ผู้การปากน้ำลับดาบรอเชือด พ.ต.ท. รอง ผกก.สอบสวน เสพยาไอซ์ ชี้โทษหนักถึงขั้นออกจากราชการ หลังอดีตแฟนสาวโร่แจ้งความถูกลักทรัพย์เงินจากบัญชีและยืมไปรวมกว่า 5 แสนบาท เจรจากันไม่ลงตัวเลยแฉคลิปฉาวขณะแฟนหนุ่มนั่งเสพยาไอซ์ให้ผู้บังคับบัญชาฟันวินัย แต่คดีไม่คืบหน้าจนต้องไปร้องสื่อ สุดท้ายสั่งตั้งกรรมการสอบพบมีมูลความผิดจริง แต่เจ้าตัวอยู่ระหว่างอบรมหลักสูตร ผกก. หลังส่งตัวกลับมาแล้วจะพิจารณาโทษ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากคลิปฉาวของนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง รอง ผกก.สอบสวน นั่งเสพยาไอซ์ ถูกเผยแพร่ว่อนโซเชียล โดยอดีตแฟนสาวอายุ 38 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ นำหลักฐานเอกสารและอุปกรณ์เสพยาไอซ์ของอดีตแฟนหนุ่มที่คบหากันนานเกือบ 2 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากนายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือทนายกบ หลังจากเข้าแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนเรื่องวินัยกับผู้บังคับบัญชาของอดีตแฟนหนุ่มที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีคลิปหลักฐานขณะเสพยาไอซ์ เล่นพนันออนไลน์ และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ นอกจากนี้ อดีตแฟนหนุ่มยังแอบถอนเงินจากบัญชีและยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท แล้วยังไม่เอามาคืน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เผยว่า หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าตำรวจนายนี้อยู่ในสังกัด บก.ภ.จ.สมุทรปราการ จริง มีตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สภ.พระประแดง เรื่องนี้แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เกิดขึ้นเมื่อปี 2566 ผู้เสียหายที่เป็นอดีตแฟนสาวของตำรวจนายนี้ เคยเข้าแจ้งความดำเนินคดีเรื่องลักทรัพย์ พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนพิจารณาสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาล ต่อมาหลังจากมีการฟ้องร้องกันปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายได้เจรจากัน แต่เจรจาไม่จบ ผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นคลิปที่ปรากฏในโซเชียลขณะตำรวจนายดังกล่าวนั่งเสพยาไอซ์อยู่หน้าคอม พิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เข้ามาร้องเรียนเพื่อให้ดำเนินการวินัยในส่วนของเรื่องการปกครองถึงพฤติกรรมของตำรวจนายนี้
ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เผยต่อไปว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นตรวจสอบไปแล้วเชื่อว่า มีมูลความผิดจริง แต่ขณะนี้ตำรวจนายนี้อยู่ระหว่างเข้าอบรมหลักสูตร ผกก. ไม่ได้อยู่ในการปกครองของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จึงยังไม่สามารถลงโทษได้ การอบรมน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนเศษถึงจะกลับมาประจำการ จากนั้นจะได้มีการพิจารณาคาดโทษต่อไป ทั้งนี้ ความผิดทางวินัยโทษสูงสุดถึงขั้นออกจากราชการ
“สำหรับคลิปภาพนายตำรวจขณะนั่งเสพยาไอซ์เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากตำรวจผิดจริงก็ต้องยอมรับและพ้นจากหน้าที่ ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายถูกข่มขู่ หากเกิดความหวาดกลัวมีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีก็สามารถทำได้” พล.ต.ต.วิชิตกล่าวในตอนท้าย
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
