รวบนักธุรกิจชื่อดังเมืองเชียงใหม่ตุ๋นนักธุรกิจอัญมณี สูญเงินไปกว่า22 ล้านบาทมิหนำซ้ำยังมีการหลอกระดมเงินลงทุนรถไฟความเร็วสูง

รวบนักธุรกิจชื่อดังเมืองเชียงใหม่ตุ๋นนักธุรกิจอัญมณี สูญเงินไปกว่า22 ล้านบาทมิหนำซ้ำยังมีการหลอกระดมเงินลงทุนรถไฟความเร็วสูง

รวบนักธุรกิจชื่อดังเมืองเชียงใหม่
ตุ๋นนักธุรกิจอัญมณี สูญเงินไปกว่า22 ล้านบาท
มิหนำซ้ำยังมีการหลอกระดมเงินลงทุนรถไฟความเร็วสูง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1.บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1.บก.ป. และ พ.ต.ท.เผ่าภูมิ สมหมาย รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1.บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร สว.กก.1.บก.ป., ร.ต.อ.นัฐพล ทะเลน้อย, ร.ต.อ.พอช นกพลับ รอง สว.(สอบสวน) กก.1.บก.ป., ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ จำปาสาร, ร.ต.ท.เอกลักษณ์ รุ่งเรือง, ร.ต.ท.วิมล ฤทธิยา รอง สว.(ป.) กก.1.บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1.บก.ป.

ร่วมกันจับกุม นายรวีโรจน์ฯ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ. 794/2565ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม”

สถานที่จับกุม บริเวณห้องพัก โรงแรมย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี พ.ศ.2558 นายรวีโรจน์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ร่วมกับพวก หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจอัญมณีให้มาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอัญมณีแบบครบวงจร โดยผู้ต้องหาได้แอบอ้างว่าตนเองเป็นกลุ่มนายทุนเจ้าของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง มีเงินฝากในธนาคารต่างประเทศคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๒ แสนล้านบาท โดยอ้างว่าจะให้เงินสนับสนุนกับผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท หากผู้เสียหายมาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอัญมณีกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยก่อนที่ผู้เสียหายจะได้รับเงินสนับสนุนจำนวนดังกล่าว เสียหายจะต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการและค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการนำเงินเข้ามาในประเทศไทยให้กับกลุ่มผู้ต้องหาก่อน ซึ่งในห้วงนั้นผู้ต้องหาได้มีการปลอมหนังสือค้ำประกันของธนาคาร HSBC (The Hongkong and Shanghai Bank) สาขานิวยอร์ก นำมาแสดงให้ผู้เสียหายเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหามีเงิน ในบัญชีอยู่จริง (ปรากฏยอดเงินเป็นจำนวน 8,775,105,000 ดอลล่าร์) ภายหลังผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินค่าดำเนินการต่างๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 22,480,000 บาท ไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดจ่ายเงินทุนสนับสนุนดังกล่าว ผู้ต้องหากลับไม่จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ พร้อมกับบ่ายเบี่ยง และหลบหนีไปในที่สุด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.๑ บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและพวกตามกฎหมาย

จากการสืบสวนของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1.บก.ป. ทำให้ทราบว่า เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2560 นายรวีโรจน์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และภายหลังได้ถูกทางการ ประเทศแองโกลาจับกุมพร้อมกับพวกในนามตัวแทนบริษัทฯ (เป็นบริษัทฯ ประกอบธุรกิจกิจการค้าขายสินค้าทางการเกษตร, ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์) โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสารเช็คและฟอกเงิน” เนื่องจากบริษัทฯ ของผู้ต้องหาได้มีการเซ็นสัญญาลงทุนกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศแองโกลา และได้มีการนำเช็คจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์ เข้าเปิดบัญชีในนามของบริษัทฯ ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศแองโกลา เพื่อเป็นเงินลงทุนในประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้มีการเตรียมเข้าเซ็นสัญญากับรัฐบาลของทางแองโกลา แต่ภายหลังรัฐบาลของประเทศเเองโกลาตรวจพบการกระทำความผิด จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหา
ซึ่งต่อมาเมื่อนายรวีโรจน์ฯ (ผู้ต้องหา) พ้นโทษจำคุกที่ประเทศแองโกลาแล้ว ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยได้กลับมาก่อเหตุหลอกลวงในลักษณะเช่นเดิม ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาได้มีการหลอกระดมคนให้นำเงินมาร่วมลงทุนในธุรกิจรถไฟความเร็วสูงที่ผู้ต้องหาจะสร้างขึ้นในประเทศไทย โดยผู้ที่สามารถระดมคนให้นำเงินมาร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาได้ จะได้รับผลตอบเเทนเป็นเงินจำนวน 5-10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้มีการนัดกลุ่มนักการเมืองพรรคดังพรรคหนึ่งมาประชุมหารือที่โรงแรมย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะเช่นเดิม โดยอ้างว่าตนเองมีเงินฝากอยู่ในบัญชีธนาคารในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก หากกลุ่มนักการเมืองให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาในความผิดที่ถูกออกหมายจับได้นั้น ผู้ต้องหาจะนำเงินเข้ามาช่วยสนับสนุนในการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าการสนับสนุนของผู้ต้องหาดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนเกิดความศรัทธากับพรรคการเมืองดังกล่าวมากขึ้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังเข้า ตรวจสอบที่โรงเเรมย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยเมื่อพบนายรวีโรจน์ฯ จึงได้เข้าจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1.บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป​จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

​ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่าน หากประชาชนท่านใดถูกคนร้ายหลอกลวงด้วยพฤติการณ์ในลักษณะข้างต้นนี้ ขอให้อย่าหลงเชื่อ อย่านำเงินไปร่วมลงทุนตามโครงการต่างๆ ตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ขอให้ท่านเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ กองกำกับการ 1.กองบังคับการปราบปราม

ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก

เว็บไซต์: https://kardchuek.net

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,273 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *