“นายกฯอิ๊งค์” เผยไม่ต้องห่วงปมส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน ยันทำตามหลักสิทธิมนุษยชนและให้ข้อมูลต่างประเทศทั้งหมดครบถ้วน “ภูมิธรรม” เสียงแข็งสวนเห็นต่าง ต้องให้มีวางระเบิด-บ้านเมืองถูกทำลายใช่ไหมถึงจะสะใจ ลั่นหยุดใช้ความเชื่อของตัวเองทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น เผยจีนยินดีให้ตรวจสอบสื่อไหนอยากไปเชิญได้ ระบุชัดคุยหมดแล้วไม่มีประเทศที่ 3 ต้องการรับไปดูแลต่อ บอกฝ่ายค้านอภิปรายได้แต่ต้องเอาหลักฐานข้อเท็จจริงมาพูด หากไม่มีไม่ตอบ “ราชทัณฑ์” แจกเอกสารแจงผู้ต้องขัง “อุยกูร์” เขียนจดหมายถึงนายกฯไม่ได้ออกมาจากเรือนจำและไม่ใช่ลายมือผู้ต้องหา
กรณีรัฐบาลไทยส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนหลังติดคุกที่เมืองไทย 11 ปี ท่ามกลางเสียงครหาชาวโลก ขณะที่รัฐบาลไทยโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับรายงานจากเลขาฯ สมช.ที่ร่วมเดินทางส่งทั้งหมดถึงบ้านเผยทุกคนดีใจกลับบ้านเกิดรอบ 11 ปี และเตรียมจะพาสื่อไปดูสภาพความเป็นอยู่ในเร็วๆนี้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีหลายประเทศแจ้งเตือนพลเมืองที่อยู่ในไทยเรื่องความปลอดภัยการก่อการร้ายหลังไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีนว่า เราทำถูกต้องตามสิทธิมนุษยชนทุกอย่าง สื่อมวลชนต้องช่วยสื่อสารตรงนี้ เราได้ไปดูทุกอย่างตามที่ทางการจีนให้ เรื่องนี้เราทำถูกต้อง รมว.กลาโหมอธิบายชัดเจน ประเทศต่างๆได้รับข้อมูลครบถ้วนหมดแล้ว เมื่อถามว่าการไปร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว ITB Berlin 2025 ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีครั้งนี้ จะไปย้ำ ความเชื่อมั่นใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ย้ำแน่นอนและครั้งนี้ไปเรื่องการท่องเที่ยว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.35 น.วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนอาจทำให้เกิดความรุนแรงในประเทศไทยว่า เรื่องนี้ต้องเริ่มต้นจากความจริงไม่ใช่ความเชื่อ ในแง่ความมั่นคงเราระวังอยู่แล้วต่อให้มีเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม พรรคฝ่ายค้านหรือองค์กรสิทธิมนุษยชนมองด้วยจินตนาการย้อนหลังไปเป็นสิบปี เป็นเรื่องที่ประเทศจีนต้องชี้แจง แต่วันนี้บ้านเมืองเขาเปลี่ยนแปลงไปมากสิ่งที่คิดว่าจะโจมตีเขาได้ก็ไม่น่าจะโจมตีได้ ทางการจีนยืนยันว่าคนเหล่านี้เป็นพลเมืองเขาและขอรับคืนมาแล้ว 10 ปี ขณะที่ประเทศที่ 3 ที่จะรับตัวยืนยันว่าไม่มี หากใครบอกว่ามีให้มาพูดคุยกัน แม้กระทั่งประเทศใหญ่ๆที่คุยมาก็ไม่มีใครเอา เมื่อไม่มีประเทศที่ 3 รับไปก็ต้องเดินไปตามกระบวนการ และทางการจีนออกหนังสือทางการทูตยืนยันชัดเจนตามหลักการความระมัดระวังการเมืองระหว่างประเทศ เป็นหนังสือที่รับประกันโดยสถานทูตจีนในนามรัฐบาลจีน ให้เราได้รับความมั่นใจ
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า เมื่อเขาไม่กลัวให้เราไปตรวจสอบแล้ว เราจะไปกลัวว่าเขาจะไปตายได้อย่างไร ขึ้นเครื่องลงเครื่องไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายไม่มีพันธนาการ บางคนเชื่อเป็นการจัดฉาก แต่โลกนี้ไม่ใช่โลกยุคดึกดำบรรพ์ ไปดูกันได้เมืองซินเจียงเขาไม่มีอะไรปิดบังใครอยากทำข่าวไปเลย จากนี้ 15 วันจะมีรัฐมนตรีคนอื่นไปดู ตนอาจไปด้วยแล้วจะเอาอย่างไรอีกหรือต้องให้บ้านเมืองนี้ถูกทำลายถูกวางระเบิดถึงสะใจ วันนี้สิ่งที่เราทำเป็นการลดภาระประเทศ ควรดีใจไม่ควรตั้งคำถามว่าอาจทำให้เกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ หากฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้เลย เอาหลักฐานมาว่าเขาตายหรือถูกทำร้าย อย่าใช้แค่ความเชื่อไม่เช่นนั้นเราจะไม่ตอบ ส่วนทางสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น แจ้งเตือนประชาชนเขาที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่เขาทำได้ เราก็ แจ้งเตือนประชาชนเราอยู่บ่อยๆหากมีเหตุอะไร หน่วยงานความมั่นคงเราดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่ตลอดไม่ว่าจะมีเรื่องนี้หรือไม่ ไม่เคยประมาท
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ส่งกลับชาวอุยกูร์ ไปยังประ เทศจีนไม่มีความโปร่งใสว่า เรื่องนี้จะหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก่อนไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับอีกครั้งจะนำสื่อมวลชนไปด้วย ไทยห่วงใยเรื่องนี้แต่ต้องยึดหลักบ้านเมืองถือความเป็นธรรม เพราะชาวอุยกูร์ต้องทรมานนานนับ 10 ปี รัฐบาลไทยไม่อยากส่งมรดกของการทรมานไปให้คนอื่น เมื่อไทยประเมินในสิ่งที่ดีที่สุดต้องเคารพการตัดสินใจ เมื่อถามถึงกรณีเผยแพร่จดหมายชาวอุยกูร์ 3 ฉบับแสดงเจตจำนงไม่อยากกลับ แต่กรมราชทัณฑ์กล่าวอ้างไม่มีเอกสารดังกล่าว พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ต้องให้กรมราชทัณฑ์ชี้แจง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายต่อกรมราชทัณฑ์หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะกรมราชทัณฑ์ได้รับการยืนยันจากชาวอุยกูร์ 5 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์ที่อยู่ในเรือนจำคลองเปรม ยืนยันไม่ได้เขียนจดหมาย ส่วนกระดาษที่มีตรากรมราชทัณฑ์นั้นเป็นกระดาษที่มีขายในเรือนจำให้ผู้ที่ถูกคุมขังเขียนจดหมาย แต่ถ้าจดหมายเผยแพร่ต้องเซ็นเซอร์ที่ซองจดหมายก่อนส่งออกข้างนอก ส่วนจดหมายที่ออกมาจาก ตม.ก็ขอให้ไปถาม ตม. เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะมีระบบเช่นกัน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “วันนี้พรรคสีส้มโกหกอะไร” เผยแพร่ข้อความเมื่อวันที่ 28 ก.พ. กล่าวถึงจดหมายผู้ต้องขังชาวอุยกูร์มีตราประทับจากเรือนจำกลางคลองเปรมส่งถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 15 พ.ย.67 ล่าสุดกรมราชทัณฑ์แจกเอกสารชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรือนจำกลางคลองเปรมขอเรียนว่า ผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ให้การยืนยันไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อ และลายมือที่ปรากฏมิใช่ลายมือพวกตน ช่วงระหว่างเดือน พ.ย.67 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยส่งจดหมายออกภายนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่าจดหมาย ฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเรือนจำได้ตรวจสอบและถือปฏิบัติตามระเบียบ และแนวทางที่กรมราชทัณฑ์กำหนด ไว้อย่างเคร่งครัด
ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความใน X ระบุว่า หลายท่านยังมีข้อสงสัยในจดหมายที่นำมาเปิดเผยจนเป็นประเด็นใหญ่โต กังวลไม่ใช่จดหมายจริง ยืนยันเป็นคนรับผิดชอบต่อข้อมูล 1.จดหมายไม่ได้มาจากคนที่ถูกคุมขังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีศาลพระพรหมฯ ทั้ง 2 คนไม่ได้อยู่เรือนจำคลองเปรม เป็นคนละกลุ่มกับผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ 2.จดหมายมาจากในห้องกักสวนพลู ไม่เคยบอกว่าจดหมายมาจากเรือนจำคลองเปรม 3.ไม่มีใครปลอมจดหมายในฐานะต่อสู้เรื่องการส่งกลับต้องยืนยันหลักฐานว่า เขามิได้สมัครใจกลับถ้าอยากตรวจสอบว่าจริงหรือไม่จริง ยินดีเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริง ฟ้องได้เลย 4.หากรัฐไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันเขาสมัครใจกลับไป ที่ท่านมีหน้าที่ตามกฎหมายให้เปิดเผยออกมา 5.จดหมายจากจีนที่ส่งมาขอตัวกลุ่มนี้เขียนมาว่า ถ้าจีนเชิญ เราถึงจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมได้ 6.ต่อจากนี้จะมีประเด็นใหม่ๆมาอีก แต่ขออนุญาตไม่ตอบที่ซ้ำจะลดข้อกังขาให้มากที่สุดแต่อย่าลืมไปตรวจสอบรัฐบาลด้วยเพราะไม่มีอำนาจบริหาร ไม่ได้เป็น 1 ในคนที่ตัดสินใจทำกระบวนการนี้หรือที่มารุมเรื่องนี้ แค่อยากบิดเบือนปกปิดไม่ให้รู้ว่าจดหมายของพวกเขาถูกปิดกั้น และไปไม่ถึงปลายทาง ตนเปิดเผยอะไรออกไปพร้อมให้ตรวจสอบมีหลักฐานยืนยัน มาช่วยกันสร้างความโปร่งใสเอาหลักฐานที่ยืนยันว่าพวกเขาสมัครใจกลับจีน อย่าช้าทุกคนรออยู่
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/