SUPERโพล เผยคนนิยมเลือกพรรคก้าวไกลพุงสูงขึ้น พบส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่ต่ำกว่า 20 ปี
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจความเห็น เรื่อง สำรวจฐานเสียงพรรคก้าวไกลวันนี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมจำนวน 1,142 โดยดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา โดยเมื่อถามว่าถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกพรรคก้าวไกลหรือไม่เลือกพรรคก้าวไกล โดยเปรียบเทียบผลสำรวจระหว่างเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2563 กับ มกราคม ปี พ.ศ. 2567 พบว่า ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ฐานเสียงของพรรคก้าวไกลพุ่งพรวดมาเท่าตัว จากร้อยละ 16.7 ขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 37.3 และส่วนที่ไม่เลือกพรรคก้าวไกล จากร้อยละ 83.3 เหลือร้อยละ 62.7
เมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในกลุ่มคนต่ำกว่า 20 ปี เลือกพรรคก้าวไกล มากถึงร้อยละ 76.2 ขณะที่ร้อยละ 48.8 ในกลุ่มคนอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 33.7 ในกลุ่มคนอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 28.8 ในกลุ่มอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 19.6 ในกลุ่มคนอายุ 50 – 59 ปี และร้อยละ 22.2 ในกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ เมื่อแบ่งเป็นภูมิภาคที่เลือกพรรคก้าวไกล พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 45 คือ ภาคใต้ ร้อยละ 40.3 คือ ภาคกลาง ร้อยละ 39.4 คือ ภาคอีสาน ร้อยละ 38.4 คือ กรุงเทพฯ และร้อยละ 9.7คือ ภาคเหนือ
ผลโพลยังนี้ชี้ให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีฐานเสียงเพิ่มสูงพุ่งพรวดเท่าตัวในช่วงระยะเวลา 3 ปีและมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องโดยยังเหนียวแน่นในกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาตามด้วยกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนและกำลังเติบโตในภาคใต้มากที่สุดในการสำรวจล่าสุดนี้
ปัจจัยที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นจากการวิเคราะห์พบความเชื่อมโยงกับความนิยมในตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และปัจจัยเชื่อมโยงอื่น ๆ หลายปัจจัย เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้บอท (BOT) ในเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้เกิดการกระจายข้อมูลข่าวสารของพรรคก้าวไกล และของนายพิธา ตรงกับจริตความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ส่งผลให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคก้าวไกลและในลักษณะเฉพาะตัวนายพิธา ทั้งในเรื่องการศึกษาดี มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล การสื่อสารดีทั้งภาษไทย-ต่างประเทศ
ที่มา:sanook
