“ทักษิณ” ร่วมดับกระแสเขี่ยพรรคภูมิใจไทยพ้นรัฐบาล ยันไม่คิดผลักใครเป็นฝ่ายค้าน เมินดึงพลังประชารัฐคัมแบ็กร่วมงาน มองเสียงรัฐบาลมีเยอะอยู่แล้ว ส่งสัญญาณปรับ ครม. รอบเดียว ไม่ดึงจังหวะปรับรัฐมนตรีเพื่อไทยก่อน ประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่ “เฉลิมชัย” ปลุกใจลูกทีมสร้างเอกภาพในพรรค ทวงคืนความยิ่งใหญ่เลือกตั้งปี 70 โต้ไม่คิด โกงประเทศ ทำตัวเนรคุณ ปชป. “เสรีพิศุทธ์” ด่าแรง รัฐบาลโง่ พาบ้านเมืองประสบปัญหารุมเร้า เย้ยนายกฯ แค่เด็กเมื่อวานซืน ลั่นจะเอา “ทักษิณ” เข้าคุกคดีชั้น 14 ให้ได้ ประธานวุฒิสภานอนยิ้ม ไม่กังวลดีเอสไอ เร่งลงพื้นที่หาหลักฐานมัดกระบวนการฮั้ว สว. “พิสิษฐ์” ถล่มตั้งธงมโน ล็อกเป้าเล่นงาน 138 สว.
หลังจากที่มีกระแสข่าวหนาหูในการปรับ ครม. โดยจะขับพรรคภูมิใจไทยพ้นการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ล่าสุดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ออกมายืนยันว่า ไม่มีความคิดจะผลักพรรคใดไปเป็นฝ่ายค้าน รวมถึงไม่ได้คิดที่จะดึงพรรคพลังประชารัฐกลับมาร่วมรัฐบาลใหม่
“ทักษิณ” บินเชียงใหม่ลุยหาเสียง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กทม.ไปยังท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยหาเสียงให้แก่นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มีมวลชนคนเสื้อแดงมารอพร้อมชูป้ายต้อนรับ และร่วมรดน้ำดำหัวนายทักษิณ จากนั้นนายทักษิณเดินทางไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครปฐมโอชา อ.สันกำแพง
ไม่คิดเขี่ยภูมิใจไทยพ้นรัฐบาล
ต่อมาเวลา 12.10 น. นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ต้องแล้วแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แค่ทุกคนเอาเรื่องการเมือง การบริหาร เรื่องงานบางอย่างที่ไม่ค่อยออก ติดขัดอะไรไปคุยกับนายกฯ ซึ่งนายกฯกำลังคิดพิจารณา ควรจะทำอย่างไร เป็นเรื่องของนายกฯเมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่การปรับ ครม.จะปรับเฉพาะในส่วนพรรคเพื่อไทยไปก่อน นายทักษิณตอบว่า “ไหนๆจะปรับก็ต้องปรับทีเดียว” เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่จะปรับครม. ผลักพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน นายทักษิณตอบว่า ไม่มี ไม่เคยคิดจะให้ใครออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดตรงนั้น เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการเมืองขย่มกันเองหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า มันหลายพรรค แต่ละคนมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง
ปิดประตูดึง พปชร.กลับร่วมงาน
นายทักษิณกล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวดึงพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลนั้น พรรคพลังประชารัฐมีส่วนหนึ่งที่เขาพูดคุยกับเพื่อนกลุ่มเขา เรายังไม่ได้คิดเรื่องจะดึงใคร วันนี้ส่วนใหญ่รัฐบาลคงมองว่า ที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว อาจจะปรับตำแหน่งมากกว่า เมื่อถามว่า หากงูเห่าพรรคพลังประชารัฐจะมาก็ไม่ได้ปิดทางใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ได้คุยเรื่องงูเห่าเลย คงไม่มีความจำเป็นอะไรมั้ง ตอนนี้เสียงรัฐบาลเยอะแยะ ส่วนกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะนัดฟังคำสั่ง วันที่ 30 เม.ย.ในคดีที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นศาลฎีกาฯให้ดำเนินการไต่สวนและออกหมายจับนายทักษิณมาขังไว้ตามหมายศาล เนื่องจากไม่เคยถูกจำคุกตามคำพิพากษา แต่ถูกส่งตัวไปรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลนั้น นายทักษิณกล่าวไม่ได้กังวลอะไร ทุกอย่างว่าตามกระบวนการยุติธรรม
