พยานดาบตำรวจพร้อมเพื่อนสนิทเหยื่อ”แอมไซยาไนด์”รายล่าสุดที่มุกดาหาร ให้ปากคำกองปราบ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 เวลา 16.00 น. ที่กองปราบปราม
ภายหลัง ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.สตม. หรือ นายต้า สามีของ น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือ หนิม อายุ 40 ปี เหยื่อรายล่าสุดที่พบเสียชีวิตในพื้นที่ จ.มุกดาหาร พร้อมด้วย น.ส.จอย เพื่อนสนิทของ น.ส.สาวิตรี เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบโดยใช้เวลานานร่วม 7 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
ด.ต.นิติพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้ปากคำ เนื่องจากเมื่อวานนี้ตำรวจกองปราบปราม ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบว่ามีการโอนเงินจากภรรยาของตนไปให้ นางสรารัตน์ หรือ แอม จำนวนหลายแสนบาท จึงสงสัยในการเสียชีวิตของภรรยาว่าจะเกี่ยวข้องกับนางสรารัตน์ เลยเชิญมาให้ข้อมูล ทั้งนี้ภรรยาตนเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 63 ที่บ้านที่จังหวัดมุกดาหาร โดยภรรยาเพิ่งจะคลอดลูกได้ประมาณเดือนกว่าๆ สุขภาพก็แข็งแรงดี ซึ่งตนจะวิดีโอคอลพูดคุยกับภรรยาอยู่ตลอด วันเกิดเหตุก็คุยเกือบทั้งวัน ก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่พอช่วงเย็น ภรรยาก็นอนเป็นลมหมดสติไป พอตนรู้จากลูกชายคนโต จึงบอกให้เพื่อนบ้านไปช่วยดู ก็พบว่าภรรยามีอาการปากเขียว นิ้วเขียวไปแล้ว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ซึ่งแพทย์ก็ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้
โดยบอกว่าตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติ แต่ตอนที่ตนไปรับศพภรรยา ลักษณะคือมีเลือดออกที่ริมฝีปาก / ปลายนิ้วเขียว และอุจจาระราด ทั้งนี้ ตอนนั้นตนไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต เพราะเข้าใจว่าภรรยาคงจะอ่อนเพลียเพราะเพิ่งคลอดลูก และทำงานหนักเลี้ยงลูก จนอาจจะหัวใจล้มเหลวได้ และไม่ได้สงสัยใคร เพราะภรรยาไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใครที่ไหน จึงไม่ได้ชันสูตรศพโดยละเอียดต่อ
ด.ต.นิติพนธ์ กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาของตนกับ นางสรารัตน์ แอม ทราบว่ารู้จักผ่านวงแชร์ออนไลน์เมื่อประมาณปี 59-60 ซึ่งทั้งคู่เคยเป็นลูกแชร์ด้วยกัน แต่วงแชร์ล้ม เลยนัดกันมาเจอเพื่อจะปรึกษาเรื่องตามทวงเงิน แล้วหลังจากนั้นก็พบปะพูดคุยกันมาตลอด ตนเองก็เคยไปเจอนางสรารัตน์ 2 ครั้ง ก็ดูเป็นคนปกติทั่วไป ไม่ได้มีอะไรน่าสงสัย ซึ่งเท่าที่ตนรู้ นางสรารัตน์ มักจะคุยกับภรรยาตนเรื่องแชร์ และมีการชวนไปปล่อยเงินกู้ ชักชวนลงทุน ให้เอาเงินไปให้ และยังเคยแนะนำเพจขายน้ำมันพืชออนไลน์ราคาถูกสำหรับนำไปขายต่อให้ ซึ่งภรรยาตนก็เคยลงทุนไป 4 หมื่นบาทแล้วก็ถูกโกง
