“สรวงศ์” อยากเห็นเวทีถก Entertainment Complex ชี้ คนเข้าร่วมต้องไม่ไบแอส

“สรวงศ์” อยากเห็นเวทีถก Entertainment Complex ชี้ คนเข้าร่วมต้องไม่ไบแอส

“สรวงศ์” อยากเห็นเวทีพูดคุยข้อดี-ข้อเสีย “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” อยากทราบเหตุผลทำไมไม่อยากให้มี มองว่าควรเป็นคนกลางหรือนักวิชาการจัด และคนเข้าร่วมต้องไม่ไบแอส

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ว่า จากการลงพื้นที่ของ สส. ส่วนมากประชาชนไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจ สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำคือมีเวทีหรือว่าอะไรต่างๆ ให้มีการทำความเข้าใจให้มากขึ้น ให้คนที่เขาคิดอีกอย่างหนึ่งกับรัฐบาลเข้ามาพูดคุยกันทำความเข้าใจกันว่าทำไมถึงต้องมีกฎหมายนี้ เพื่อเปิดโอกาสดึงดูดนักลงทุนเข้ามา ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะทำบ่อนกาสิโน ต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อน แต่ที่ต้องมีในนั้นเพียงแค่ 10% เพื่อดึงดูดนักลงทุน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าไปได้ มีมาตรการป้องกันหากครอบครัวไหนไม่อยากให้คนในครอบครัวเข้าไปเล่นสามารถยื่นโนติสได้ และมีมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่เป็นสากลรองรับ

สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะมีอีเวนต์ฮอลล์ต่างๆ ศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม พื้นที่โดยรอบจะได้ประโยชน์ไปด้วย เวทีที่เราอยากเห็นคือการพูดถึงข้อดีข้อเสีย พูดคุยกันด้วยเหตุและผล ไม่ใช่ว่าฝั่งหนึ่งมีธง อีกฝั่งมีธงมาชนกัน มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุย ถ้าคิดดูดีๆ สำหรับประเทศไทยเสียโอกาสไปกับเรื่องแบบนี้เยอะมาก อย่าปิดกั้นโอกาสของประเทศไทยอีกเลยเพราะว่าเราสู้เขาไม่ได้แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านแม้กระทั่งประเทศที่เป็นศาสนาอิสลามเขาก็มีกัน แต่เขาก็ห้ามคนของเขาเข้า เราก็ห้ามคนของเราเข้าได้ ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าเวทีที่จะจัดเจ้าภาพจะเป็นภาควิชาการหรือรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวตอบว่า ถ้ารัฐบาลเป็นเจ้าภาพจะถูกมองว่าเรามีธง จึงอยากให้คนกลางหรือให้นักวิชาการจัดก็ได้ รัฐบาลมีคนที่พร้อมร่วมเวทีเข้าไปชี้แจง แต่ต้องมีนักวิชาการที่เป็นกลาง ไม่ใช่ไบแอส (Bias – อคติ, ความเอนเอียง) ไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพราะอยากที่จะให้แลกเปลี่ยนกันจริงๆ ไม่ใช่ว่าแต่ละคนมีธงมาแล้วไม่ยอมซึ่งกันและกัน ไม่เอาแบบนั้น รัฐบาลเองก็อยากที่จะฟังเหมือนกันว่าความคิดของพวกท่านคืออะไร ทำไมถึงไม่อยากให้มี ทำไมถึงมีไม่ได้ แล้วได้ฟังหรือยังว่าข้อกำหนดหรือว่ารายละเอียดของกฎหมายคืออะไร ตนรับประกันได้คนที่ออกมาต่อต้าน ตนว่ามีไม่ถึง 10% ที่ได้อ่านกฎหมาย ร่างกฎหมายตัวนี้ นักวิชาการและแกนนำก็น่าจะได้อ่านอยู่

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,399 Posts

View All Posts
Follow Me :