แนะอย่าผลีผลามเจรจาสหรัฐฯ
นายทักษิณกล่าวถึงความคืบหน้าเจรจากำแพงภาษีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า เราพูดคุยกัน ซักซ้อมข้อห่วงใยของอเมริกาและไทยที่ไม่ได้ดูตัวเลขมานาน กลายเป็นมุ่งตัวเลข แต่ไม่ได้มุ่งคุณภาพการนำเข้า-ส่งออก เป็นสัญญาณเตือนภัยให้เราต้องมาปรับว่า บางประเทศเราขาดดุลเยอะเกินไป บางประเทศเกินดุลมาก จะปรับอย่างไร เหตุที่สหรัฐฯชะลอเจรจาเรื่องกำแพงภาษีนั้น เนื่องจากสหรัฐฯดีลหลายประเทศ มียุทธศาสตร์ว่าเอเชียจะเอาอย่างไร และห่วงใยเรื่องความใกล้ชิดกับจีน จะมีเรื่องที่ผูกพันนอกจากภาษีปนอยู่ด้วยในการเจรจา เราต้องไม่ผลีผลาม ใจเย็นๆดูข้อมูลให้เหมาะ มีสติการเจรจาให้ดี เมื่อถามว่า ถึงขั้นที่นายทักษิณจะขออนุญาตศาลเดินทางไปคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ดูเหตุการณ์ก่อน เมื่อถามว่า นายกฯต้องไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ส่วนใหญ่แล้วนายกฯไม่มีใครไป เพราะไม่ได้เจรจากับตัวประธานาธิบดีเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ เราใช้รัฐมนตรีไปเจรจา
ชื่นมื่นสระเกล้าดำหัว “ทักษิณ”
ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่สวนสาธารณะรถไฟอบจ.เชียงใหม่ นายทักษิณเปิดให้ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน จ.เชียงใหม่ และ สส.เพื่อไทยรดน้ำดำหัวในงาน “สระเกล้าดำหัว” โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย เป็นผู้นำทำพิธีรดน้ำดำหัว จากนั้นนายทักษิณกล่าวเป็นภาษาเหนือว่า ขอบคุณอบจ.จัดงาน กลับมาเชียงใหม่ ใจสงบ ไม่วุ่นวาย ได้ฟังเพลง พบพวกเราคนเมืองรู้สึกใจเย็นขึ้นมาก อยู่ กทม.บางทีใจมันร้อนหลายเรื่อง และร้อนการเมือง แต่มาอยู่เชียงใหม่ใจชุ่ม ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจมา เป็นคนง่ายๆ ไม่ถือสาอะไร ขอให้คิดดีทำดีเพื่อบ้านเมืองก็ดีใจแล้ว ไปอยู่เมืองนอก 10 ปี กลับมาเมืองไทยต้องทำเพื่อบ้านเมือง หากบ้านเมืองดี ลูกหลานดี ทุกคนมีความสุข ขออวยพรทุกคนสุขภาพแข็งแรง อายุยืนนาน มีความแข็งแรงทำเพื่อส่วนรวม ต้องช่วยและสามัคคี ทำให้ประเทศไทยแข็งแรง กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หรือ Make Thailand Great Again ทำให้เชียงใหม่เป็นที่ประทับใจทุกคนทั่วโลก มาเชียงใหม่แล้วมีความสุขเหมือนที่ตนมีความสุขตอนนี้
ซัดทิ่ม “พิชัย” หวังเสียบเก้าอี้แทน
นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม. ที่มีแนวโน้มนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะถูกปรับออกจาก ครม.ว่า ไม่น่ามีมูลความจริง นายพิชัยทำงานมา 6 เดือน มีผลงานเด่นชัด เจรจาการค้ากับหลายประเทศมีการทำสัญญาเอฟทีเอระหว่างกัน จนมีคู่ค้าเพิ่มขึ้นหลายประเทศทั่วโลก เป็นผลงานที่เห็นเด่นชัด ข่าวปรับนายพิชัยเป็นเรื่องคนที่ต้องการตำแหน่งนี้ จึงสร้างข่าวโจมตีไม่มีผลงาน อ้างราคาข้าว มันสำปะหลังตกต่ำ อย่าใช้สถานการณ์ทิ่มทำลายนายพิชัย แล้วหวังเข้ามาเสียบ วันนี้การปรับ ครม.ยังไม่ได้ใกล้เกิดขึ้น สถานการณ์ขณะนี้ใครจะเจรจาต่างประเทศได้เท่ากับนายพิชัย
“อิ๊งค์” โพสต์ไอจีแจ้งอาการดีขึ้น
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี โพสต์สตอรีไอจีว่า “ ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วงค่ะ ทั้งเรื่องสุขภาพ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว หมอบอกว่า น่าจะมีภาวะที่ขาดน้ำ และอากาศร้อนมาก รวมทั้งพักผ่อนน้อย หายใจได้ไม่เต็มที่ค่ะ และทุกท่านที่ห่วงเรื่องแว่น เพลียมากหลับไปทั้งแว่นเลยค่ะ แต่ไม่แตกใดๆนะคะ เพราะคุณปอเอาออกให้เรียบร้อยค่า @pidok_s ขอบคุณสามีมา ณ ที่นี้ค่ะ”
พปชร.ยันไม่หวนร่วมรัฐบาล
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐจะเข้าร่วมรัฐบาลว่า เป็นอำนาจการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ พล.อ.ประวิตรยืนยันชัดเจนหลายครั้งจะไม่เข้าร่วมแน่นอน พรรคเพื่อไทยคงต้องทนอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแบบหวานอมขมกลืน อยากเอาออก แต่ก็กลัว สว.และพรรครวมไทยสร้างชาติบางส่วนจะออกตามด้วย ต้องทนเป็นเบี้ยล่างต่อไป พยายามทำตัวเป็นต่อ แต่แท้ที่จริงแล้ว ใครถือไพ่เหนือกว่ากันแน่
“เสี่ยต่อ” ปลุกเอกภาพ ปชป.
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดประชุมว่า พรรคก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ซึ่ง 79 ปีที่ผ่านมา ผ่านวิกฤติมากมาย สถานการณ์วันนี้ที่สังคมและบริบทเปลี่ยนแปลง ทำให้พรรคอยู่ในจุดวิกฤติอีกครั้ง เหลือ สส. 25 คน ต้องยอมรับความจริง กล้าเปลี่ยนแปลง นำพรรคเดินไปข้างหน้า อยู่พรรคประชาธิปัตย์ 35 ปี เป็นสส. 24 ปี ไม่เคยเปลี่ยนอุดมการณ์ ไม่ว่าพรรคเป็นอย่างไร ไม่มีวันทิ้งพรรค จะนำประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ ความเป็นเอกภาพเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องใช้เงินสักบาท แต่ทำยาก ถ้าทำได้ เราจะกลับมาทันที 100% การเข้าร่วมรัฐบาลเป็นไปตามข้อบังคับพรรคทุกประการ เห็นต่างได้ แต่ไม่ใช่ทำให้องค์กรเสียหาย เมื่อตัดสินใจเป็นรัฐบาลแล้ว ต้องทำงานเต็มที่ พาพรรคกลับมาในเส้นทางการเมืองให้ได้ ตนและนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค มาเป็นรัฐมนตรี ถูกปรามาสจะไปโกงประเทศ เข้าไปหาเงินหาทอง หาประโยชน์ แต่ยืนยันว่า มีสำนึก ไม่มีวันเกิดเหตุการณ์นี้เด็ดขาด ไม่บ้าจี้อย่างที่กล่าวหา มีสติ รักประชาธิปัตย์ ไม่มีวันทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย ถ้ามีเรื่องพวกนี้จะกลายเป็นคนเนรคุณ 24 ปีที่ประชาธิปัตย์ให้ตนมีที่ยืน ใช้หนี้บุญคุณไม่หมด ไม่มีวันใช้หมด
โอ่กลับมาชนะเลือกตั้งปี 70
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า การขับเคลื่อนพรรค เน้นการให้ความสำคัญคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้มาร่วมทำงานได้เติบโตในเส้นทางการเมือง มีพื้นที่ให้ทุกคน คนเก่าก็มีคุณค่า แต่อยากพูดถึงคนรุ่นใหม่ เพราะเชื่อว่าจะมีคนรุ่นใหม่มาร่วมงานมากขึ้น การเลือกตั้งปี 2570 เราพร้อม จะมีผู้สมัครทุกจังหวัด ทำงานตามยุทธศาสตร์ที่พรรคกำหนดคือ ชนะเลือกตั้ง สิ่งที่คนโจมตีพรรค เพราะเราอยู่ในความสนใจ เมื่อโดนโจมตี ต้องทำตัวเองให้ดี ในฐานะหัวหน้าพรรคจะนำพาพรรคเดินไปข้างหน้าให้มั่นคง
จากนั้นนายเฉลิมชัยเป็นประธานประชุมพรรค รับรองรายงานการดำเนินงานของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา และพิจารณาเลือก น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร ทำหน้าที่โฆษกพรรค และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.ในนามพรรคอีก 11 คน อาทิ นายนริศ ขำนุรักษ์ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายธารา ปิตุเตชะ
“เสรีพิศุทธ์”ด่าแรงรัฐบาลโง่
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ พรรคเสรีรวมไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2568 เพื่อปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและตำแหน่งสำคัญอื่น โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลที่ประสบปัญหารุมเร้าว่า เมื่อโง่ ปัญหาก็รุมเร้า คิดไม่เป็น ทำไม่เป็น เด็กวานซืนอยู่ๆมาเป็นนายกฯจะเป็นอะไร ทั้งนายกฯและรัฐมนตรีทำงานไม่เป็น ส่วนกระแสข่าวปรับ ครม. นำพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นรัฐบาลนั้น ขอให้ยุบไปเลย โง่แบบนี้ไปปรับ ครม.ทำไม
ลั่นเอา “ทักษิณ” เข้าคุกให้ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ส่วนคดีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ให้ถ้อยคำ ป.ป.ช.แล้ว 2รอบ ล่าสุด ป.ป.ช.เชิญตนไปตรวจสถานที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่ไม่ไปตรวจห้องพักที่นายทักษิณรักษาตัวที่ชั้น 14 อ้างมีคนไข้อื่นนอนรักษาตัวอยู่ ไม่รู้หลอกรู้เห็นกับโรงพยาบาลหรือไม่ รู้ว่ามีคนพักรักษาตัวอยู่แล้วเรียกตนมาทำไม แบบนี้ช่วยกันหรือเปล่า จะไม่ยอมให้คดีชั้น 14 จบโดยไม่มีใครผิด จะต้องเอานายทักษิณเข้าคุกให้ได้ ป.ป.ช.เอาผิดได้ชัดเจน ฝากบอกนายทักษิณใกล้ถึงเวลาแล้ว จะตัดสินหนีก็หนีตั้งแต่วันนี้ ถ้าไม่หนีวันที่ 30 เม.ย.อาจติดคุก เพราะศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีนายทักษิณถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี แต่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจที่ช่วยเหลือระวังโดนข้อหาละเมิดอำนาจศาล จำคุก 6 เดือน นายทักษิณมีส่วนสนับสนุนต้องกลับเข้าคุกต่อคอยดูวันที่ 29 เม.ย. นายทักษิณ จะหลบไปไหน ไปเขมรหรือไม่ เพราะพวกอยู่ที่นั่น
กกต.ยังไม่เจอคำร้องซื้อเสียง
ที่ศาลาประชาคม อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการส่งมอบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ในวันที่ 27 เม.ย. โดยให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการซื้อเสียงการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราชว่า ได้รับข่าวมาเช่นกัน โดยผู้ตรวจการเลือกตั้งพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ตรวจสอบว่า มีการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง และการให้เงินหรือไม่ รับทราบจากข่าวว่า จะมีการซื้อเสียง หากมีพยานหลักฐานให้ส่ง กกต.ด้วย แต่เบื้องต้นการเลือกตั้งเขต 8 ยังไม่มีคำร้องแม้แต่เรื่องเดียว มีแต่กระแสข่าว ส่วนที่ผู้สมัครบางคนระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีใบแดงแน่นอน ถือเป็นความคิดผู้สมัคร กกต.มีหน้าที่ดูมีใครทำผิดบ้าง ถ้าเจอก็ดำเนินการ
“ทักษิณ” มั่นใจคุมไฟใต้อยู่
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเจรจากับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แก้ปัญหาความไม่สงบสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า คงมีการพูดคุยเรื่องความมั่นคงให้เข้าใจตรงกัน ทำเต็มที่ อย่างน้อยปีนี้ทุกอย่างต้องเบาบาง นำไปสู่จุดที่เป็นสันติภาพ ส่วนกรณีที่เกิดเหตุความรุนแรงกับพระและเณรนั้น เป็นเรื่องที่อุสตาซคนหนึ่งถูกลอบยิง โดยเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนทำ แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เราพยายามดูเรื่องนี้ ส่วนอีกกรณีที่หนีไปอยู่รัฐกลันตัน ตอนนี้กำลังตามตัว คิดว่าเอาอยู่
ประธานวุฒิฯนอนยิ้มไม่กังวล
นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวถึง กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ เพื่อหาหลักฐานเอาผิดการฮั้วเลือก สว.ว่า ไม่มีความเห็น เป็นประธานวุฒิสภา พูดอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่า สว.เป็นกังวลเรื่องนี้หรือไม่ เพราะดีเอสไอจะลงไปตรวจสอบถึงพื้นที่เลือกตั้ง นายมงคลตอบว่า ไม่เห็นมีอะไร จริงก็จริง ไม่จริงก็ไม่จริง ตอนนี้ยังนอนยิ้มอยู่ ไม่กังวลอะไร เมื่อถามว่าจะหารือกับ สว.หรือไม่ นายมงคลตอบว่า ยังไม่ทราบ ตนพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ซัดดีเอสไอตั้งธงมโนฮั้ว สว.
