตัวเขาส่งไปที่เบิร์กเลย์เสียก่อนที่ใครจะหาตัวเจอ

เคยถาม พินิจ จารุสมบัติ เล่นๆ ว่า ไปอดมื้อกินมื้อกับพี่อ้วนในป่าบ้างหรือเปล่า พี่พินิจถึงกับจ้องหน้าเขม็ง แล้วบอกด้วยน้ำเสียงดุว่า ผมอยู่ภูเขาคนละลูกกับไอ้พี่อ้วนมัน ผมน่ะเป็นนักรบ ส่วนพี่อ้วนมันก็แค่แบกปืนไปมา…อ้าว!

ทำให้ต้องกลับไปถามพี่อ้วนอีกทีว่า พี่เข้าป่าไม่เจอ พี่พินิจ บ้างหรือ? พี่อ้วนปฏิเสธ ผมไม่ได้เจอใครหรอก วันๆ ต้องถือปืนเดินลาดตระเวนเป็นสิบโล ตั้งแต่เช้าจดเย็น…เล่นเอาผอมเชียวแหละ!

3 ปีของการหนีเข้าป่าไปด้วยความหวังว่า นโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จะช่วยสร้างสังคมที่เป็นธรรมได้ แต่มันไม่ใช่ และวิธีการที่จะปรับเปลี่ยนสังคมได้คือ การเข้ามาเล่นการเมืองจนถึงวันนี้

ในตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พี่อ้วนทำให้กระทรวงพาณิชย์ไทยได้รับการยกย่องจากทั่วโลกให้เป็นกระทรวงยืนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนลุคเก่าๆ สู่ยุคแห่งความรุ่งโรจน์ในการนำสินค้าไทยเข้าไปในตลาดอีคอมเมิร์ซ สู่การทำตลาดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์จีน 30 – 40 ราย ด้วยการไลฟ์สดขายสินค้าไทยจนเป็นที่คึกคัก ย่ิงกว่าวันคนโสดของแจ็คหม่า

เวลาเดียวกัน ยังมีความร่วมมือกับ ซีรีส์วาย อย่าง มาย อาโป ศิลปินจาก ค่ายบี ออน คลาวด์ ที่เป็นกระแสฮิตถล่มทลายในโลกโซเชียล และทุกแพลตฟอร์มในหลายประเทศมาช่วยทำตลาดสินค้าไทย จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ขายสินค้าสนั่นไปสามโลกสำเร็จอย่างงดงาม!

“ผมสนุกมากเมื่อมาอยู่กระทรวงนี้ ปลัด และข้าราชการส่วนใหญ่เก่งมาก เพียงแต่เขาไม่เคยทำอะไรนอกกรอบแบบนี้ และที่ปรึกษาผมแต่ละท่านก็เก่ง และน่ารักมาก พอทำแล้วได้ผลดี ทุกคนก็เลยสนุกกับการต้องทำกันต่อ”

พี่อ้วน บอกว่า ปกติกระทรวงจะมีงบอุดหนุนเกษตรกรในเรื่องต่างๆ แต่ละปีเยอะมาก เช่น ราคาตกต่ำ น้ำท่วม ฯลฯ แต่ครั้งนี้ เขาขอให้องค์กรใหญ่ๆ 30 แห่ง ช่วยกันเป็นเรื่องอัตโนมัติเลยว่าเมื่อใดที่เห็นแนวโน้มราคาผลผลิตการเกษตรจะตกต่ำลง พาณิชย์ กับเกษตรฯ จะแจ้งไปยังองค์กรเหล่านี้ ให้ช่วยกันรับซื้อผลผลิตไปในทันที อย่ารอให้เขาเอามาเทกระจาดที่หน้าศาลากลาง

เช่น กรมราชทัณฑ์ เขาสามารถซื้อไปให้นักโทษรับประทานได้ ซีพี เซ็นทรัล เดอะมอล์ ปตท.พีที เชลล์ และอื่นๆอีกมากมาย เราคิดว่าเราจะพยายามลดการพึ่งพางบประมาณรายปีให้น้อยที่สุด จะได้เอาไปทำแหล่งน้ำ และอื่นๆ ที่จำเป็นได้

เมื่อพูดถึงการหาตลาด พี่อ้วน มีกำหนดการใหญ่ที่จะไปเปิดตัวแบรนด์ไทยในวันที่ 3 ก.ย.67 ที่ไทม์สแควร์ ในมหานครนิวยอร์ก เพื่อให้สื่อที่นั่นออกข่าวดังไปทั่วโลกว่า แบรนด์ไทยมากกว่า 30 รายการ พร้อมบุกตลาดโลกแล้ว!

ว่าแต่ มุมมองการตลาดชิกๆ แบบนี้ ที่ปรึกษาต้องเป็น Gen ไหน พี่อ้วนตอบทันควันว่า ลูก 3 คนที่บ้านเป็นที่ปรึกษาให้ อันไหนที่ว่าเขาว่า เชย! ก็พับเก็บใส่กระเป๋าไปก่อน!

แนะให้ไปเอา “สายวายจิกหมอน” มาเป็นทัพหน้า ตลาดไหนก็แพ้จ้ะ!!

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,713 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed