วาเลนไทน์ มอบใบโพธิ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์-พระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นของที่ระลึก
พบนักท่องเที่ยวจีนคึกคักไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์และกลุ่มโบราณสถานสระมรกตมีหอการค้าปราจีนฯ-มัคคุเทศก์น้อยโรงเรียนวัดต้นโพธิ์นำเที่ยวชม
วันนี้ 13 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า บรรยากาศก่อนถึงวันแห่งความรัก ที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและโดยเฉพาะชาวจีน ได้เดินทางมาท่องเที่ยวชม – นมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยมีนางรัชนี หรือ เปิล เทียบแก้ว รองประธานสภาหอการค้า จ.ปราจีนบุรีและ นักเรียน-ครู เป็นมัคคุเทศก์น้อยให้การต้อนรับ แนะนำประกอบการนมัสการ-เที่ยวชม พร้อมในโอกาสวาเลนไทน์ ได้มอบใบโพธิ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่นักเรียนวัดต้นโพธิ์ และครูได้นำใบจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ล่วงหล่นจากต้นแล้วมาหมัก ปิดทอง – พร้อมมอบพระเครื่องพระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นของที่ระลึกแก่ นทท.
หลังจากนมัสการ-ปิดทองไหว้พระที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ได้เดินทางเที่ยวชมแห่งโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ยุคทวารวดี อาทิ กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ,เมืองศรีมโหสถ อย่างคึกคัก ก่อนถึงวันมาฆะบูชา – วันแห่งความรักพรุ่งนี้ (14ก.พ.) และ หลังท่องเที่ยว ยังมีร้านอาหารใน อ.ศรีมโหสถหลายแห่งรองรับด้วย
กลุ่มนักเรียนมัคคุเทศก์น้อย ร.ร.วัดต้นโพธิ์ กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวที่วัดต้นโพธิ์แห่งนี้ ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิสถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรกลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่าพระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดียแล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ในวันวิสาขบูชาจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ และเร็ว ๆ นี้ ในวันมาฆะบูชา ในเทศกาลมาฆะปูรมีศรีปราจีน จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ด้วย กลุ่มนักเรียนมัคคุเทศก์น้อย ร.ร.วัดต้นโพธิ์ กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า ส่วนกลุ่มโบราณสถานสระมรกต ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท
บนแผ่นศิลาแลงตามธรรมชาติและด้วยความกว้างของสองพระบาทรวม 3.10 เมตร ยาวกว่า 3 เมตร ทำให้รอยพระบาทคู่นี้ถือว่าเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อสังเกตบนฝ่าพระบาทจะพบรูปธรรมจักรนูนขึ้นมา และมีร่องรอยกากบาทอยู่ตรงกลางสันนิษฐานว่าเป็นร่องสำหรับปักฉัตรของกษัตริย์
ถัดมาไม่ไกลจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระพุทธรูปและโบราณวัตถุจำนวนมากอยู่ในบ่อ ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเขมรโบราณ
นอกจากนี้ ที่ใกล้เคียงกันที่เมืองศรีมโหสถ ยังมีสระแก้วและสระขวัญเป็นสระน้ำโบราณที่ใช้ประกอบพิธีกรรม สังเกตจากภาพสลักรูปสัตว์บน ศิลาแลงที่ขอบสระ ส่วนสระบัวหล้าและอาคารศรีมโหสถนั้นเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานเมืองศรีมโหสถและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในบริเวณนี้
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net