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวว่า กรณีที่ดีเอสไอลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์หาหลักฐานเอาผิดการฮั้วเลือก สว.นั้น ดีเอสไอคิดไปเรื่อยว่า มีกระบวนการฮั้ว เป็นสิทธิที่จะคิดได้ เพราะกล่าวหา สว.มาแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่รู้ว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ แต่เป้าประสงค์มีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะล็อกเป้าแค่ 138 บวกสำรอง 2 ที่มโนมีการฮั้ว ตั้งเป้าตั้งธงไว้แล้ว ยืนยันไม่กังวล ไม่รู้สึกอะไร อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าคิดว่ามีหน้าที่ก็ให้ทำไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ กกต. เพราะ สว.ชุดนี้ กกต. เป็นผู้รับรอง
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงทอง สว. กล่าวว่า ไม่อยากก้าวก่ายแนวทางสืบสวนของดีเอสไอ ในฐานะเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนมาตลอดชีวิตรับราชการ ปกติการตรวจพื้นที่เกิดเหตุ จะทำหลังจากเกิดเหตุแล้วสภาพยังอยู่ และเอาพยานไปชี้ แต่ไม่ทราบว่าดีเอสไอไปดูอะไร อย่างไร อาจทำคนละแบบก็ได้ เมื่อถามว่า การกระทำของดีเอสไอมีเป้าประสงค์หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษตอบว่า ต้องไปถามดีเอสไอ มาถามตนไม่ได้
พท.หนุนดีเอสไอไขปมฮั้ว สว.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์วันเลือก สว. หาหลักฐานปมฮั้วเลือก สว.ว่า เป็นสัญญาณดีที่ทุกฝ่ายทำหน้าที่ตัวเองตรงไปตรงมา คลี่คลายข้อกังขาสังคม จากการจำลองพบข้อพิรุธหลายประการ เช่น ผู้สมัครที่ได้คะแนนมากๆ ไม่ตื่นเต้นเหมือนรู้ผลคะแนนล่วงหน้า หรือการมีบุคคลคอยจดคะแนนใส่แฟ้มรายงานไปยังศูนย์ควบคุมกลาง เหมือนเตรียมการอย่างเป็นกระบวนการ การที่ดีเอสไอทำงานเชิงรุกทำให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบฮั้ว สว.ใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นสารตั้งต้นตรวจสอบคู่ขนานกันไป โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องใช้โอกาสนี้พิสูจน์ความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มการเมืองใดเป็นพิเศษ การที่ดีเอสไอรับความผิดฐานอั้งยี่เป็นคดีพิเศษ ยิ่งสะท้อนความผิดปกติกระบวนการเลือก สว. อาจมีเครือข่ายหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จำเป็นต้องเร่งสอบให้ความจริงปรากฏอย่างโปร่งใส ส่วนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยุติการสอบเรื่องฮั้วเลือก สว. อ้างไม่เข้าเงื่อนไขส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ต้องชี้แจงให้ชัดเจน ไม่เข้าเงื่อนไขอย่างไร การทำหน้าที่ทุกฝ่ายต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้กระบวนการเลือก สว.โปร่งใสมากที่สุด
ที่มา ไทยรัฐ
