“ต้มยำกุ้ง” ไทยสุดแซ่บ “ยูเนสโก” ตีตราให้เป็นมรดกโลก “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังอดปลาบปลื้มใจไม่ได้ ออกมาร่วมชื่นชมยินดี ถือเป็นเกียรติแก่ประเทศและคนไทย “ต้มยำกุ้ง” ถูกยกให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ก่อนขายของว่านี่คือส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย
ทำให้คนซุบซิบนินทามรดกที่จับต้องไม่ได้ เหมือนผลงานรัฐบาลหรือเปล่า
บริหารมาเกือบ 2 ปี จะครึ่งเทอมแล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นผลงานให้พูดถึง ผิดฟอร์มพรรคใหญ่ “ค่ายแดง” เพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ที่ขึ้นชื่อเรื่องนโยบายประชานิยม ลด แลก แจก แถม ทำสำเร็จมาแล้วมากมาย
แต่ป่านนี้ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นอัน นอกจากเอานโยบายเก่ามาถูไถ ส่วนนโยบายเรือธง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ตอนนี้ไม่กล้าอวดเหมือนตอนหาเสียง เพราะสุดท้ายไม่ตรงปก กลายเป็นการแจกเงินเป็นลอต แบ่งประชาชนเป็นกลุ่ม
ไม่รู้จะแจกเสร็จเมื่อไหร่ ครบทุกคนตามเกณฑ์ที่วางไว้หรือไม่
ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ คนหนุ่มสาววัยทำงานยังต้องรอต่อไป แถมยังต้องลุ้นไม่รู้จะได้หรือเปล่า เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ งบประมาณรัฐบาลแจกตูมเดียวยังไม่มี ที่ผ่านมาซอยย่อยทยอยแจกกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนสูงอายุ
พายุหมุนเศรษฐกิจเลยไม่มีอย่างที่คุยโว เพราะไม่ได้แจกทีเดียวทั้งประเทศ และไม่อยู่ในระบบ “ดิจิทัล” แต่แจกเป็นเงินสด ควบคุมการใช้จ่ายไม่ได้
สุดท้ายนโยบาย “เสียของ” แค่แจกเงินตามสัญญาที่หาเสียงโฆษณาไว้ไม่ให้โดนด่า
แต่ก็น่าเห็นใจและเข้าใจได้ส่วนหนึ่ง เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลโดยไร้อำนาจเต็ม
เป็นแกนนำรัฐบาล แต่การบริหารจัดการถูกจำกัด ปกคลุมด้วยอำนาจเก่า
ต้องย้ายข้างมาเป็นอนุรักษ์นิยมนอกคอกด้วยความจำเป็น มีเงื่อนไขดีลลับ ตัวประกัน
ที่เห็นชัดๆเลยคืองบประมาณไม่สามารถใช้มือเติบ กู้แหลก แจกแหลก ตามสไตล์โคตรประชานิยมตัวพ่อ เพราะถูกล็อกเอาไว้ด้วยระบบราชการ เงื่อนไข “วินัยการเงินการคลัง”
เครื่องจักรสีแดงถึงกับเครื่องรวนไปไม่เป็น เมื่อไร้เงินหมุน
ล่าสุดเงินหมื่นเฟส 2 แจกผู้สูงอายุต้องเลื่อนไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย กฤษฎีกาทักท้วงรายละเอียดโครงการแตกต่างจากหลักการเดิม
หน่วยสแกนตรวจสอบ คัดกรอง เรื่อยไปจนถึงขัดขวางมีอยู่เต็มไปหมด ทุกหน่วย กรม กอง
ไม่รวดเร็ว ปรู๊ดปร๊าด ล่าช้าอุ้ยอ้ายตามระบบราชการ ประชาชนจึงคาดหวังการเปลี่ยนแปลงยาก
งานเชิงบริหารถูกจำกัดเตะถ่วงไม่พอ ยังโดนเกมการเมืองถล่มไม่เลิกรา ถ่วงรั้งการทำงานหนักเข้าไปอีก
ตรรกะฝ่ายแกนอำนาจสุดย้อนแย้ง หรืออาจคุมกันเองไม่ได้ เอามาใช้งานแต่ไม่ให้ทำงาน อารมณ์เกลียดตัวกินไข่ ไม่ให้มีผลงาน กลัวจะได้แต้ม
วันดีคืนดีก็ก่อม็อบประท้วงรัฐบาล แต่เอาเฉพาะ “เพื่อไทย–นายใหญ่”
แบบนี้สุดท้ายก็วอดวายกันหมด ประชาชนเดือดร้อน เอือมระอากับระบบการเมืองแบบนี้
หลายครั้งที่ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาส่งสัญญาณเดือดๆ ถึงผู้มีอำนาจตัวจริง
“จะใช้งานก็ต้องปล่อยให้ทำงานเต็มที่ อย่าให้ใครมาเกะกะระราน”
แต่เต็มที่ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ก็ทำได้แค่นั้น งอแง แข็งข้อมากไม่ได้ เพราะยังมี “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯน้องสาวเป็นตัวประกัน หรือแม้แต่ “นายกฯอิ๊งค์” ใช่ว่าจะปลอดภัย ชะตากรรมยังสุ่มเสี่ยง
ตอนนี้อึดอัดแน่นอกกันไปหมดทั้งชินวัตร–เพื่อไทย จนเห็นอาการเดือดๆ
“นายกฯอิ๊งค์” ออกอาการนอตหลุด หลังเจอดราม่ากล่าวหาเลือกปฏิบัติพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดเหนือ-ใต้
ต้องปรับตัวระวังอาการปรี๊ด ไม่เสพสื่อโซเชียลปมดราม่าเยอะเกินไป ให้ทีมงานสรุปรวบรวมดีกว่า
ส่วนคนเพื่อไทยอาการไม่ต่างกัน ช่วงนี้สาละวนอยู่กับปมแก้รัฐธรรมนูญ แต่เหมือนพายเรือในอ่าง โดนขวางจนเซ็งโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลตัวแสบ ค่าย “เซราะกราว” ภูมิใจไทย
สส.เสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ อย่างหมอเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ทนไม่ไหวออกมาสะท้อนอารมณ์อัดอั้น “ภูมิใจไทยงอแงมากนัก เล่นเกมยื้อประชามติ ก็ยุบสภาไปเลย”
สภาพรัฐบาลเป็นง่อย บริหารไม่ได้ นิติบัญญัติติดหล่ม
สุดท้ายผลงานไม่มี โชว์แต่ความขัดแย้งแค้นฝังอดีต
ผลักคนไปหา “ค่ายส้ม” เสียเอง เพราะ “เบื่อ” อยาก “เปลี่ยน”
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/