ปชน.ใช้ช่องทาง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ขอพบประธานรัฐสภา- นายกฯ-ศาลรัฐธรรมนูญ “พริษฐ์” แจงหวังเคลียร์ทางหั่นทำประชามติจาก 3 เหลือ 2 ครั้ง ดันแก้รัฐธรรมนูญเสร็จทันเลือกตั้งปี 70 ผวา ภท.เสียงแตกชี้ขาดปลดล็อกเสียงข้างมากสองชั้น กมธ.ร่วมฯสบช่องรอมชอม “นิกร” ชงทางออกสายกลางใช้เสียงข้างมากชั้นครึ่ง ผู้มาใช้สิทธิต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง แต่เสียงเห็นชอบเป็นเสียงข้างมากแทนใช้เสียงกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง เล็งเซฟงบฯให้ออกเสียงผ่านไปรษณีย์ “พิศิษฐ์” แย้มถอยคนละก้าวเป็นไปได้ ปิดประตูตายเสียงข้างมากชั้นเดียว “นายกฯอิ๊งค์” ตั้งการ์ดปิดช่องถูกร้องลงนามนำร่องงดรับ-ให้ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด บินไปคุนหมิงร่วมเวทีลุ่มน้ำโขง ต่อยอดขยายตลาดส่งออก จีบเพื่อนบ้านจับมือแก้น้ำท่วม-ฝุ่นพิษ
พรรคประชาชน (ปชน.) ยังไม่ละความพยายามผลักดัน เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างใช้ทันการเลือกตั้งในปี 2570 โดยจะขอเข้าพบประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรีและศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อลดหลักเกณฑ์การทำประชามติจาก 3 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง
ปชน.ขอพบ 3 ฝ่ายดันประชามติ 2 หน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 พ.ย.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการผลักดันทำประชามติ 2 ครั้งเพื่อแก้รัฐธรรมนูญว่า หากยึดแนวทางเดิมทำประชามติ 3 ครั้ง เป็นไปได้น้อยมากที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างใช้ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรลดเหลือ 2 ครั้ง ให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ใช้ทันเลือกตั้งครั้งต่อไป กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ ทำหนังสือขอเข้าพบ 3 ฝ่ายให้ช่วยผลักดันคือ 1.ประธานรัฐสภาให้พิจารณาบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ที่ผ่านมาประธานรัฐสภาไม่บรรจุวาระเกรงผิดเงื่อนไขศาลรัฐธรรมนูญให้ทำประชามติ 3 ครั้ง อยากพบเพื่ออธิบายการทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่ผิดเงื่อนไขศาลรัฐธรรมนูญประธานรัฐสภาตอบรับให้เข้าพบวันที่ 27 พ.ย. 2.นายกฯให้เชิญชวนทุกพรรคผลักดันทำประชามติ 2 ครั้ง 3.ศาลรัฐธรรมนูญช่วยขยายความให้ชัดเจน การทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญต้องทำกี่ครั้ง ช่วงใดบ้าง ไม่ให้เกิดข้อถกเถียง
ผวา ภท.เสียงแตกแก้เสียงข้างมาก
นายพริษฐ์กล่าวว่า ส่วนการประชุม กมธ.ร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่ดูเหมือนเสียงฝ่าย สส.จะไม่ไปทางเดียวกัน อาจไม่สามารถแก้หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นได้ในชั้นกมธ.ร่วม ถ้าดูผลการลงมติเลือกประธาน กมธ.ร่วมที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.ได้เป็นประธานกมธ.ร่วม พบว่ามี สส.ร่วมเห็นชอบให้ สว.เป็นประธาน กมธ. รวมถึงกรณีสภาฯลงมติยืนยันร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติของตัวเอง หลังวุฒิสภาแก้ไขเนื้อหากลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทุกพรรคลงมติยืนยันร่าง สส. ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย (ภท.) งดออกเสียงพออนุมานได้ว่าพรรค ภท.เห็นด้วยกับ สว. หาก กมธ.ร่วมมีข้อสรุปไม่ตรงกับร่างที่ สส.เคยเสนอมา สภาฯคงต้องยืนยันร่างเดิม ต้องพักร่างกฎหมาย 6 เดือน ไม่สามารถมีรัฐธรรมนูญใหม่ทันเลือกตั้งครั้งหน้า แต่หากทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่ต้องกังวล
บี้ กกต.เลือกนายก อบจ.วันอาทิตย์
นายพริษฐ์ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติจัดเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ว่า กังวลการจัดเลือกตั้งวันเสาร์ ประชาชนหลายคนทำงานวันเสาร์ จึงมีอุปสรรคเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทุกครั้งการเลือกตั้ง สส. อบจ. เทศบาล จัดวันอาทิตย์ ไม่เข้าใจเหตุใดจึงจัดเลือกตั้งนายกอบจ.วันเสาร์ ขอให้ กกต.ทบทวนไปเป็นวันอาทิตย์เหมือนเดิม อำนวยความสะดวกให้ประชาชนในวันที่ 28 พ.ย.นี้ กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร จะเข้าพบ กกต.หารือถึงประเด็นภาพรวมปัญหาต่างๆเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้ง
ชงทางออกใหม่เสียงข้างมากชั้นครึ่ง
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ มี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.ประธาน กมธ.ร่วมฯทำหน้าที่ประธานที่ประชุมพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ จากนั้นนายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ.ร่วมฯ กล่าวว่า สว.ยืนยันใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น แต่ฝ่าย สส.อยากใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว จึงเสนอทางออกใช้เสียงข้างมากชั้นครึ่งคือ มีผู้มาใช้สิทธิทำประชามติเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเห็นชอบเป็นเสียงข้างมากแทนการใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นทางออกตรงกลาง และเสนอให้ทำประชามติผ่านไปรษณีย์เป็นหลัก ลดค่าใช้จ่ายตั้งคูหา จึงให้เชิญ กกต.และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาให้ข้อมูลความพร้อมวันที่ 20 พ.ย. เพราะเชื่อว่าคนจะออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งแน่ ยืนยันได้ข้อสรุปก่อนเปิดสภาแน่ จากการพูดคุยในกมธ.อาจถอยกันบ้างลดลงจาก 2 ชั้น มาอยู่ตรงกลางเป็นชั้นครึ่ง เป็นไปได้จะรอมชอมกันไม่ห่วง สว. แต่ห่วงเสียง สส.มากกว่า
สว.เปิดทางอาจถอยคนละก้าว
นายพิศิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.ในฐานะ กมธ.ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติกล่าวว่า ที่ประชุม กมธ.ยังไม่มีข้อสรุปปรับลดหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ต่างฝ่ายต่างยืนยันจุดยืนตัวเอง โดยนายนิกร จำนง กมธ.ร่วมฯ เสนอทางออกใช้เสียงข้างมาก 1 ชั้นครึ่งและทำประชามติผ่านไปรษณีย์ เพื่อประหยัดต้นทุน ไม่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา จูงใจให้คนมาใช้สิทธิทำประชามติมากขึ้น ที่ประชุม กมธ.จึงให้เชิญตัวแทนบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาชี้แจงต่อ กมธ.ความพร้อม หากมีความพร้อมเป็น ไปได้จะพิจารณาลดหลั่นหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นลงมาได้บ้าง ถอยคนละก้าว อาจเหลือแค่เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่งก็เป็นได้ แต่ถ้าจะใช้เสียงข้างมากแค่ชั้นเดียว สว.คงไม่ยอม
ทสท.ทวงมาตรการช่วยชาวนาไร่ละพัน
นายชัชวาล์ แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ขอทวงถามรัฐบาลกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ว่าฤดูกาลเพาะปลูก 2567/2568 จะมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างไร ข้าวเริ่มออกสู่ตลาดมากแล้ว แต่มาตรการชะลอการขายและสินเชื่อรวบรวมข้าวเปลือกของ พณ.ยังไม่ชัด เป็นช่องว่างให้นายทุนจับมือกันกดราคาข้าวให้ต่ำลง สหกรณ์การเกษตรก็รอฟังจากรัฐบาล โดยเฉพาะงบฯสนับสนุนและสินเชื่อเสริมสภาพคล่องรับซื้อข้าวเพื่อนำราคาตลาดที่เหมาะสม กระทรวงเกษตรฯ เจ้าภาพปุ๋ยคนละครึ่ง ไม่ตอบโจทย์ชาวนาถูกต่อต้านจะเดินหน้าต่อหรือไม่ ชาวนาเรียกร้องขอให้ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาทยังมีอยู่หรือไม่ จะจับตาการประชุม นบข.วันที่ 8 พ.ย.อย่างใกล้ชิด ถ้าไม่มีข้อสรุปเพื่อส่งเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 12 พ.ย. จะไม่ทันกาลทั้งที่รัฐบาลตั้งมาแล้วกว่า 2 เดือน
นายกฯเมินดราม่าเอ็มโอยู 44
เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีประเด็นเรื่องเกาะกูด ที่ยังเป็นปัญหายังไม่จบ ยังคงมีคำถามว่าสามารถยกเลิกเอ็มโอยู 44 ได้หรือไม่ โดยนายกฯเพียงแต่ยิ้มโบกมือ แต่ไม่ตอบคำถามนี้ ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย.นายกฯได้บันทึกวีดิทัศน์คำปราศรัยเนื่องในกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ.2567 ที่ห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) และเดินทางออกไปนครคุนหมิงในเวลา 11.00 น.
ผอ.รมน.ประกาศงดของขวัญทุกชนิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ลงนามประกาศเจตนารมณ์ เรื่องการงดรับ งดให้ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ใจความว่า กอ.รมน.เป็นองค์กรหลักในการบูรณาการอำนวยการและประสานการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ เพื่อปกป้อง ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กอ.รมน.ตระหนักและให้ความสำคัญถึงการป้องกัน ป้องปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดังนั้น เพื่อผู้บริหารเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ทุกระดับ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงจัดให้มีการประกาศเจตนารมณ์ เรื่อง การงดรับ งดให้ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อปลูกฝังค่านิยม เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม สร้างทัศนคติที่ถูกต้องในการปฏิบัติราชการโดยการไม่รับ ไม่ให้ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิดในช่วงเทศกาลและทุกโอกาส เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำอันอาจมีผลต่อดุลพินิจหรือการตัดสินใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.)จะออกนโยบายดังกล่าวเช่นกัน โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) กำลังจัดทำเอกสารเสนอนายกฯลงนามต่อไป
พท.ไม่กังวล กมธ.ขุด “ทักษิณ” ชั้น 14
ที่รัฐสภา นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการรชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุม กมธ.วันที่ 7 พ.ย.มีวาระพิจารณากรณีกรมราชทัณฑ์ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพักรักษาตัวใน รพ.ตำรวจกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามมกฎหมายว่า ไม่กังวลใดๆ นายกฯไม่ได้กำชับอะไร ใครมีหน้าที่อะไรต้องดำเนินการไป ที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจกระทบข้อมูลส่วนบุคคลแล้วแต่ กมธ. การประชุมครั้งแรกของ กมธ.ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยจะไม่มา ส่วน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ทราบว่ามา เมื่อถามว่าเรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กำชับอะไรมาหรือไม่ นายประยุทธ์ตอบว่า ไม่ได้กำชับอะไร
จีบเพื่อนบ้านแก้น้ำท่วม–PM2.5
สำหรับการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 8 หรือ GMS SUMMIT และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 10 หรือ ACMECS SUMMIT ที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย.ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันเดียวกัน นายกฯได้กล่าวถึงภารกิจดังกล่าวว่า เป็นโอกาสดีจะได้พบผู้นำหลายประเทศ จะขอความร่วมมือ เพื่อเปิดตลาดการส่งออกทั่วโลก ตอนนี้เน้นย้ำเรื่อง Food Security อย่างจีนแม้มีการเกษตรเอง แต่ยังไม่เพียงพอพึ่งพาเราได้ ครั้งนี้จะได้พูดถึงการบริหารจัดการน้ำ ทั้งปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง เช่น น้ำท่วมแม่สาย ต้องคุยกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากสิ่งรุกล้ำขวางกั้น ต้องเปิดทางระบายน้ำร่วมกัน จะได้ไม่เกิดภาวะน้ำท่วมหนักขนาดนี้อีก ปัญหาฝุ่นควันตามฤดูการเผา จะเกิดขึ้นต้นปีหน้าและทำให้เกิดปัญหา PM2.5 จำเป็นต้องขอความร่วมมือเพื่อนบ้านเพราะควันมาจากหลายทิศทาง บางทีมาจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้ตั้งคณะทำงานปัญหาฝุ่นควันขึ้นแล้ว ครั้งนี้จะไปตอกย้ำให้เกิดการทำงานจริงให้เป็นรูปธรรม
