คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

“จิราพร” นำ 5 หน่วยงานแถลงคืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า 2 สัปดาห์เศษ จับกุมแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้านบาท รายงานนายกฯ 27 มี.ค. หลังครบ 30 วัน ด้านศุลกากรยัน ตรวจยึดเข้มไม่มีระงับคดีเด็ดขาด พร้อมส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์ทันที

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 มีนาคม 2568 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครา เดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายวรณัฏฐ์ หนูรอต ที่ปรึกษาด้านการปกครองกระทรวงมหาดไทย นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.ส.ทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมการแถลงภายหลังการประชุมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

น.ส.จิราพร แถลงว่า จากข้อสั่งการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 มาตรการเร่งด่วนการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและกวาดล้าง โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 18 มีนาคม 2568 จับกุมดำเนินคดี 1,741 คดี ผู้ต้องหา 1,789 คน ของกลาง 1,285,024 ชิ้น มูลค่า 231,881,074 บาท ส่วนการปราบปรามร้านค้าที่มีที่ตั้งและออนไลน์ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ส่วนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถปิดกั้นเพจและเว็บไซต์ได้แล้วกว่า 9,500 เพจ

นอกจากนี้ ได้มีการยกระดับการทำงานที่เข้มข้น ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เข้ามาจัดการ โดยเฉพาะมีส่งข้อมูลไปยัง ปปง. เพื่อสืบเส้นทางการเงินและขยายผลการจับกุมไปถึงต้นตอรายใหญ่ อีกทั้งยังมีช่องทางการแจ้งเบาะแส พัฒนาแพลตฟอร์มให้ประชาชนสามารถแจ้งผ่านทางแอปพลิเคชันทางรัฐ และระยะยาวจะมีการพิจารณาทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า หลังจากการดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นจะรายงานนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับมอบหมาย 30 วัน หรือในวันที่ 27 มีนาคม 2568 ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำงานอย่างเข้มข้นเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ ส่งรายงานให้กับนายกรัฐมนตรีถึงสถิติการจับกุม อุปสรรคและข้อปัญหาต่างๆ ที่จะมีการแก้ไขปัญหาทางระยะสั้นและระยะยาว

ทางด้าน พล.ต.ท.อัครา กล่าวว่า การจับกุมผู้นำเข้าจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2567 มีการจับกุมไปกว่า 1,400 ราย ของกลางกว่า 1,600,000 ชิ้น มูลค่าการจับกุม 300 กว่าล้านบาท และปี 2568 ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน จับกุมกว่า 1,800 ราย ของกลางกว่า 1,400,000 ชิ้น แต่ไฮไลต์อยู่ในช่วงที่รัฐบาลดำเนินการเข้มงวดกวดขัน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2568 ได้มีการจับกุมไปแล้วกว่า 1,700 ราย ของกลางกว่า 1 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการจับกุมรายใหญ่ถึง 24 ราย ของกลาง 1,200,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 248 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการจับกุมปี 2567 เราจับกุมได้ขึ้นกว่า 468 ราย

“จิราพร” นำ 5 หน่วยงานแถลงคืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า 2 สัปดาห์เศษ จับกุมแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้านบาท รายงานนายกฯ 27 มี.ค. หลังครบ 30 วัน ด้านศุลกากรยัน ตรวจยึดเข้มไม่มีระงับคดีเด็ดขาด พร้อมส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์ทันที

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 มีนาคม 2568 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครา เดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายวรณัฏฐ์ หนูรอต ที่ปรึกษาด้านการปกครองกระทรวงมหาดไทย นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) น.ส.ทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมการแถลงภายหลังการประชุมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

น.ส.จิราพร แถลงว่า จากข้อสั่งการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 มาตรการเร่งด่วนการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและกวาดล้าง โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 18 มีนาคม 2568 จับกุมดำเนินคดี 1,741 คดี ผู้ต้องหา 1,789 คน ของกลาง 1,285,024 ชิ้น มูลค่า 231,881,074 บาท ส่วนการปราบปรามร้านค้าที่มีที่ตั้งและออนไลน์ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ส่วนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถปิดกั้นเพจและเว็บไซต์ได้แล้วกว่า 9,500 เพจ

คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

00:00/01:00

Truvid

auto skip

https://csync-global.smartadserver.com/3356/CookieSync.html
คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

นอกจากนี้ ได้มีการยกระดับการทำงานที่เข้มข้น ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เข้ามาจัดการ โดยเฉพาะมีส่งข้อมูลไปยัง ปปง. เพื่อสืบเส้นทางการเงินและขยายผลการจับกุมไปถึงต้นตอรายใหญ่ อีกทั้งยังมีช่องทางการแจ้งเบาะแส พัฒนาแพลตฟอร์มให้ประชาชนสามารถแจ้งผ่านทางแอปพลิเคชันทางรัฐ และระยะยาวจะมีการพิจารณาทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

https://ea0ad70650e2579bc236e1182a38e0fe.safeframe.googlesyndication.com/safeframe/1-0-41/html/container.html

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า หลังจากการดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นจะรายงานนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับมอบหมาย 30 วัน หรือในวันที่ 27 มีนาคม 2568 ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำงานอย่างเข้มข้นเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ ส่งรายงานให้กับนายกรัฐมนตรีถึงสถิติการจับกุม อุปสรรคและข้อปัญหาต่างๆ ที่จะมีการแก้ไขปัญหาทางระยะสั้นและระยะยาว

ทางด้าน พล.ต.ท.อัครา กล่าวว่า การจับกุมผู้นำเข้าจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2567 มีการจับกุมไปกว่า 1,400 ราย ของกลางกว่า 1,600,000 ชิ้น มูลค่าการจับกุม 300 กว่าล้านบาท และปี 2568 ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน จับกุมกว่า 1,800 ราย ของกลางกว่า 1,400,000 ชิ้น แต่ไฮไลต์อยู่ในช่วงที่รัฐบาลดำเนินการเข้มงวดกวดขัน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2568 ได้มีการจับกุมไปแล้วกว่า 1,700 ราย ของกลางกว่า 1 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการจับกุมรายใหญ่ถึง 24 ราย ของกลาง 1,200,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 248 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการจับกุมปี 2567 เราจับกุมได้ขึ้นกว่า 468 ราย

คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

เตรียมอ้าปากค้างหลังได้รู้เรื่องราวของเธอคนนี้

Herbeauty

ขณะที่ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ศุลกากรเป็นเหมือนด่านหน้าดูแลสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ไม่ได้ผลิตในเมืองไทย เพราะฉะนั้นสินค้าที่มีการขายกันอยู่ต้นทางมาจากต่างประเทศ กลไกกรมศุลกากรถือว่ามีความสำคัญในการควบคุม ซึ่งมาตรการที่ทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มาจนถึงข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร นำระบบข้อมูลบัญชีสินค้ามาขยายผลเชื่อมโยงข้อมูลผู้นำเข้าและประเทศต้นทาง

อีกหนึ่งมาตรการคือการตรวจสอบทางกายภาพทุกการขนส่งสินค้าทางเรือที่มีความเสี่ยงนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย บุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าอื่นที่เป็นของต้องห้าม และของต้องจำกัดการนำเข้าทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ โดยจะมีสัดส่วนเปิดตรวจทางกายภาพ ซึ่งในกรณีของบุหรี่ไฟฟ้ามีการเพิ่มสัดส่วนการเปิดตรวจเข้มข้นในระดับสูงสุด

สำหรับมาตรการตามแนวชายแดนและตามลำน้ำ พบว่าจะมีการลักลอบเข้ามาตามบริเวณแนวด่านชายแดน และจะมีการคุยกับศุลกากรประเทศต้นทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ยืนยันจะไม่มีการตกลงยอมความระงับคดีในชั้นศุลกากรโดยเด็ดขาด และจะดำเนินคดีสูงสุดในทุกกรณี พร้อมมาตรการเชิงรุก ตรวจโกดังสินค้า และสถานที่ทำการไปรษณีย์รวมถึงบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีการขอหมายศาลเข้าตรวจค้น ซึ่งเป็นมาตรการที่เริ่มดำเนินการแล้ว.

ที่มา ไทยรัฐ

ผู้นำเสนอข่าว

yoko

Written by:

3,989 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

2 thoughts on “คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า จับแล้ว 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 231 ล้าน ส่ง ปปง. สืบยึดทรัพย์

You May Have Missed