และภรรยาก็เคยมาเล่าว่า นางสรารัตน์ ชอบมายืมเงิน แต่ตนไม่รู้ว่าเท่าไหร่ โดยวันนี้ได้นำโทรศัพท์มือถือมาให้ตำรวจตรวจสอบ ก็พบสลิปโอนเงินที่ภรรยาโอนไปให้ นางสรารัตน์หลายแสนบาท และก่อนเสียชีวิต ภรรยาก็เล่าให้ฟังว่า นางสรารัตน์มาแนะนำยาลดวามอ้วน เพราะว่าภรรยาตนเพิ่งคลอดลูก บอกว่าจะส่งยามาให้ ซึ่งหลังภรรยาตนเสียชีวิต ตนก็ไปพบว่าบนหัวเตียงมียาแคปซูลวางอยู่ แบบที่ไม่ได้ใส่ในบรรจุภัณฑ์อะไร ใส่แค่กล่องใสๆ
และหลังจากภรรยาตนเสียชีวิตไป นาวสรารัตน์ ก็ยังโทรมาถามว่า ภรรยาตนเป็นอะไรรึเปล่า เมื่อคืนคุยกันอยู่ดีๆ แล้วก็ติดต่อไม่ได้ พอรู้ว่าเสียชีวิตก็ยังแสดงความเสียใจ แต่ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีก
“พอตนเห็นข่าว ก็นอนไม่หลับไปหลายคืน เพราะเชื่อว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ภรรยาจะเสียชีวิตโดยเกี่ยวข้องกับนางสรารัตน์ เพราะเรื่องราวมันคล้ายกันมาก ซึ่งแม้ตอนนี้หลักฐานของตนจะแทบไม่เหลือแล้ว แต่ก็จะมาให้ข้อมูลเรื่องพฤติการณ์เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ อะไรทำได้ก็ทำเต็มที่”
ขณะที่ น.ส.จอย กล่าวว่า รู้จักกับนางสรารัตน์ เพราะถูกโกงแชร์ ก็ติดต่อกันมาตลอด โดย นางสรารัตน์ มักจะมายืมเงินอยู่บ่อยๆ แต่ก็คืนให้ ยอดมีตั้งแต่ 2-3 พัน ไปจนถึง 5-6 หมื่น ตอนนี้มียอดค้างอยู่ประมาณ 2 หมื่น ซึ่งนางสรารัตน์ บอกว่า ไม่เคยยืมเงินใคร ยืมแค่ตน มีแต่โดนคนอื่นยืมแล้วไม่คืน นอกจากนี้ยอมรับว่า นางสรารัตน์เคยชวนไปสวดมนต์ไหว้พระตลอด ตนก็เคยไปแต่ไม่ไปคนเดียว จะพาแฟนพาน้องไปด้วย ช่วงโควิดระบาดใหม่ๆ นางสรารัตน์ ก็เคยส่งยาแก้โควิดมาให้ บอกว่าพี่สาวขายยา แต่ตนกินแล้วก็ไม่พบความผิดปกติอะไร แต่ล่าสุด นางสรารัตน์ ถามว่า อยากกินหมูแผ่นไหม จะส่งให้จากนครปฐม แต่ตนปฏิเสธไป ซึ่งไม่รู้ว่าถ้ากินจะยังรอดชีวิตหรือไม่ ตอนนี้รู้สึกโชคดีที่รอดตาย
น.ส.จอย เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา ตอนประมาณช่วงเที่ยง นางสรารัตน์ ได้ส่งข้อความมาถามว่า ตอนที่ตนเคยเล่าให้ฟังว่าเพื่อนหาย ตำรวจตามให้มั้ย ตามยังไงบ้าง ตามภายใน 24 ชั่วโมงเลยมั้ย โดยบอกว่า น้องของเพื่อนหายไปเมื่อเช้า มีอาการเป็นซึมเศร้า โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง กลัวว่าจะไปฆ่าตัวตาย หรือจะถูกผู้ชายพาไปฆ่า
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net