เดินหน้าขยายตลาดส่งออกไทย
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า การเดินทางไปประชุมที่สาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ ไทยจะได้ตลาดส่งออกสินค้าไทยไปตอกย้ำการเดินหน้าเพราะเป็นธรรมชาติทางการเมืองทั่วโลก เมื่อเปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล เขาจะถามว่าสิ่งที่ทำอยู่ ที่เคยคุยไว้ยังทำต่อหรือไม่ รัฐบาลปัจจุบันจะเอาอย่างไรต่อไป ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ตนจะได้เน้นย้ำว่าการส่งออกเรายังสนุบสนุนอยู่ ทั้งสินค้าเกษตรและ Food Security เชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์กลับมา ถ้าประเทศไทยไปต่อ ประเทศต่างๆที่เราไปคุยเขาจะพร้อมดำเนินงานต่อไป และได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อไป
ถึงจีนรอร่วมประชุมลุ่มน้ำโขง
ต่อมาเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศและนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เดินทางถึงท่า อากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 8 และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 10 อย่างเป็นทางการ มีนางหยาง หยาง รองผู้ว่าการมณฑลยูนนาน และนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยต้อนรับ พร้อมคณะนักแสดงพื้นเมืองมณฑลยูนนาน มอบช่อดอกไม้ให้นายกฯ
หารือประธาน ADB ร่วมพัฒนาภูมิภาค
จากนั้นเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่โรงแรม InterContinental Kunming นครคุนหมิง นายกฯได้หารือกับนายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Develop ment Bank: ADB) โดยนายกฯกล่าวขอบคุณ ADB ที่สนับสนุนไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดโควิด-19 ผ่านเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการ ช่วยให้ไทยสร้างรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืน หวังว่า ADB จะร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะทางพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ไทยกำหนดเป้าหมายหลักบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านนายมาซาสึกุกล่าวว่า ไทยและ ADB ร่วมมือกันมายาวนาน พร้อมส่งมอบความรู้และแนวทางการแก้ปัญหาด้านต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ADB และไทยได้จัดทำแผนความร่วมมือด้านโครงการเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการระหว่างกัน รวมทั้งการส่งเสริมเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของไทย ADB ถือว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญ (strategic partner) ของ ADB ในการส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค เพื่อเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจไทย รวมทั้งเพื่อสร้างความเจริญให้แก่ภูมิภาคนี้ด้วย
ร่วมงานเลี้ยงผู้นำนานาชาติชื่นมื่น
ต่อมาเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธารเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 8 และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย พร้อมคู่สมรส โดยนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกฯจีน เป็นเจ้าภาพ
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
Altunizade su kaçağı tespiti Etiler su kaçağı tespiti: Etiler’de su kaçağı tespiti hizmetinde kalite. https://www.truthsocialviet.com/ustaelektrikci